ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าฟ้ากุณฑล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ฉัตรา (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{เก็บกวาดบุคคล}}
{{เก็บกวาดบุคคล}}
'''เจ้าฟ้ากุณฑล และเจ้าฟ้ามงกุฎ''' เป็นพระราชธิดาใน[[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ]]และ[[เจ้าฟ้าสังวาลย์]] เป็นพระขนิษฐาต่างพระมารดาของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ไชยเชษฐสุริยวงศ์หรือเจ้าฟ้ากุ้ง บางคนนั้นอาจจะไม่รู้จักเจ้าฟ้าทั้งสองคนนี้ แต่เจ้าฟ้าทั้งสองนั้นเป็นผู้พระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง[[ดาหลัง]] และ[[อิเหนา]]ที่ทุกคนรู้จักกัน
'''เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ''' เป็นพระราชธิดาใน[[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ]]และ[[เจ้าฟ้าสังวาลย์]] และเป็นพระขนิษฐาต่างพระมารดาของ[[เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐสุริยวงศ์]] (เจ้าฟ้ากุ้ง) เจ้าฟ้าทั้ง 2 พระองค์นั้นเป็นผู้พระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง[[ดาหลัง]]และ[[อิเหนา]]


== พระประวัติ ==
== พระประวัติ ==
ในแผ่นดิน[[กรุงศรีอยุธยา]]นั้น สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีเจ้าฟ้าที่เป็นยอดกวีของกรุงศรีอยุธยา ได้แก่ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ รวมทั้ง เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎด้วย เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศและเจ้าฟ้าสังวาลย์ วันหนึ่งมีนางข้าหลวงจาก[[ปัตตานี]]มาเป็นพระพี่เลี้ยงของเจ้าฟ้าทั้งสองชื่อว่ายายยะโว ยายยะโวนั้นชอบเล่านิทาน[[ปรัมปรา]]ต่างๆ ให้เจ้าฟ้าทั้งสองฟัง วันหนึ่งยายยะโวเล่าเรื่องอิเหนาให้ฟังแต่เล่าไม่จบเพราะยายยะโวต้องไปธุระ เจ้าฟ้าทั้งสองจึงแอบออกจากพระตำหนักมาหอสมุดเพื่อหาอ่านกัน แต่ไปเจอเจ้าฟ้ากุ้งเสียก่อน เจ้าฟ้ากุ้งจึงเล่าเรื่องอิเหนาให้ฟังจนจบ เจ้าฟ้าทั้งสองชอบเรื่องอิเหนาเป็นอย่างมากจึงเอาไปแสดงเล่นกับเหล่าเจ้าฟ้าบ่อยครั้ง อีกทั้งได้ให้เจ้าฟ้ากุ้งสอนกวีนิพนธ์ต่างๆด้วย หลายปีต่อมาคนฝึกซ้อมละครในไม่มีพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเห็นว่าเจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎนั้นได้เก่งด้านนี้จึงให้เจ้าฟ้าทั้งสองเป็นคนฝึกซ้อมละครในแทน เมื่อฝึกซ้อมแล้วเอาไปแสดง นานเข้าคนดูเริ่มเบื่อ เจ้าฟ้าทั้งสองจึงคิดที่จะแต่งบทละครกันเองโดยได้ปรึกษากันว่าจะแต่งเรื่อง[[อิเหนา]] แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาตอนไหนมาแต่งดีอีกทั้งความคิดของเจ้าฟ้าทั้งสองไม่ตรงกันจึงไปปรึกษาพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงให้แต่งกันคนละเรื่อง เจ้าฟ้าทั้งสองใช้เวลานานกว่าเดือนกว่าจะแต่งเสร็จ เมื่อแต่งเสร็จก็ไปให้พระเจ้าอยู่หัวพรมโกศทอดพระเนตร พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงให้เจ้าฟ้าทั้งสองนำไปแสดงเป็นละคร โดยเจ้าฟ้ากุณฑลพระราชนิพนธ์เรื่องดาหลัง ส่วนเจ้าฟ้ามงกุฎพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาพอเอาไปแสดงละครแล้วปรากฏว่าคนดูชอบของเจ้าฟ้ามงกุฎมากกว่า พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงอนุญาตให้นำบทละครทั้งสองมาแสดงสืบต่อมา แต่ครั้น[[เสียกรุงครั้งที่ 2]] ต้นฉบับทั้ง 2 ก็ได้หายสาบสูญไป จนสมัย[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช]]และ[[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]]ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใหม่
ในแผ่นดิน[[กรุงศรีอยุธยา]]นั้น สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีอยู่สามเจ้าฟ้าที่เป็นยอดกวีของกรุงศรีอยุธยา ได้แก่ [[เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ไชยเชษฐสุริยวงศ์]] (เจ้าฟ้ากุ้ง) รวมไปถึงเจ้าฟ้าหญิงกุณฑล และเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎด้วย

'''เจ้าฟ้ากุณฑล และเจ้าฟ้ามงกุฎ'''เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และเจ้าฟ้าสังวาลย์ วันหนึ่งมีนางข้าหลวงจาก[[ปัตตานี]]มาเป็นพระพี่เลี้ยงของเจ้าฟ้าทั้งสองชื่อว่ายายยะโว ยายยะโวนั้นชอบเล่านิทานปรัมปราต่างๆ ให้เจ้าฟ้าทั้งสองฟัง วันหนึ่งยายยะโวเล่าเรื่องอิเหนาให้ฟังแต่เล่าไม่จบเพราะยายยะโวต้องไปธุระ เจ้าฟ้าทั้งสองจึงแอบออกจากพระตำหนักมาหอสมุดเพื่อหาอ่านกัน แต่ไปเจอเจ้าฟ้ากุ้งเสียก่อน เจ้าฟ้ากุ้งจึงเล่าเรื่องอิเหนาให้ฟังจนจบ เจ้าฟ้าทั้งสองชอบเรื่องอิเหนาเป็นอย่างมากจึงเอาไปแสดงเล่นกับเหล่าเจ้าฟ้าบ่อยครั้ง อีกทั้งได้ให้เจ้าฟ้ากุ้งสอนกวีนิพนธ์ต่างๆด้วย หลายปีต่อมาคนฝึกซ้อมละครในไม่มีพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเห็นว่าเจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎนั้นได้เก่งด้านนี้จึงให้เจ้าฟ้าทั้งสองเป็นคนฝึกซ้อมละครในแทน เมื่อฝึกซ้อมแล้วเอาไปแสดง นานเข้าคนดูเริ่มเบื่อ เจ้าฟ้าทั้งสองจึงคิดที่จะแต่งบทละครกันเองโดยได้ปรึกษากันว่าจะแต่งเรื่อง[[อิเหนา]] แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาตอนไหนมาแต่งดีอีกทั้งความคิดของเจ้าฟ้าทั้งสองไม่ตรงกันจึงไปปรึกษาพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงให้แต่งกันคนละเรื่อง เจ้าฟ้าทั้งสองใช้เวลานานกว่าเดือนกว่าจะแต่งเสร็จ เมื่อแต่งเสร็จก็ไปให้พระเจ้าอยู่หัวพรมโกศทอดพระเนตร พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงให้เจ้าฟ้าทั้งสองนำไปแสดงเป็นละคร โดยเจ้าฟ้ากุณฑลพระราชนิพนธ์เรื่องดาหลัง ส่วนเจ้าฟ้ามงกุฎพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาพอเอาไปแสดงละครแล้วปรากฏว่าคนดูชอบของเจ้าฟ้ามงกุฎมากกว่า พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงอนุญาตให้นำบทละครทั้งสองมาแสดงสืบต่อมา แต่ครั้นเสียกรุงครั้งที่ 2 ต้นฉบับทั้ง 2 ก็ได้หายสาบสูญไป จนสมัย[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช]] รัชกาลที่ 1 และ[[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]] รัชกาลที่ 2 ได้ทรงมาพระราชนิพนธ์ใหม่



== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
บรรทัด 13: บรรทัด 10:
{{จบอ้างอิง}}
{{จบอ้างอิง}}


{{เรียงลำดับ|จ}}

[[หมวดหมู่:ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]
[[หมวดหมู่:เจ้าฟ้า|ก]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:07, 3 พฤศจิกายน 2552

เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศและเจ้าฟ้าสังวาลย์ และเป็นพระขนิษฐาต่างพระมารดาของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐสุริยวงศ์ (เจ้าฟ้ากุ้ง) เจ้าฟ้าทั้ง 2 พระองค์นั้นเป็นผู้พระราชนิพนธ์บทละครเรื่องดาหลังและอิเหนา

พระประวัติ

ในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยานั้น สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีเจ้าฟ้าที่เป็นยอดกวีของกรุงศรีอยุธยา ได้แก่ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ รวมทั้ง เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎด้วย เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศและเจ้าฟ้าสังวาลย์ วันหนึ่งมีนางข้าหลวงจากปัตตานีมาเป็นพระพี่เลี้ยงของเจ้าฟ้าทั้งสองชื่อว่ายายยะโว ยายยะโวนั้นชอบเล่านิทานปรัมปราต่างๆ ให้เจ้าฟ้าทั้งสองฟัง วันหนึ่งยายยะโวเล่าเรื่องอิเหนาให้ฟังแต่เล่าไม่จบเพราะยายยะโวต้องไปธุระ เจ้าฟ้าทั้งสองจึงแอบออกจากพระตำหนักมาหอสมุดเพื่อหาอ่านกัน แต่ไปเจอเจ้าฟ้ากุ้งเสียก่อน เจ้าฟ้ากุ้งจึงเล่าเรื่องอิเหนาให้ฟังจนจบ เจ้าฟ้าทั้งสองชอบเรื่องอิเหนาเป็นอย่างมากจึงเอาไปแสดงเล่นกับเหล่าเจ้าฟ้าบ่อยครั้ง อีกทั้งได้ให้เจ้าฟ้ากุ้งสอนกวีนิพนธ์ต่างๆด้วย หลายปีต่อมาคนฝึกซ้อมละครในไม่มีพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเห็นว่าเจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎนั้นได้เก่งด้านนี้จึงให้เจ้าฟ้าทั้งสองเป็นคนฝึกซ้อมละครในแทน เมื่อฝึกซ้อมแล้วเอาไปแสดง นานเข้าคนดูเริ่มเบื่อ เจ้าฟ้าทั้งสองจึงคิดที่จะแต่งบทละครกันเองโดยได้ปรึกษากันว่าจะแต่งเรื่องอิเหนา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาตอนไหนมาแต่งดีอีกทั้งความคิดของเจ้าฟ้าทั้งสองไม่ตรงกันจึงไปปรึกษาพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงให้แต่งกันคนละเรื่อง เจ้าฟ้าทั้งสองใช้เวลานานกว่าเดือนกว่าจะแต่งเสร็จ เมื่อแต่งเสร็จก็ไปให้พระเจ้าอยู่หัวพรมโกศทอดพระเนตร พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงให้เจ้าฟ้าทั้งสองนำไปแสดงเป็นละคร โดยเจ้าฟ้ากุณฑลพระราชนิพนธ์เรื่องดาหลัง ส่วนเจ้าฟ้ามงกุฎพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาพอเอาไปแสดงละครแล้วปรากฏว่าคนดูชอบของเจ้าฟ้ามงกุฎมากกว่า พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงอนุญาตให้นำบทละครทั้งสองมาแสดงสืบต่อมา แต่ครั้นเสียกรุงครั้งที่ 2 ต้นฉบับทั้ง 2 ก็ได้หายสาบสูญไป จนสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใหม่

อ้างอิง

  • หนังสือเรื่อง เจ้าฟ้ากุณฑล เจ้าฟ้ามงกุฎกับบทพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนา ของบริษัท EQ plus