ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กินทามะ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 233: | บรรทัด 233: | ||
[[หมวดหมู่:การ์ตูนญี่ปุ่น]] |
[[หมวดหมู่:การ์ตูนญี่ปุ่น]] |
||
[[หมวดหมู่:การ์ตูนญี่ปุ่นแนวโชเน็น]] |
[[หมวดหมู่:การ์ตูนญี่ปุ่นแนวโชเน็น]] |
||
[[หมวดหมู่:การ์ตูนญี่ปุ่นแนวตลก]] |
|||
[[หมวดหมู่:การ์ตูนญี่ปุ่นแนวไซไฟ]] |
|||
[[หมวดหมู่:สยามอินเตอร์คอมมิกส์]] |
|||
[[ca:Gintama]] |
[[ca:Gintama]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:05, 29 ตุลาคม 2552
กินทามะ | |
ไฟล์:Gintama.jpg โปสเตอร์ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องกินทามะ | |
ชื่อภาษาอังกฤษ | Gin Tama |
---|---|
แนว | ตลก,ล้อเลียน, ต่อสู้, ไซไฟ |
มังงะ | |
กินทามะ | |
เขียนโดย | ฮิเดอากิ โซราจิ |
สำนักพิมพ์ | สำนักพิมพ์ชูเอฉะ สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ สำนักพิมพ์วิซมีเดีย สำนักพิมพ์ Tokyopop สำนักพิพม์ Kana สำนักพิมพ์ Planeta DeAgostini สำนักพิมพ์ Glénat สำนักพิมพ์ Haksan |
อนิเมะ | |
กินทามะ | |
สตูดิโอ | ซันไรส์ |
อนิเมะ | |
กินทามะ | |
กำกับโดย | ชินจิ ทากามาสึ โยอิจิ ฟูจิตะ |
สตูดิโอ | ซันไรส์ |
มังงะ | |
3-Nen Z-Gumi GinPachi-sensei | |
เขียนโดย | โทโมฮิโตะ โอซากิ |
สำนักพิมพ์ | ชูเอฉะ |
อนิเมะ | |
White Demon's Birth | |
สตูดิโอ | ซันไรส์ |
กินทามะ ญี่ปุ่น: 銀魂; โรมาจิ: ในชื่ออังกฤษ Gin Tama; ทับศัพท์: มีความหมายว่า จิตวิญญาณสีเงิน เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เขียนโดย ฮิเดอากิ โซราจิ เริ่มลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2546 และลงตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับซากาตะ กินโทกิ อดีตซามูไรที่ทำอาชีพรับจ้างอิสระ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพในยุคที่ซามูไรตกต่ำเนื่องจากการรุกรานของมนุษย์ต่างดาว เนื้อเรื่องเป็นการผสมผสานระหว่างแนวย้อนยุคและแนววิทยาศาสตร์ ลักษณะแนวเรื่องเป็นแนวตลกและต่อสู้
ออริจินอลวิดีโอแอนิเมชัน (โอวีเอ) ของการ์ตูนกินทามะ ผลิตโดยบริษัทซันไรส์ ได้รับการฉายในงานจัมป์เฟสต้า 2006 อะนิเมะทัวร์ ในปี พ.ศ. 2548 หลังจากนั้นบริษัทซันไรส์ได้นำการ์ตูนกินทามะมาจัดทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูนฉายทางช่องทีวีโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2549 จนถึงปัจจุบัน
ในญี่ปุ่น กินทามะเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ติดอันดับใน 10 อันดับแรกของการ์ตูนที่มียอดขายสูงสุด กระแสตอบรับของการ์ตูนกินทามะมีทั้งด้านบวกและด้านลบ ด้านบวกคือความชื่นชอบเนื้อหาที่ตลกขบขันและมีเนื้อเรื่องที่สนุกตื่นเต้น ส่วนกระแสด้านลบคือด้านลายเส้นของการ์ตูน
นอกจากหนังสือและภาพยนตร์การ์ตูนแล้ว ปัจจุบัน กินทามะยังออกมาในรูปของสื่ออื่น ได้แก่ ไลท์โนเวล และวิดิโอเกมส์อีกด้วย
ล่าสุดในนิตยสารโชเน็นจัมป์ฉบับที่ 48 ของปี พ.ศ. 2552 ได้ลงข่าวว่ากินทามะจะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์จอเงิน โดยทิ้งคำโปรยไว้ว่า "Wasshoi Matsuri!!" ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับตัวภาพยนตร์ยังไม่เปิดเผยมากนัก [1]
ในประเทศไทย กินทามะได้รับลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ตีพิมพ์รายสัปดาห์ในนิตยสารการ์ตูนซีคิดส์ และตีพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูนรวมเล่มมาแล้ว 24 เล่ม ส่วนภาพยนตร์การ์ตูนได้รับลิขสิทธิ์โดยบริษัท ทีไอจีเอ มีการวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบวีซีดีและดีวีดี ในปัจจุบัน การ์ตูนกินทามะยังไม่เคยออกอากาศทางโทรทัศน์ในประเทศไทย
เนื้อเรื่อง
แม่แบบนี้ถูกยกเลิกการใช้งานแล้วโดยไม่มีแม่แบบอื่นใช้ทดแทน (ดูเพิ่มที่วิกิพีเดีย:ระวังเสียอรรถรส) กรุณาอย่าใช้แม่แบบนี้อีก |
เนื้อเรื่องมีฉากในเมืองเอโดะ (คือโตเกียวในปัจจุบัน เอโดะเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียวในปี พ.ศ. 2405) ประเทศญี่ปุ่น ในยุคเอโดะ ยุคที่มนุษย์ต่างดาวที่เรียกกันว่า ชาวสวรรค์ ได้มาตั้งรกรากบนโลกมนุษย์ ชาวสวรรค์ได้ออกคำสั่งริบยศถาบรรดาศักดิ์และยึดดาบของซามูไรไป ทำให้ยุครุ่งเรืองของซามูไรได้จบสิ้นลง ชาวสวรรค์ได้มีอำนาจเหนือเอโดะมากยิ่งขึ้น แต่ยังมีคนหนึ่งที่ยังยึดมั่นในจิตวิญญาณของซามูไร เขาชื่อ ซากาตะ กินโทกิ เคยเป็นนักรบซามูไรต่อต้านชาวสวรรค์ ปัจจุบันเปิดร้านรับจ้างสารพัด มีผู้ช่วยคือ ชิมูระ ชินปาจิ หนุ่มแว่นที่ทำงานเพื่อเรียนรู้จิตวิญญาณของซามูไร และคางุระ เด็กหญิงชาวสวรรค์เผ่ายาโตะ ทั้งสามทำงานรับจ้างเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้านและเลี้ยงชีวิตในยุคมืดของซามูไร
นอกจากเรื่องราวการทำงานรับจ้างต่างๆ กินโทกิและลูกน้องยังได้รู้จักกับกลุ่มตำรวจพิเศษติดอาวุธชินเซ็นงุมิ บางครั้งทั้งสองฝ่ายจะทะเลาะกัน บางครั้งจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรื่องราวของพวกเขายังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน เช่น คาซึระ โคทาโร่ นักรบขับไล่ต่างแดนซึ่งเป็นเพื่อนของกินโทกิและเป็นอาชญากรมีประกาศจับ ซารุโทบิ อายาเมะ นินจาสาวสายตาสั้นที่หลงรักกินโทกิ เป็นต้น ส่วนตัวละครตัวร้ายของเรื่องคือทากาสุงิ ชินสุเกะ หัวหน้ากลุ่มนักรบขับไล่ต่างแดนที่มีชื่อกลุ่มว่ากองทหารอสุรา เขาเป็นนักรบขับไล่ต่างแดนที่มีหัวรุนแรงกว่าคาซึระ และต้องการจะทำลายเอโดะให้ราบคาบ
แม่แบบนี้ถูกยกเลิกการใช้งานแล้วโดยไม่มีแม่แบบอื่นใช้ทดแทน (ดูเพิ่มที่วิกิพีเดีย:ระวังเสียอรรถรส) กรุณาอย่าใช้แม่แบบนี้อีก |
ตัวละคร
ดูตัวละครทั้งหมดได้ที่ ตัวละครในกินทามะ
ตัวละครส่วนใหญ่ในการ์ตูนกินทามะได้ต้นแบบจากบุคคลในประวัติศาสตร์จริง โดยเฉพาะตัวละครในกลุ่มชินเซ็นงุมิที่ได้ต้นแบบจากกองกำลังชินเซ็นงุมิในประวัติศาสตร์จริง
ร้านรับจ้างสารพัดกินจัง
ตัวละครหลักในการ์ตูนเรื่องกินทามะ เป็นนักรับจ้างสารพัดที่รับจ้างทำทุกอย่าง เพื่อนำเงินค่าจ้างจากการทำงานมาจ่ายค่าเช่าร้าน ประกอบด้วยสมาชิก 3 คน (และ 1 ตัว) ได้แก่
ตัวละครเอกของเรื่อง เป็นเจ้าของร้านรับจ้างสารพัด และในอดีตเคยเป็นสมาชิกของกลุ่มนักรบขับไล่ต่างแดน ซึ่งเป็นซามูไรที่ต่อสู้เพื่อขับไล่ชาวสวรรค์ออกจากเอโดะ แต่เมื่อเพื่อนเกือบทุกคนตายลง ก็ได้รู้ว่าไม่สามารถปกป้องทุกสิ่งได้ เป็นคนหน้าเหมือนปลาตาย (หน้านิ่งและดูไร้อารมณ์)เป็นคนกวนๆและถ้าไม่กินของหวานจะไม่มีเรี่ยวแรง เป็นคู่กัดกับฮิจิคาตะ และชินเซ็นงุมิมักจะเรียกเขาว่า "ลูกพี่" (อายุ 20 ปี)
ลูกชายของเจ้าของโรงฝึกดาบที่ปิดตัวลงเพราะบัญญัติการห้ามใช้ดาบ แล้วต่อมาได้เห็นจิตวิญญาณในตัวกินโทกิ จึงได้มาทำงานเป็นลูกจ้างของกินโทกิ ใส่แว่นจนเป็นจุดเด่น แต่ก็บทไม่เด่นนัก มักจะเป็นคนตบมุข (อายุ 16 ปี)
เด็กหญิงชาวสวรรค์ชนเผ่ายาโตะที่เดินทางมาที่โลกเพื่อหางานทำ แล้วจึงมาเป็นลูกจ้างอีกคนของกินโทกิ ชอบแต่งกายคล้ายคนจีน และมีกำลังมหาศาล ชอบพูดลงท้ายว่า "น่อ" (อายุประมาณ 13-14 ปี)
เป็นสุนัขตัวใหญ่สีขาว ความจริงเป็นอินุงามิ(สุนัขเทพ) เป็นผู้เฝ้าทวารมังกรในเอโดะ แต่เมื่อชาวสวรรค์รุกราน จึงได้นำทวารมังกรมาเป็นพลังงานให้ท่าเรือ ทำให้อินุงามิไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เลยโดนมิโกะผู้เลี้ยงดู (อาเนะ และ โมเนะ) มาทิ้งให้ร้านรับจ้างสารพัดเลี้ยงดู จะคืนร่างจริงก็ต่อเมื่อกินเลือดของแพะ (นมสด) และผลไม้สีแดง (สตอเบอร์รี่) (หรือก็คือนมสตอเบอร์รี่น่ะแหละ)
กองตำรวจติดอาวุธ ชินเซ็นงุมิ
นักรับจ้างสารพัดทั้งสาม บางครั้งต้องมาเกี่ยวข้องกับกลุ่มชินเซ็นงุมิ ซึ่งเป็นกองกำลังตำรวจพิเศษติดอาวุธ มีสมาชิกหลักๆได้แก่
หัวหน้ากลุ่มชินเซ็นงุมิ มีหน้าตาไม่ค่อยดีและมักถูกล้อว่าเป็นกอริลลาเป็นคนที่เห็นแต่ข้อดีของผู้อื่น ชอบโอทาเอะและทำตัวเป็นสโตรกเกอร์(โรคจิตชอบติดตาม) เคยเป็นหัวหน้าโรงฝึก
รองหัวหน้ากลุ่มชินเซ็นงุมิ เป็นคนที่ชอบรับประทานมายองเนส (มายองเลอร์) ฉะนั้นถึงหน้าตาดีแต่เมื่อสาวๆเห็นกินมายองเนสเข้าก็คายของเก่าทุกราย (ยกเว้น คุริโกะ ลูกสาวของป๋ามัตสึไดระ)
หัวหน้าหน่วยที่ 1 แห่งกลุ่มและนักดาบอันดับหนึ่งแห่งชินเซ็นงุมิ ภายนอกมีนิสัยคล้ายเด็กๆ แต่แท้จริงแล้วชอบความรุนแรง อายุ 18
หน่วยสอดแนมของทางชินเซ็นงุมิ ชอบเล่นแบดมินตั้น เป็นพวกบทจืดคล้ายๆชินปาจิ ใช้ไม้แบดมินตันเป็นอาวุธแทนดาบ
หัวหน้ากองชินเซ็นงุมิ เป็นคนเก็บคอนโด้มาเลี้ยง ห่วงลูกสาวมาก ใส่แว่นกันแดดตลอดเวลา แต่ก็เป็นคนที่โหดมากๆ
ชายผู้อัจฉริยะไปซะทุกด้าน แต่ไม่มีใครสนใจ จึงร่วมมือกับกองทหารอสุราเพื่อโค่นล้มชินเซ็นงุมิและก่อการกบฏ และถูกกองทหารอสุราทรยศ จนตายในภายหลัง มักโดนคอนโด้เรียกว่า "อาจารย์ อิโต้"
ลักษณะการดำเนินเรื่อง
ลักษณะการดำเนินเรื่องหลักคือการใช้มุกตลกในการดำเนินเรื่อง ต่อมาเมื่อฮิเดอากิเขียนการ์ตูนกินทามะเป็นปีที่สอง เขาเริ่มใส่ความเป็นดรามาลงในการ์ตูนกินทามะ โดยคงความเป็นการ์ตูนตลกไว้ มุกตลกส่วนมากในเรื่องมีลักษณะล้อเลียนวัฒนธรรมหรือล้อเลียนการ์ตูนเรื่องอื่น
เนื้อเรื่องของกินทามะส่วนใหญ่จะจบในตอน แต่ก็มีเนื้อเรื่องบางช่วงจะมีเรื่อราวต่อเนื่องไปหลายตอน ซึ่งมักจะเน้นความเป็นดราม่า
ประวัติการสร้าง
ฮิเดอากิ โซราจิ นักเขียนการ์ตูนผู้เขียนเรื่องกินทามะ ได้ความคิดเรื่องกินทามะ จากคำแนะนำของบรรณาธิการให้เขียนการ์ตูนเกี่ยวกับชินเซ็นงุมิ เขาจึงมีความคิดที่จะเขียนการ์ตูรแนวผสมผสานระหว่างแนวญี่ปุ่นย้อนยุคกับแนวนิยายวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็คือเรื่องกินทามะในเวลาต่อมา
รายชื่อตอน
ดูบทความหลักที่ รายชื่อตอนของกินทามะ (มังงะ) และ รายชื่อตอนของกินทามะ (อะนิเมะ)
ชื่อตอนของกินทามะจะมีลักษณะพิเศษคือ มีชื่อตอนทีมีความยาวมาก มีลักษณะคล้าย ๆ สุภาษิต และดูเหมือนไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องในบางตอน แต่จริง ๆ แล้ว ชื่อตอนมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บางส่วนในตอนนั้น ๆ แต่อาจจะเป็นส่วนที่สั้น ๆ หรือไม่ค่อยมีความสำคัญ
รูปแบบต่าง ๆ
หนังสือการ์ตูน
การ์ตูนเรื่องกินทามะเริ่มลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2546[2] จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนตอนมากกว่า 200 ตอน และตีพิพม์ฉบับรวมเล่มตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2547[3] จนถึงปัจจุบัน ออกมาถึงเล่มที่ 30[4] นอกจากนี้ สำนักพิมพ์ชูเอฉะยังลงกินทามะลงตอนแรกในหน้าเว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ[5]
ในอเมริกาเหนือ กินทามะได้รับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์วิซมีเดีย ตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์ระหว่าง เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2550 และตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มตั้งแต่วันที่ 3กรกฎาคม พ.ศ. 2550[6] จนถึงปัจจุบัน ออกมาถึงเล่มที่ 14[7]
ในประเทศไทย กินทามะได้ลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ตีพิมพ์ลงในนิตยสารการ์ตูนซีคิดส์รายสัปดาห์ และตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มตั้งแต่ พ.ศ. 2548[8] จนถึงปัจจุบัน ออกมาถึงเล่มที่ 23[9]
หนังสือการ์ตูนกินทามะที่ตีพิมพ์แล้วในประเทศไทย 23 เล่ม มีชื่อปกบนแต่ละเล่มดังนี้
- คนดีมักเป็นคนผมหยักศกตามธรรมชาติ
- ความมานะบากบั่นและความดื้อด้านต่างกันเพียงกระดาษกั้น
- มาลองคิดดูแล้ว ชีวิตคนเราหลังจากกลายเป็นคุณลุงเนี่ยมันนานกว่าตอนหนุ่มไม่ใช่เรอะ!! น่ากลั๊ว น่ากลัว
- คนเป็นพ่อลูกมักเกลียดอะไรเหมือน ๆ กัน
- ระวังสายพานให้ดี
- มีสิ่งที่ดาบฟาดฟันไม่ได้อยู่
- เรื่องไร้สาระเนี่ยจำกันแม่นซะจริง
- แฟนของลูกสาวต้องเขกซักโป๊ก
- ถ้าริจะเที่ยวคาบาเร่ต์อายุจะต้องถึง 20 ขวบก่อนนะ
- แมลงตัวเล็ก ๆ ก็มีจิตวิญญาณเหมือนกัน
- อาทิตย์ยังทอแสง
- ถ้าเร่งนักก็วิ่งเข้า
- ศัตรูเมื่อวาน วันนี้ก็ยังเป็นศัตรูเหมือนเดิม
- เมื่อสี่คนเรียงหน้า จะเกิดเชาว์ปัญญามากมาย
- รอยยิ้มคือการตกแต่งใบหน้าที่ดีที่สุดของผู้หญิง
- ผู้หญิงที่พูดว่าระหว่างฉันกับงานอันไหนสำคัญกว่ากัน ต้องโดนท่าเยอรมันซูเพล็กซ์
- ควรเล่นเกมส์แค่วันละหนึ่งชั่วโมง
- เหล่าบุรุษทั้งหลายจงเป็นลูกผู้ชายที่ไม่ยอมแพ้
- นักวางแผนมักตกหลุมพราง
- ก่อนหน้าจะเข้าสู่ช่วงหยุด ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
- แม้สะโพกจะบิดเบี้ยว แต่ก็จะเดินเป็นเส้นตรง
- คนเรามักมีแรงผลักดันอยู่ที่หัวใจเสมอ...
- เมื่อถึงที่หมายในการไปเที่ยว มักมีเรื่องให้ทะเลาะกัน
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ออริจินอลวิดีโอแอนิเมชัน (โอวีเอ) ของการ์ตูนกินทามะ ผลิตโดยบริษัทซันไรส์ ได้รับการฉายในงานจัมป์เฟสต้า 2006 อะนิเมะทัวร์ ในปี พ.ศ. 2548
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์เรื่อง กินทามะ ผลิตโดยบริษัทซันไรส์ 99 ตอนแรกกำกับโดยชินจิ ทากามาสึ ตอนที่ 100 ถึง 105 กำกับโดยชินจิ ทากามาสึและโยอิจิ ฟูจิตะ ตั้งแต่ตอนที่ 106 เป็นต้นไปกำกับโดยโยอิจิ ฟูจิตะ [10] ออกอากาศทางทีวีโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2549 จนถึงถึงปัจจุบัน
ในประเทศญี่ปุ่น บริษัทอะนิเพล๊กซ์ได้จำหน่ายดีวีดีภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะภาคแรกระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ถึงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2550[11] [12] ภาคสอง ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 [13] ภาคสาม เริ่มออกดีวีดีแผ่นที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551 [14]
ส่วนในประเทศไทย บริษัททีไอทีเอ ได้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะภาคแรกและภาคสอง [15] และวางจำหน่ายภาพยนตร์กินทามะภาคแรกในรูปแบบวีซีดี 25 แผ่น[16]และ ดีวีดี 12 แผ่น[17]
ซีดีซาวน์แทร็ก
ดนตรีประกอบภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ ประพันธ์โดย เออิจิ คามางาตะ ในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2549 ได้มีการจำหน่ายซีดีเซาด์แทร็กของภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ ประกอบด้วยเซาวน์แทร็กจำนวน 32 เพลง รวมไปถึงเพลงเปิดเพลงแรก และเพลงปิดสองเพลงแรก [18]
ซีดีซาวน์แทร็กลำดับที่ 2 วางจำหน่ายในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ประกอบด้วยซาวน์แทร็กจำนวน 40 เพลง[19] ส่วนซีดีซาวน์แทร็กลำดับที่ 3 ที่เป็นลำดับล่าสุด วางจำหน่ายในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ประกอบด้วยซาวน์แทร็กจำนวน 28 เพลง[20]
ไลท์โนเวล
ไลท์โนเวล ที่มีตัวละครเป็นตัวการ์ตูนจาก กินทามะ เรื่องโดยโทโมฮิโตะ โอวากิ ภาพโดยฮิเดอากิ โซราจิ และตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ฉากของเรื่องเป็นโรงเรียน โดยกินโทกิรับบทอาจารย์ โดยใช้ชื่อว่า อาจารย์กินปาจิ และตัวละครอื่น ๆ ส่วนใหญ่รับบทนักเรียนในโรงเรียน และเนื้อเรื่องตีพิมพ์ในนิตยสาร จัมป์สแควร์ ใช้ชื่อเรื่องว่า 3 เน็น Z กุมิ กินปาจิเซ็นเซ ญี่ปุ่น: 3年Z組銀八先生; โรมาจิ: 3-Nen Z-Gumi GinPachi-sensei; ทับศัพท์: ม. 3 ห้อง Z อาจารย์กินปาจิ ไลท์โนเวลเล่มแรกตีพิมพ์ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 และตีพิมพ์ถึงเล่มที่ 4 ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2552[21][22]
วีดิโอเกม
- เกมเพลย์สเตชัน 2 Gintama: Together with Gin! My Kabuki District Journal ญี่ปุ่น: 銀魂 銀さんと一緒!ボクのかぶき町日記; โรมาจิ: Gintama Gin-san to Issho! Boku no Kabuki-cho Nikki ออกจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2550
- เกมวี Gintama: General Store Tube:Tsukkomi-able Cartoon ญี่ปุ่น: 銀魂 万事屋ちゅ〜ぶ ツッコマブル動画; โรมาจิ: Gintama Yorozuya Chūbu Tsukkomaburu Dōga ออกจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2550 [23][24]
- เกมนินเทนโดดีเอส Gintama: Silver Ball Quest: Gin's Job-Change to Save the World ญี่ปุ่น: 銀魂 銀玉くえすと 銀さんが転職したり世界を救ったり; โรมาจิ: Gintama Gintama Kuesuto Gin-san ga Tenshoku-shitari Sekai o Sukuttari ออกจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2550 [25]
- เกมนินเทนโดดีเอสของกินทามะยังมีอีก 2 เกม ได้แก่ Gintama Dee-Ess: Odd Jobs Grand Riot! ญี่ปุ่น: 銀魂でぃ〜えす・万事屋大騒動!; โรมาจิ: Gintama Dīesu Yorozuya Daisōdō! และ Gintama: Gintoki vs. Hijikata!? The Huge Fight Over Silver Souls in the Kabuki District!! ญี่ปุ่น: 銀魂 銀時vs土方!? かぶき町銀玉大争奪戦!!; โรมาจิ: Gintama Gintoki vs Hijikata!? Kabuki-cho Gitama Daisōdatsusen!![26][27]
ไกด์บุ๊ค
ปัจจุบันมีการตีพิมพ์ไกด์บุ๊คกินทามะแล้ว 3 เล่ม สำหรับมังงะ 2 เล่ม และอะนิเมะ 1 เล่ม ไกด์บุ๊คสำหรับมังงะเล่มแรก มีชื่อว่า Gintama Official Character Book - Gin Channelญี่ปุ่น: 銀魂公式キャラクターブック「銀ちゃんねる!」 ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ชูเอฉะในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2549 ในตัวหนังสือประกอบด้วยข้อมูลตัวละคร บทสัมภาษณ์ฮิเดอากิ โซราจิ และสติกเกอร์ตัวละคร [28] ไกด์บุ๊คสำหรับมังงะเล่ม 2 มีชื่อว่า Gintama Official Character Book 2 - Fifth Grade ญี่ปุ่น: 銀魂公式キャラクターブック2 「銀魂五年生」 ตีพิมพ์ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นเล่มที่เพิ่มข้อมูลของตัวละครใหม่เพิ่มเติมจากเล่มแรก [29] ไกด์บุ๊คสำหรับอะนิเมะมีชื่อว่า Gintama Official Animation Guide "Gayagaya Box" [] ข้อผิดพลาด: {{Lang-xx}}: ไม่มีข้อความ (ช่วยเหลือ); โรมาจิ: オフィシャルアニメーションガイド 銀魂あにめガヤガヤ箱ตีพิมพ์ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2551 เนื่องในโอกาสกินทามะออกอากาศถึงตอนที่ 100 มีข้อมูลเกี่ยกวับนักพาย์ผู้พากย์เป็นตัวละครในกินทามะ[30]
เสียงตอบรับ
ในประเทศญี่ปุ่น การ์ตูนเรื่องกินทามะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ในปี พ.ศ. 2549 [31] หนังสือการ์ตูนกินทามะ 12 เล่มที่ออกวางแผงในปีนั้น ขายได้จำนวนรวมกัน 7,500,000 เล่ม ในปี พ.ศ. 2550 ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านเล่ม ติดอันดับการ์ตูนขายดีของนิตยสารโซเน็นจัมป์ในปี พ.ศ. 2550 [32] ในปี พ.ศ. 2551 ยอดจำหน่ายของการ์ตูนกินทามะเป็น 20 ล้านเล่ม[33]
ส่วนในประเทศไทย ในระยะแรก กระแสตอบรับของการ์ตูนกินทามะเป็นไปในทางลบ เนื่องจากผู้อ่านบางกลุ่มอ่านกินทามะไม่เข้าใจ[8] แต่ด้วยการพัฒนาเนื้อหาของผู้แต่งในระยะต่อมา และการแปลเป็นภาษาไทยที่ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น จึงทำให้กินทามะกลับมามีความนิยมพอสมควรในประเทศไทย
อ้างอิง
- ↑ "Gintama Manga's Movie Adaptation Revealed" (ภาษาอังกฤษ). Anime News Network. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 ตุลาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "2004年新年2号" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2551. สืบค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂―ぎんたま― 1" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุยายน 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂―ぎんたま― 30" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Shonen Jump Posts 1st Japanese Chapters of 22 Manga for Free". Anime News Network. 3 สิงหาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 10 สิงหาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Gin Tama, Vol. 1" (ภาษาอังกฤษ). Viz Media. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Gin Tama, Vol. 14". วิซมีเดีย. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 8.0 8.1 ข้อมูลการ์ตูนกินทามะ
- ↑ โซราจิ, ฮิเดอากิ. "เล่ม 23". กินทามะ. สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ .
- ↑ "Yoichi Fujita to Stop Directing Gintama This Spring". Anime News Network. 11 มกราคม 2552. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂 1 通常版" (ภาษาอังกฤษ). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂 第1期のDVD情報はこちら!!" (ภาษาอังกฤษ). ซันไรซ์. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂 シーズン其ノ弐のDVD情報はこちら!!". ซันไรส์. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุยายน 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂 シーズン其ノ参のDVD情報はこちら!!". ซันไรส์. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ประกาศจากบริษัททีไอจีเอเรื่องการถือลิขสิทธิ์การ์ตูนกินทามะปี 2". ทีไอจีเอ. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "วีซีดีกินทามะแผ่นที่ 1-25". ทีไอจีเอ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 กรกฎาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ดีวีดีกินทามะแผ่นที่ 1-12". ทีไอจีเอ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 ตุลาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂 オリジナル・サウンドトラック Soundtrack" (ภาษาญี่ปุ่น). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂 オリジナル・サウンドトラック 2" (ภาษาญี่ปุ่น). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂 オリジナル・サウンドトラック 3" (ภาษาญี่ปุ่น). Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂3年Z組銀八先生" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂3年Z組銀八先生" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Gintama Gin-San to Issho" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Gintama: Banji Oku Chuubu" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Gintama: Gin-Oh Quest" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Gintama DS: Yorozuya Daisoudou" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Gintama: Gintoki vs. Dokata" (ภาษาอังกฤษ). GameSpot. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂公式キャラクターブック「銀ちゃんねる!」" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "銀魂公式キャラクターブック2 「銀魂五年生」" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "オフィシャルアニメーションガイド 銀魂あにめガヤガヤ箱" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอฉะ. สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Shounen Jump Manga Circulation Numbers". Comipress. June 1, 2006. สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2552.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Comipress News article on "The Rise and Fall of Weekly Shōnen Jump"". Comipress. May 6, 2007. สืบค้นเมื่อ 2 มิถุนายน 2551.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ジャンプ作品売り上げ推移" (ภาษาญี่ปุ่น). GeoCities. สืบค้นเมื่อ 28 มีนาคม 2551.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- การ์ตูนญี่ปุ่น
- มังงะชุด
- บทความเกี่ยวกับอนิเมะและมังงะที่มีพารามิเตอร์กล่องข้อมูลซ้ำซ้อน
- มังงะ (ไม่ปรากฏปีที่วางจำหน่าย)
- บทความเกี่ยวกับอนิเมะและมังงะที่ใช้ไอคอนธง
- บทความเกี่ยวกับอนิเมะและมังงะที่ไม่มีพารามิเตอร์ผู้กำกับ
- หน้าที่มีแม่แบบที่เลิกการใช้งานไม่มีทดแทน
- กินทามะ
- การ์ตูนญี่ปุ่นแนวโชเน็น
- การ์ตูนญี่ปุ่นแนวตลก
- การ์ตูนญี่ปุ่นแนวไซไฟ
- สยามอินเตอร์คอมมิกส์