ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรวรรดิรัสเซีย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
2T (คุย | ส่วนร่วม)
เปลี่ยน หมวดหมู่:รัฐสิ้นสภาพสิ้นสุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 → [[หมวดหมู่:สิ้นสุดในคริสต์ศตวรรษ
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 100: บรรทัด 100:
== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
<references/>
<references/>
{{โครงประวัติศาสตร์}}


{{จักรวรรดิ}}
{{จักรวรรดิ}}
บรรทัด 110: บรรทัด 109:
[[หมวดหมู่:รัฐและดินแดนที่ก่อตั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 18]]
[[หมวดหมู่:รัฐและดินแดนที่ก่อตั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 18]]
[[หมวดหมู่:สิ้นสุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20]]
[[หมวดหมู่:สิ้นสุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20]]
{{โครงประวัติศาสตร์}}


[[af:Russiese Ryk]]
[[af:Russiese Ryk]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:54, 24 กันยายน 2552

จักรวรรดิรัสเซีย

Российская империя
พ.ศ. 22642460
ตราแผ่นดินของรัสเซีย
ตราแผ่นดิน
คำขวัญСъ нами Богъ!
God is with us
พระเจ้าทรงอยู่กับเรา
The Russian Empire in 1914
The Russian Empire in 1914
สถานะจักรวรรดิ
เมืองหลวงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ภาษาทั่วไปรัสเซีย
การปกครองราชาธิปไตย
จักรพรรดิแห่งรัสเซีย 
พระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราช (พระองค์แรก)
พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2
(พระองค์สุดท้าย)
ประวัติศาสตร์ 
• ก่อตั้ง
22 ตุลาคม พ.ศ. 2264
• การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์
2 เมษายน 2460
พื้นที่
244021,799,825 ตารางกิโลเมตร (8,416,959 ตารางไมล์)
ประชากร
• 2440
128200000
สกุลเงินรูเบิลรัสเซีย
ก่อนหน้า
ถัดไป
ราชอาณาจักรรัสเซีย
สหภาพโซเวียต
¹ ดูธงที่ใช้ในปี พ.ศ. 2457-2460[1].

จักรวรรดิรัสเซีย (รัสเซีย: Российская империя; อังกฤษ: Russian Empire) คืออดีตประเทศรัสเซียก่อนที่จะมีการปฏิวัติการปกครองของซาร์นิโคลัสที่ 2 เป็นสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตใน พ.ศ. 2460 จักรวรรดิรัสเซียสถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. 2264 โดยพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราชสถาปนาขึ้นแทนที่ราชอาณาจักรรัสเซีย จักรวรรดิรัสเซียมีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมยุโรปตะวันออก เอเชีย จนไปถึงอเมริกา นับได้ว่าเป็นหนึ่งในจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นจักรวรรดิหนึ่งที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซีย

ประวัติศาสตร์

จักรวรรดิรัสเซีย สถาปนาขึ้นแทนราชอาณาจักรรัสเซีย (tsardom of muskovy) เป็นจักรวรรดิหนึ่งที่โดดเดี่ยวและไม่เป็นที่รู้จักในยุโรป จนกระทั่งพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราชทรงปฏิรูปจักรวรรดิให้ทันสมัย และเป็นการเปิดประตูต้อนรับยุโรปอย่างแท้จริง พระองค์ทรงปฏิรูปจักรวรรดิใหม่หมด ทั้งการแต่งกาย การศึกษา ฯลฯ จักรวรรดิรัสเซียหลังรัชสมัยของพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราชจึงกลายเป็นจักรวรรดิมหาอำนาจชั้นแนวหน้าของโลกในสมัยนั้น

ศตวรรษที่ 18

พระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราชทรงรวบรวมอำนาจในรัสเซียให้มีความเป็นปึกแผ่นแล้วนำพาจักรวรรดิรัสเซียในขณะนั้นไปสู่ระบบรัฐของยุโรปพระองค์ทรงเปลี่ยนจากอาณาจักรเล็กๆเริ่มแรกในศตวรรษที่ 14 ให้กลายเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลกในรัชสมัยของพระองค์ มันขยายเข้าไปในแผ่นดินใหญ่ยูเรเซีย ตั้งแต่ทะเลบอลติกจรดมหาสมุทรแปซิฟิคมันขยายออกไปมากในช่วงศตวรรษที่ 17 อย่างไรก็ตามนี้คือแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาล และมีประชากร 14 ล้านคน ส่วนใหญ่ที่อยู่ตามชนบทและทำกสิกรรมทางตะวันตกของประเทศ ส่วนน้อยที่อยู่ในเมือง ปีเตอร์ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี การปกครอง และการทำศึกสงคามเสียใหม่ เพื่อให้เจริญก้าวหน้าโดยรับแนวคิดมาจากตะวันตกมาโดยทั้งสิ้น พระองค์ทรงเรียนรู้กลยุทธ์และการป้องกันมากมายจากตะวันตก แล้วยังสร้างกองทัพที่เข้มแข็ง ซึ่งมาจากการเกณฑ์ทหาร พระองค์ยังทรงเป็นพระเจ้าซาร์พระองค์แรกที่เสด็จประพาสยุโรปด้วย พระองค์ทรงทำสงครามกับสวีเดนเพื่อชิงแผ่นดินส่วนที่ติดกับทะเลบอลติกให้มีทางออกสู่ทะเลอีกทั้งยังให้เป็นประตูสู่ยุโรปด้วย และสร้างเมืองหลวงใหม่ชื่อว่า เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเมื่อนโปเลียนที่ 1บุกรัสเซียรัสเซียก็มีชัยเหนือนโปเลียนที่ 1นั้นเป็นการแสดงให้โลกรู้ว่าจักรวรรดิรัสเซียนั้นยังคงเป็นมหาอำนาจที่ไม่อาจโค่นล้มได้ง่ายๆ

ศตวรรษที่ 19

เมื่อล่วงเข้าศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิอยู่ภายใต้การนำของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 ซึ่งทรงทำสงครามพิชิตแหลมไครเมียร์กับจักรวรรดิออตโตมันเมื่อล่วงเข้ารัชสมัยของ สมเด็จพระจักพรรดินีนาถแคทเธอรีน รัสเซียก็พิชิตแหลมไครเมียร์ได้สำเร็จซึ่งในขณะนั้นเองจักรวรรดิก็ก้าวเข้าสูการปฏิรูปประเทศอีกครั้ง ทาสเริ่มได้รับสิทธิมากขึ้น เริ่มมีการเผยแพร่ความรู้ และเริ่มมีแผนที่จะร่างรัฐธรรมนูญขึ้นด้วย แต่ก็ล้มเลิกความคิดไป

สิ้นสุดจักรวรรดิรัสเซีย

เมื่อเริ่มเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 ก็เริ่มมีกระแสการปฏิวัติไปทั่วโลก ในขณะนั้นเองจักรวรรดิรัสเซียก็เริ่มเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนอดยากทั่วรัสเซีย ฤดูหนาวที่โหดร้าย และการพ่ายแพ้สงคราม ภายใต้อำนาจของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2เริ่มมีชนกลุ่มเล็กภายในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเริ่มคิดก่อการปฏวัติ เมื่อเหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น ในปีค.ศ. 1905 ประชาชนได้รวมตัวกันชุมนุมกัน ณ จัตุรัสแดง ที่พระราชวังฤดูหนาว ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อพระเจ้าซาร์ และเมื่อพระเจ้าซาร์เสด็จออกมา ปืนและปืนใหญ่ของทหารม้ารัสเซียก็ระดมยิงใส่ผู้ชุมนุมประท้วง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหตุการณ์นี้รู้จักกันดีในชื่อว่า bloody sunday หรือ อาทิตย์ทมิฬ ต่อมาเมื่อรัสเซียเมื่อแพ้สงครามรัสเซีย - ญี่ปุ่นและสงครามโลกครั้งที่ 1 ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 เกิดการปฏิวัติขึ้น (การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์) นำโดย วลาดิมีร์ เลนิน ซึ่งพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ก็ต้องทรงสละราชบัลลังก์และถูกกักกันตัวไว้ หลังจากการปฏิวัติไม่นาน ราชวงศ์ก็ทรงประทับอยู่ ณ พระราชวังอเล็กซานเดอร์ และระหว่างเมษายน และ พฤษภาคมปีค.ศ. 1918 ก็ทรงถูกย้ายจากพระราชวังอเล็กซานเดอร์มาประทับ ณ เมืองเยคาเทียรินเบิร์ก เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 1:30 นิโคลัส อเล็กซานดร้า โอรสและธิดา ถูกหลอกให้ลงมาชั้นใต้ดิน แต่เมื่อทั้งหมดลงมา ก็ถูกขังไว้ในห้องพร้อมกับทหารกลุ่มบอลเชวิค โดยทั้งหมดสิ้นพระชนม์จากการถูกยิงเป่าหมู่ ภายหลังได้มีการฝังพระศพทั้งหมดร่วมกัน เป็นการปิดฉากราชวงศ์โรมานอฟและจักรวรรดิรัสเซีย

อ้างอิง

  1. http://flagspot.net/flags/ru_1914.html