ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฟ็นรีร์"
ล โรบอต เพิ่ม: sr:Фенрир |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
[[ไฟล์:John Bauer-Tyr and Fenrir.jpg|thumb|ภาพวาดของหมาป่า]] |
[[ไฟล์:John Bauer-Tyr and Fenrir.jpg|thumb|ภาพวาดของหมาป่า]] |
||
'''หมาป่า |
'''หมาป่าเฟนรีร์''' ({{lang-en|Fenrir}}) เป็นหนึ่งในบุตรของ[[โลกิ]] เป็นหนึ่งในลางบอกเหตุที่จะทำให้เกิดวัน[[แร็กนาร็อก]] [[โอดิน]]จึงสั่งให้พันธนาการเฟนริร์ไว้ด้วยโซ่ไกลพ์นิร์ที่แข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใด หมาป่าตนนี้จะเจริญเติบโตขึ้นทุกวันขนาดของมันจึงใหญ่โตมาก เมื่อพวกเทพ[[แอซิร์]]จะหลอกพันธนาการเฟนริร์ มันเรียกร้องให้พวกเทพพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจโดยการวางมือลงในปากของมัน เทพ[[ทิร์]]อาสาทำหน้าที่นี้ เมื่อเฟนริร์เห็นว่าตนเองโดนหลอกและไม่สามารถดิ้นหลุดจากโซ่ได้จึงกัดมือของทิร์ขาด จากคำทำนายในวันแร็กนาร็อก เฟนริร์จะหลุดออกมาได้ และกินโอดินเข้าไป แต่ในเวลาต่อมาเฟนริร์จะถูกวีดาร์ หนึ่งในบุตรของโอดินสังหาร หมาป่าเฟนริร์เป็นการสะท้อนความเชื่อ และความรู้สึกอย่างหนึ่งของชาวไวกิ้งที่มองเห็นเหล่าหมาป่าเป็นศัตรูเป็นปีศาจร้าย นอกเหนือจากเหล่ายักษ์น้ำแข็ง (หิมะและหน้าหนาว) และยักษ์เพลิง (ภูเขาไฟ) |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:57, 6 กรกฎาคม 2552
หมาป่าเฟนรีร์ (อังกฤษ: Fenrir) เป็นหนึ่งในบุตรของโลกิ เป็นหนึ่งในลางบอกเหตุที่จะทำให้เกิดวันแร็กนาร็อก โอดินจึงสั่งให้พันธนาการเฟนริร์ไว้ด้วยโซ่ไกลพ์นิร์ที่แข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใด หมาป่าตนนี้จะเจริญเติบโตขึ้นทุกวันขนาดของมันจึงใหญ่โตมาก เมื่อพวกเทพแอซิร์จะหลอกพันธนาการเฟนริร์ มันเรียกร้องให้พวกเทพพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจโดยการวางมือลงในปากของมัน เทพทิร์อาสาทำหน้าที่นี้ เมื่อเฟนริร์เห็นว่าตนเองโดนหลอกและไม่สามารถดิ้นหลุดจากโซ่ได้จึงกัดมือของทิร์ขาด จากคำทำนายในวันแร็กนาร็อก เฟนริร์จะหลุดออกมาได้ และกินโอดินเข้าไป แต่ในเวลาต่อมาเฟนริร์จะถูกวีดาร์ หนึ่งในบุตรของโอดินสังหาร หมาป่าเฟนริร์เป็นการสะท้อนความเชื่อ และความรู้สึกอย่างหนึ่งของชาวไวกิ้งที่มองเห็นเหล่าหมาป่าเป็นศัตรูเป็นปีศาจร้าย นอกเหนือจากเหล่ายักษ์น้ำแข็ง (หิมะและหน้าหนาว) และยักษ์เพลิง (ภูเขาไฟ)
อ้างอิง
- Meyer Schapiro, "Cain's Jaw-Bone that Did the First Murder", Selected Papers, volume 3, Late Antique, Early Christian and Mediaeval Art, 1980, pp. 264, note 66, Chatto & Windus, London, ISBN 0701125144 JSTOR