ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รัก (ไม้พุ่ม)"

ต้นรัก
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร:	Plantae
ไม่ได้จัดลำดับ:	Angiosperms
ไม่ได้จัดลำดับ:	Eudicots
ไม่ได้จัดลำดับ:	Asterids
อันดับ:	Gentianales
วงศ์:	Apocynaceae
วงศ์ย่อย:	Asclepiadoideae
สกุล:	Calotropis
สปีชีส์:	C. gigantea
ชื่อทวินาม
	Calotropis gigantea; (L.) W.T.Aiton

เรียกดูประวัติแบบโต้ตอบ

← การแก้ไขก่อนหน้า การแก้ไขถัดไป →

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม

เห็นภาพข้อความวิกิ

ในบรรทัด

รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:49, 1 ตุลาคม 2552

รัก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Calotropis gigantea (Linn.) R.Br.ex Ait.) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กในวงศ์ Apocynaceae วงศ์ย่อย Asclepiadoideae สูง 1.5–3 เมตร ทุกส่วนมียางขาวเหมือนน้ำนม ตามกิ่งมีขน ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม รูปรีแกมขอบขนาน ปลายแหลมโคนเว้า กว้าง 6–8 เซนติเมตร ยาว 10–14 เซนติเมตร เนื้อใบหนา ใต้ใบมีขนนุ่ม ก้านสั้น ดอกสีขาวหรือสีม่วง ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนเชื่อมติดกัน เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 2–3 เซนติเมตร มีรยางค์เป็นคล้ายมงกุฎ 5 สัน มีเกสรตัวผู้ 5 อัน ผลเป็นฝักคู่ กว้าง 3–4 เซนติเมตร ยาว 6–8 เซนติเมตร เมื่อแก่แตกได้เมล็ดแบนสีน้ำตาลจำนวนมาก มีขนสีขาวเป็นกระจุกอยู่ที่ปลายด้านหนึ่ง

รักเป็นพืชพื้นเมืองของอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย ศรีลังกา อินเดีย และจีน ดอกของพืชชนิดนี้เรียกว่า ดอกรัก

การขยายพันธุ์

ปกติแล้วต้นรักมักขึ้นอยู่ตามที่รกร้าง ไม่ค่อยมีการเพาะปลูกกัน แต่สำหรับอุตสาหกรรมในครัวเรือนอาจจะต้องปลูกไว้ใช้ รักขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือการปักชำ ระยะเวลาเติบโตจนออกดอกประมาณ 8 เดือน ใส่ปุ๋ย 16-16-16 เดือนละ 1 ครั้ง

สรรพคุณ

ดอก รักษาอาการไอ หอบหืด และหวัด ช่วยให้เจริญอาหาร
เปลือกและราก ใช้รักษาโรคบิด ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับน้ำเหลืองเสีย และทำให้อาเจียน
ยาง ถ้าถูกผิวหนังจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง แต่ก็มีฤทธิ์เป็นยาถ่าย สามารถอาการปวดฟัน ปวดหู ขับพยาธิ รักษากลากเกลื้อน และใช้เป็นยาขับเลือด

ประเพณีและความเชื่อ

ในประเทศไทยนิยมนำดอกรักมาร้อยเป็นมาลัยร่วมกับดอกมะลิ ดาวเรือง จำปา หรือกุหลาบ ใช้ในงานมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก เพราะดอกรักสื่อความหมายถึงความรัก เช่น งานหมั้น และงานแต่งงาน โดยใช้ในขันหมากหมั้น ขันหมากแต่ง จัดพานรองรับน้ำสังข์ ร้อยเป็นมาลัยบ่าวสาว และโปรยบนที่นอนในพิธีปูที่นอน ส่วนชาวฮาวายถือว่ามาลัยดอกรักที่ทำเป็นสร้อยคอ (lei) คือสัญลักษณ์ของความเป็นกษัตริย์

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

@@ บรรทัด 30: / บรรทัด 30: @@
 == ประเพณีและความเชื่อ ==
 ใน[[ประเทศไทย]]นิยมนำดอกรักมาร้อยเป็น[[มาลัย]]ร่วมกับดอก[[มะลิ]] [[ดาวเรือง]] [[จำปา]] หรือ[[กุหลาบ]] ใช้ในงานมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับ[[ความรัก]] เพราะดอกรักสื่อความหมายถึงความรัก เช่น งานหมั้น และงานแต่งงาน โดยใช้ในขันหมากหมั้น ขันหมากแต่ง จัดพานรองรับน้ำสังข์ ร้อยเป็นมาลัยบ่าวสาว และโปรยบนที่นอนในพิธีปูที่นอน ส่วนชาว[[ฮาวาย]]ถือว่ามาลัยดอกรักที่ทำเป็นสร้อยคอ (lei) คือสัญลักษณ์ของความเป็น[[กษัตริย์]]
-== เมนูดอกรัก ==
-เครื่องปรุง
-. ดอกดาหลาหั่นเป็นเส้น	100 กรัม
-. หมูบดปั้นเป็นก้อนต้มสุก
-. ดอกรักทอดกรอบ	100 กรัม
-. ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้นลวกสุก 	100 กรัม
-. น้ำมะนาว 	3 ช้อนโต๊ะ
-. น้ำตาลทราย 	1 ช้อนโต๊ะ
-. น้ำปลา 	2 ช้อนโต๊ะ
-. พริกขี้หนูสับละเอียด	1 ช้อนโต๊ะ
-. กระเทียมสับละเอียด	2 ช้อนชา
-. แป้งทอดกรอบ 	1 ซอง
-. น้ำเย็นสำหรับละลายแป้ง
-. น้ำมันพืช สำหรับทอด
-โภชนาการ : ใช้ดอกตูม และหน่ออ่อนของดอกดาหลาจิ้มน้ำพริก แกงเผ็ด (มีรสชาติเผ็ดร้อน) นำมายำหรือทอด
-ดอกรักแก้อาการ  แก้อาการไอ หอบหืด
-สรรพคุณ : ดอกดาหลา ช่วยขับลม แก้ลมพิษ และโรคผิวหนัง
-วิธีทำ
-- ผสมน้ำมะนาวกับน้ำตาลทราย น้ำปลา พริกขี้หนูสับ และกระเทียม คนผสมจนเข้ากันดี ชิมรสตามชอบ เตรียมไว้สำหรับเป็นน้ำยำ
-- ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นตามสัดส่วนที่ระบุด้านหลังซอง เตรียมไว้
-- นำดอกดาหลาลงชุบในแป้งทอดกรอบที่ละลายเตรียมไว้ แล้วนำลงทอดในกระทะที่มีน้ำมันพืชอุ่นจนร้อนจัดเตรียมไว้แล้ว ทอดจนเหลืองกรอบ จึงตักขึ้น จัดลงจานสำหรับเสิร์ฟ เตรียมไว้
-- จัดปลาหมึกลวก และหมูสับต้ม ใส่จานดอกดาหลาทอดกรอบ ราดด้วยน้ำยำที่เตรียมไว้ รับประทานได้ทันที
- == อ้างอิง ==
-{{รายการอ้างอิง}}http://www.odi.stou.ac.th/ODI/FlowerFood/Food-15.html
 == อ้างอิง ==
@@ บรรทัด 75: / บรรทัด 36: @@
 * http://202.143.137.109/0538/amazing%20village44.htm
 * http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK23/chapter7/t23-7-l5.htm
-* http://www.odi.stou.ac.th/ODI/FlowerFood/Food-15.html
 == แหล่งข้อมูลอื่น ==
 {{commonscat|Calotropis gigantea}}