ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บียอนเซ่ โนวส์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Loveisintheair (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Loveisintheair (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 68: บรรทัด 68:
เพลง Irreplaceable ก็ขึ้นอันดับ 1 ใน[[บิลบอร์ด]]ได้
เพลง Irreplaceable ก็ขึ้นอันดับ 1 ใน[[บิลบอร์ด]]ได้


ภาพยนตร์เรื่อง Dreamgirls ที่ดัดแปลงมาจาก[[ละครบรอดเวย์]]ในปี 1981 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักร้องในยุค 60 โดยได้แรงบันดาลใจจากวง[[เดอะ ซูปพรีมส์]] โดยยึดลักษณะตัวละครคือ [[ไดอาน่า รอสส์]] ในเรื่องคือ ดีน่า โจนส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้บียอนเซ่ถูกเสนอชื่อชิง[[รางวัลลูกโลกทองคำ]] ถึง 2 สาขา <ref>[http://www.timesonline.co.uk/article/0,,3-2505178,00.html]</ref>
ภาพยนตร์เรื่อง Dreamgirls ที่ดัดแปลงมาจาก[[ละครบรอดเวย์]]ในปี 1981 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักร้องในยุค 60 โดยได้แรงบันดาลใจจากวง[[เดอะ ซูปพรีมส์]] โดยยึดลักษณะตัวละครคือ [[ไดอาน่า รอสส์]] ในเรื่องคือ ดีน่า โจนส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้บียอนเซ่ถูกเสนอชื่อชิง[[รางวัลลูกโลกทองคำ]] ถึง 2 สาขา <ref>[http://www.timesonline.co.uk/article/0,,3-2505178,00.html] timesonline.co.uk</ref>


[[11 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 2007]] บียอนเซ่ได้รับรางวัลแกรมมี่สาขาอัลบั้มเพลงอาร์แอนด์บีร่วมสมัยยอดเยี่ยม <ref>[http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000017086 ผลรางวัลแกรมมี่ 2007]</ref>
[[11 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 2007]] บียอนเซ่ได้รับรางวัลแกรมมี่สาขาอัลบั้มเพลงอาร์แอนด์บีร่วมสมัยยอดเยี่ยม <ref>[http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000017086 ผลรางวัลแกรมมี่ 2007] manager.co.th</ref>


เพลง "Beautiful Liar" เป็นซิงเกิลที่อยู่ในอัลบั้ม B-Day ในแบบเดอลุกซ์ อีดิชั่น เพลงนี้เธอร่วมร้องกับนักร้องสาว [[ชากีรา]] ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ส่วนในอเมริกาขึ้นสูงสุดที่อันดับ 3
เพลง "Beautiful Liar" เป็นซิงเกิลที่อยู่ในอัลบั้ม B-Day ในแบบเดอลุกซ์ อีดิชั่น เพลงนี้เธอร่วมร้องกับนักร้องสาว [[ชากีรา]] ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ส่วนในอเมริกาขึ้นสูงสุดที่อันดับ 3

รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:24, 10 มิถุนายน 2552

บียอนเซ่
โนวส์ที่งานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 81 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2009
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดบียอนเซ่ จิเซลล์ โนวส์
(Beyoncé Giselle Knowles)
รู้จักในชื่อซาชาห์ เฟียร์ซ
เกิด (1984-09-04) 4 กันยายน ค.ศ. 1984 (39 ปี)
ที่เกิดแม่แบบ:Country data อเมริกา ฮิวส์ตัน, รัฐเท็กซัส, สหรัฐอเมริกา
แนวเพลงอาร์แอนด์บี,ป๊อป
อาชีพนักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ นักแสดง นางแบบ ดีไซน์เนอร์ นักเต้น
ช่วงปี1990 - ปัจจุบัน
ค่ายเพลงโคลัมเบีย
เว็บไซต์BeyonceOnline.com

บียอนเซ่ จิเซลล์ โนวส์ (อังกฤษ: Beyoncé Giselle Knowles) หรือชื่อเรียกกันสั้นๆว่า บียอนเซ่ เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1981 เป็นนักร้องสไตล์อาร์แอนด์บี, นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์, นักแสดงและนางแบบ ชาวอเมริกัน เธอเป็นอดีตสมาชิกคนสำคัญของ เดสทินีส์ไชลด์ ด้วย

โนวส์เกิดและเติบโตที่ฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ในวัยเด็ก โนวส์ได้เข้าร่วมในการแสดงหลากหลายประเภทของโรงเรียน ซึ่งรวมไปถึงการร้องเพลง อันเป็นการปูทางสำหรับอาชีพการเป็นนักร้อง โนวส์เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในช่วงปี 1990 ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของเดสทินีส์ไชลด์ วงดนตรีหญิงล้วนชื่อดังในยุคนั้น ก่อนที่จะออกอัลบั้มในฐานะศิลปินเดี่ยวเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2005 กับอัลบั้ม Dangerously in Love ซึ่งนับเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งในปีนั้น และยังได้รับรางวัลแกรมมีถึง 5 สาขาอีกด้วย และในปีเดียวกันนี้เอง เดสทินีส์ไชลด์ได้ตัดสินใจแยกวงอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น โนวส์ได้ออกอัลบั้มตามมาอีก 2 อัลบั้มคือ B'Day ในปี ค.ศ. 2006 และ I Am… Sasha Fierce ในปี ค.ศ. 2008 โดยในชีวิตการทำงานดนตรี ผลงานของเธอมียอดจำหน่ายทั่วโลกกว่า 118 ล้านหน่วย[1]

จากความสำเร็จอย่างสูงของโนวส์ ทำไห้เธอได้รับการยกย่องไห้เป็นศิลปินคนสำคัญคนหนึ่งของอุตสาหกรรมดนตรีในยุคปัจจุบัน และในปี ค.ศ. 2009นี้ นิตรสารฟอร์บยังได้จัดอันดับไห้เธอเป็นคนดังที่มีอิทธิพลมากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 อีกด้วย[2]

ประวัติ

ชีวิตในวัยเด็กและจุดกำเนิดเดสทินีส์ไชลด์ (1984-1993)

บียอนเซ่ โนวส์ เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1984 ที่เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เป็นลูกสาวคนโตของ แมททิว และทีน่า โนวส์ เธอมีน้องสาว 1 คน คือ โซแลงก์ โนวส์ ซึ่งปัจจุบันก็เดินตามรอยพี่สาวในวงการอยู่เหมือนกัน โนวส์ถูกปลูกฝังให้มีความกล้าแสดงออกตั้งแต่เด็ก โดยทีน่าได้ให้เธอเรียนศิลปะเกี่ยวกับการดนตรีต่างๆ มากมาย

โนวส์ขึ้นเวทีโชว์ครั้งแรกในรายการประกวดร้องเพลงแสดงความสามารถเมื่ออายุ 7 ปี และได้รับรางวัลชนะเลิศจากการร้องเพลง "Imagine" ของจอห์น เลนนอน นักร้องเพลงร็อคในตำนาน[3] นอกจากนี้เธอยังร่วมอยู่ในวงประสานเสียงของโรงเรียนที่เธอกำลังศึกษาอยู่ในขณะนั้น และได้รับตำแหน่งนักร้องนำอีกด้วย

เมื่ออายุได้ 8 ขวบ แมททิวได้มีความคิดที่จะสร้างวงเกิลกรุ๊ปขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "Girl's Tyme" ซึ่งในขณะนั้นมีสมาชิกในวงถึง 6 คน ซึ่งสองในนั้นคือ ลาทาเวีย โรเบอร์ซัน และ เคลลี โรว์แลนด์ Girl's Tyme ได้ขึ้นเวทีครั้งแรกในรายการ Star Search ซึ่งเป็นรายการประกวดร้องเพลงชื่อดังในขณะนั้น แต่ผลออกมาไม่ค่อยดี เพราะการแสดงออกมายังไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเท่าไหร่นัก ในปี 1993 ได้มีสมาชิกใหม่เข้ามาในวงคือ เลโทย่า ลัคเก็ท ต่อมาก็คัดเหลือ 4 คน และเปลี่ยนชื่อวงเป็นเดสทินีส์ไชลด์

เดสทินีส์ไชลด์ (1994-2002)

ไฟล์:800px-Beyonce Independent.jpg
โนวส์ร้องเพลง "Independent Woman Part 1",เพลงที่ฮิตที่สุดของเดสทินีส์ไชลด์

ปี 1995 เป็นปีที่สำคัญของวงนี้ จากการฝึกฝนอย่างหนักพวกเธอได้รับโอกาสออดิชั่นเข้าในสังกัดค่ายเพลง Elektra Record หลังจากเข้าสังกัดค่ายเพลงดังกล่าว เดสทินีส์ไชลด์ ได้รับงานโชว์ตามงานต่างๆ ต่อมาในปี 1997 ก็ได้รับโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายเพลง โคลัมเบียเรเคิดส์

เดสทินีส์ไชลด์มีซิงเกิลแรกคือเพลง "Killing Time" ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Men In Black ไม่นานก็ได้ออกอัลบั้มชุดแรกโดยใช้ชื่อเหมือนชื่อวงคือ Destiny's Child ในปี 1998 ซิงเกิลแรกเพลง "No No No" คว้า 3 รางวัลจากเวทีงานประกาศผลรางวัล Soul Train Music Awards อัลบั้มนี้ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก จนมาถึงอัลบั้ม Writing On The Wall ในปี 1999 อัลบั้มชุดที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายกว่า 7 ล้านชุด ซิงเกิลที่ออกมาล้วนเป็นที่นิยมเช่นเพลง "Bills Bills Bills" ซิงเกิลอันดับ 1 เพลงแรก และเพลง "Jumpin' Jumpin" รวมถึงเพลงที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของวงจนถึงปัจจุบันนี้อย่างเพลง "Say My Name" ซึ่งในปีนั้นคว้ารางวัลแกรมมีมาถึง 2 รางวัล จากอัลบั้มนี้ทำให้พวกเธอเป็นที่จับตามองของสื่อและผู้คนมากมาย ในฐานะกลุ่มศิลปินหญิงหน้าใหม่ในยุคนั้น

แต่ก็เกิดปัญหา เมื่อสมาชิกในวงได้มีการเปลี่ยนตัว หลังจาก เลโทย่า และ โรเบอร์สัน ถูกปลดออกจากวง ก็ได้มีสมาชิกใหม่เข้ามาคือ มิเชล วิลเลียม และ ฟาร่า แฟรงคลิน ต่อมาได้ 5 เดือน ฟาร่า ได้ลาออกจากวงเนื่องจากปัญหาส่วนตัว ทำให้เดสทินีส์ไชลด์เหลือสมาชิกเพียง 3 คนคือ โนวส์, โรว์แลนด์, และวิลเลียม

ในปี 2000 พวกเธอได้ออกซิงเกิลเพลงประกอบภาพยนตร์ Charlie's Angels ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยการขึ้นอันดับ 1 ถึง 7 สัปดาห์ นั่นคือเพลง "Independent Women Part I" อัลบั้มชุดที่ 3 ของพวกเธอ Survivor วางขายในปี 2001 บนชาร์ท BillBoard Top 200 ที่อันดับ 1 ด้วยยอดขายกว่า 663,000 ชุด และขายได้มากกว่า 10 ล้านชุดทั่วโลก และยังมีซิงเกิลที่ฮิตติดชาร์ทอีกมากมายอย่างเพลง "Survivor" และ "Bootylicious" จากอัลบั้มนี้ทำให้พวกเธอคว้ารางวัลแกรมมีมาได้อีก 1 รางวัล

Dangerously in Love (2003-2005)

ในฐานะศิลปินเดี่ยวบียอนเซ่ ก็มีเพลงฮิตอย่าง “Crazy In Love”, “Naughty Girl” และ “Baby Boy” จากอัลบั้ม “Dangerously In Love” ผลงานเดี่ยวชุดแรกคว้าอันดับ 1 ทั้งในอเมริกา และอังกฤษ และยังได้รับรางวัลแกรมมี่ถึง 5 สาขา ในที่นี้รวมถึงรางวัล "Best Female R&B Vocal Performance" สำหรับเพลง "Dangerously in Love", และ "Best Contemporary R&B Album"

นอกจากงานเพลงบียอนเซ่ยังมีงานแสดงในภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ในปี 2005 ภาพยนตร์เรื่อง The Pink Panther ได้เปิดตัวที่อันดับ 1 บนชาร์ท Box Office ของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งเพลงประกอบภาพยนตร์อย่างเพลง Check On It ที่เธอได้ร่วมงานกับ Slim Thug ก็ขึ้นถึงอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาเป็นเพลงที่ 3 ของเธอ

B'Day (2006–2007)

ไฟล์:Beyonceshakira.jpg
เพลง "Beautiful Liar"

บียอนเซ่กลับมากับอัลบั้ม B’Day ซึ่งจะวางจำหน่ายในอเมริกาวันที่ 4 กันยายนซึ่งตรงกับวันเกิดครบ 25 ปีของเธอพอดี นอกจากจะรับหน้าที่เป็น Executive Producer ในอัลบั้มนี้แล้วบียอนเซ่ยังร่วมแต่งและโปรดิวซ์เพลงในอัลบั้มนี้ถึง 11 เพลงเลยทีเดียว ร่วมด้วยทีมงานโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงระดับซุปเปอร์สตาร์เช่น Swizz Beatz, Rich Harrison, The Neptunes, Sean Garrett, Star Gate, Jay- Z, Solange Knowles, Angela Beyince, Makeeba และ Rodney Jerkins

เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลฮอต “Déjà vu” ที่ได้เจย์-ซี มาช่วยแร็ปในเพลงนี้ให้ ภายใต้การดูแลของ Rodney Jerkins แถมยังได้ Sophie Muller (Gwen Stefani, Sade ) ผู้กำกับ MV ชื่อดังมากำกับมิวสิกวิดีโอเพลงนี้อีกด้วย เพลง Irreplaceable ก็ขึ้นอันดับ 1 ในบิลบอร์ดได้

ภาพยนตร์เรื่อง Dreamgirls ที่ดัดแปลงมาจากละครบรอดเวย์ในปี 1981 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักร้องในยุค 60 โดยได้แรงบันดาลใจจากวงเดอะ ซูปพรีมส์ โดยยึดลักษณะตัวละครคือ ไดอาน่า รอสส์ ในเรื่องคือ ดีน่า โจนส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้บียอนเซ่ถูกเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ถึง 2 สาขา [4]

11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 บียอนเซ่ได้รับรางวัลแกรมมี่สาขาอัลบั้มเพลงอาร์แอนด์บีร่วมสมัยยอดเยี่ยม [5]

เพลง "Beautiful Liar" เป็นซิงเกิลที่อยู่ในอัลบั้ม B-Day ในแบบเดอลุกซ์ อีดิชั่น เพลงนี้เธอร่วมร้องกับนักร้องสาว ชากีรา ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ส่วนในอเมริกาขึ้นสูงสุดที่อันดับ 3

ต่อมาโนวส์ได้มีทัวร์คอนเสิร์ตชื่อว่า The Beyoncé Experience และในวันที่ 30 ตุลาคม 2007 เธอได้มาเปิดคอนเสิร์ตในประเทศไทย ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี โดยผู้จัดผู้จัด บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ท่ามกลางความตื่นเต้นและรอคอยของแฟนคลับชาวไทย

I Am… Sasha Fierce (2008-ปัจจุบัน)

โนวส์ออกอัลบั้มเดี่ยวลำดับที่ 3 ของเธอในชื่อ I Am… Sasha Fierce เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 โดยโนวส์ได้เผยว่า ซาช่า คือภาพลักษณ์ของเธอเวลาอยู่บนเวทีที่จะเต็มที่ เปรี้ยวแรง และทุ่มเท ต่างกับตัวจริงของเธอที่จะเป็นคนเงียบๆ และเรียบง่าย

"If I Were a Boy" และ "Single Ladies (Put a Ring on It)" สองซิงเกิลแรกจากอัลบั้มประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดย "Single Ladies (Put a Ring on It)" นั้นสามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งในชาร์ตบิลบอร์ดฮ็อต 100 ซึ่งนับเป็นซิงเกิลอันดับหนึ่งในบิลบอร์ดเพลงที่ 5 ของโนวส์ในฐานะศิลปินเดี่ยว

ในระหว่างนั้นบียอนเซ่ก็ได้มีงานภาพยนตร์ด้วยนั่นก็คือ Cadillac Records ซึ่งเธอรับบทเป็นนักร้องสาวในตำนาน Etta James โดยเธอได้นำเพลงประกอบภาพยนตร์ At Last ไปร้องในงานพิธีสาบานตนประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (บารัค โอบาม่า) ซึ่งเธอกล่าวว่าถือเป็นอีหหนึ่งความภาคภูมิใจในชีวิตของเธอเลยทีเดียว

ผลงานเพลง

ซิงเกิล

ปี ชื่อ อันดับ อัลบั้ม
U.S. U.S. R&B U.S. Dance UK
CAN AUS IRL NZ GER NLD [6] ITA [7] FRA [8]
2003 "Crazy in Love" (ร่วมกับ เจย์-ซี) 1 1 1 1 2 2 1 2 6 2 5 21 Dangerously in Love
"Baby Boy" (ร่วมกับ ฌอน พอล) 1 1 2 2 2 3 6 2 4 8 12 8
"Me, Myself and I" 4 2 3 11 7 11 21 18 35 14 25
2004 "Naughty Girl" 3 8 1 10 2 9 14 6 16 10 17 18
"Dangerously in Love 2" 57 17 41 52
2006 "Déjà Vu" (ร่วมกับ เจย์-ซี) 4 1 1 1 5 12 3 4 9 10 4 23 B'Day and deluxe edition
"Ring the Alarm" 11 3 1 45
"Irreplaceable" 1 1 1 4 2 1 1 1 11 3 8 10
"Upgrade U" 59 11
2007 "Beautiful Liar" (ร่วมกับ ชากีร่า) 3 70 1 1 2 5 1 1 1 1 1 1
"Get Me Bodied" 68 10 14 2
"Green Light" Freemasons remix 12 18
2008 "If I Were a Boy" 3 16 2 1 4 3 2 2 3 1 1 5 I Am... Sasha Fierce and deluxe edition
"Single Ladies (Put a Ring on It)" 1 1 1 7 2 5 4 2 8 10
2009 "Diva" 19 3 1 64 40 50 26 73
"Halo" 5 16 1 4 3 3 4 2 5 9 9
"Ego" 107 29
"Sweet Dreams" 41
เพลงประกอบภาพยนตร์ / อื่นๆ
2002 "Work It Out" 104 11 7 21 12 36 75 26 87 Austin Powers in Goldmember
2003 "Fighting Temptation" 56 57 13 The Fighting Temptations
"Summertime" 35
2005 "Check on It" (ร่วมกับ Bun B) และ Slim Thug) 1 3 1 3 5 2 1 11 5 32 The Pink Panther & #1's
2006 "Listen" 61 23 8 20 6 18 18 3 Dreamgirls & B'Day
2008 "At Last" 67 79 45 Cadillac Records
เพลงคู่
2000 "I Got That" (ร่วมกับ Amil) 101 All Money Is Legal
2002 "'03 Bonnie & Clyde" (ร่วมกับ เจย์-ซี) 4 5 2 4 2 8 2 6 9 8 25 The Blueprint²: The Gift & the Curse
2004 "The Closer I Get to You" (ร่วมกับ ลูเทอร์ แวนดรอสส์) 62 Dance with My Father
2007 "Hollywood"/"Welcome to Hollywood" (ร่วมกับ เจย์ ซี) - 52 21 98 Kingdom Come
"Until the End of Time" (ร่วมกับ จัสติน ทิมเบอร์เลค) 17 3 17 53 31 39 FutureSex/LoveSounds
2008 "Love in This Club, Part II" (ร่วมกับ อัชเชอร์ and ลิล เวย์น) 19 7 69 96 Here I Stand
"Just Stand Up!"[9] (ร่วมกับ ศิลปิน Stand Up to Cancer) 11 83 26 10 39 11 23 7 Charity single
จำนวนเพลงฮิต
U.S. U.S. R&B U.S. Dance UK CAN AUS IRL NZ GER NET ITA [FRA
เพลงที่ติดอับดับหนึ่ง 5 5 10 4 1 3 3 1 2 1 1
เพลงที่อยู่ใน 10 อันดับแรก 12 14 13 13 13 10 11 11 7 10 9 4
เพลงที่อยู่ใน 40 อันดับแรก 18 20 15 16 14 13 15 16 13 16 13 9

ทัวร์คอนเสิร์ต

  • 2003: Dangerously in Love Tour
  • 2004: Verizon Ladies First Tour
  • 2007: The Beyoncé Experience
  • 2009: I Am… Tour

ผลงานการแสดง

ปี เรื่อง รับบทเป็น
2001 Carmen: A Hip Hopera Carmen
2002 Austin Powers in Goldmember Foxxy Cleopatra
2003 The Fighting Temptations Lilly
2004 Fade to Black ตัวเธอเอง
2006 The Pink Panther Xania
Dreamgirls Deena Jones
2008 Cadillac Records Etta James
2009 Obsessed Sharon Charles

แหล่งข้อมูลอื่น

  • BeyonceOnline.com เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
  • BeyonceWorld.net เว็บไซต์แฟนคลับของบียอนเซ่อย่างเป็นทางการ
  • BeyonceThailand.net เว็บไซต์แฟนคลับของบียอนเซ่ในประเทศไทย

อ้างอิง