ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ (ทองดี สุรเตโช)"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ล เปลี่ยนจาก "เผยแพร่" เป็น "เผยแผ่" |
||
บรรทัด 32: | บรรทัด 32: | ||
====ด้านการ |
====ด้านการเผยแผ่==== |
||
'''พระธรรมกิตติวงศ์''' ได้เขียนหนังสือและแต่งตำราเพื่อ |
'''พระธรรมกิตติวงศ์''' ได้เขียนหนังสือและแต่งตำราเพื่อเผยแผ่พระธรรมจำนวนมากดังรายการผลงานเขียนของท่านข้างล่างนี้ นอกจากนี้พระธรรมกิตติวงศ์ยังได้อนุญาตให้นำศัพท์เกี่ยวกับ[[พุทธศาสนา]]และคำที่ใช้กับพระและวัดในหนังสือ "'''คำวัด'''" มาเผยแพร่ใน[[อภิธานศัพท์พุทธศาสนา]]ใน[[วิกิพีเดีย]]อีกด้วย |
||
==ตำแหน่งหน้าที่สำคัญ == |
==ตำแหน่งหน้าที่สำคัญ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:51, 18 พฤษภาคม 2552
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) | |
---|---|
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ. 9) | |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2489 (78 ปี) |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | น.ธ.เอก, ป.ธ.๙, พ.ม. |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดราชโอรสาราม กรุงเทพมหานคร |
อุปสมบท | 26 มิถุนายน พ.ศ. 2510 |
พรรษา | 56 |
ตำแหน่ง | ราชบัณฑิต, กรรมการมหาเถรสมาคม, เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม |
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ. 9 - 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2489 - ) (บรรพชา 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2503, อุปสมบท 26 มิถุนายน พ.ศ. 2510) ราชบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม มีจารึกว่า พระธรรมกิตติวงศ์ ปริยัติวิธานธำรง กวีวงศดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต ธรรมมิกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 8 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ชีวิตและงาน
พระธรรมกิตติวงศ์ เกิดที่อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร เมื่ออายุ 14 ปีและจบชั้นมัธยมต้นแล้วก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระที่วัดเดิมคือวัดไตรภูมิ อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นก็ได้ศึกษาธรรมที่สำนักเรียนวัดปากน้ำภาษีเจริญสอบได้เปรียญ 9 ประโยค เมื่อ พ.ศ. 2515 ด้วยอายุ 26 ปี ในทางโลก พระธรรมกิตติวงศ์สอบได้ประโยควิชาครูพิเศษมัธยม (พ.ม.) ในปีถัดมา
ด้านการงาน
ด้านการงาน พระธรรมกิตติวงศ์ ได้เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอพรานกระต่าย เลขานุการเจ้าคณะเขตบางขุนเทียน ต่อมาได้เป็นอาจารย์สอนวิชาแต่งฉันท์ภาษามคธ ชั้นประโยค ป.ธ.8 ที่โรงเรียนพระปริยัติธรรมส่วนกลางของคณะสงฆ์ ก่อนที่จะเป็นเจ้าคณะแขวงบางอ้อได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม
ด้านวิชาการ
ด้านวิชาการ พระธรรมกิตติวงศ์เคยเป็นรองประธานกรรมการตรวจสอบต้นฉบับต้นฉบับพระไตรปิฎกฉบับสังคายนา ภาษาไทยและภาษาบาลี เป็นรองประธานกรมมการตรวจสำนวนการแปลพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์ เป็นกรรมการจัดทำแผนพัฒนาด้านการศึกษา กรมการศาสนา ประธานกรรมการจัดทำต้นฉบับพระไตรปิฎก ฉบับภาษาไทย นอกจากนี้ยังเคยเป็นประธานกรรมการพิจารณาและดำเนินการจัดตั้งสำนักหุบผาสวรรค์เป็นสถานศึกษาทางพุทธศาสนาอีกด้วย
ด้านการเผยแผ่
พระธรรมกิตติวงศ์ ได้เขียนหนังสือและแต่งตำราเพื่อเผยแผ่พระธรรมจำนวนมากดังรายการผลงานเขียนของท่านข้างล่างนี้ นอกจากนี้พระธรรมกิตติวงศ์ยังได้อนุญาตให้นำศัพท์เกี่ยวกับพุทธศาสนาและคำที่ใช้กับพระและวัดในหนังสือ "คำวัด" มาเผยแพร่ในอภิธานศัพท์พุทธศาสนาในวิกิพีเดียอีกด้วย
ตำแหน่งหน้าที่สำคัญ
หลังจากสอบได้เปรียญ 9 ประโยคแล้ว พระธรรมกิตติวงศ์ได้ปฏิบัติงานด้านการศาสนาในตำแหน่งต่างๆ มาเป็นลำดับ นอกจากตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามดังกล่าวแล้วก็ได้เป็นเจ้าคณะภาค 16 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม เจ้าสำนักเรียนวัดราชโอรสาราม เป็นหัวหน้าคณะธรรมทูตสายที่ 8 เป็นผู้อำนวยการฝึกอบรมพระนักเทศน์ในหนกลางและหนใต้ นอกจากนี้ พระธรรมกิตติวงศ์ ยังเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดพุทธวิหาร นครเบอร์ลิน และวัดธรรมวิหาร เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมันอีกด้วย พระธรรมกิตติวงศ์ ได้ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นราชบัณฑิต สาขาวิชาตันติภาษา สำนักศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสถานเมื่อ พ.ศ. 2539
สมณศักดิ์
- พ.ศ. 2519 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระศรีสุทธิวงศ์
- พ.ศ. 2524 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวิสุทธิโมลี
- พ.ศ. 2531 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพปริยัติโมลี
- พ.ศ. 2535 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมกิตติวงศ์
หนังสือที่เขียน
- สมณศักดิ์: ยศช้าง ขุนนางพระ
- หลักการแต่งฉันท์ภาษามคธ
- ธรรมสารทีปนี
- คู่มือการศึกษาบาลี เล่ม 1-4
- ข้อคิด ข้อเขียน
- พระในบ้าน
- ภาษาธรรม
- คำวัด เล่ม 1-5
- คำพ่อคำแม่
- ภาษิตนิทัศน์
- คนกินคน (หนังสือแปล)
- หัวใจอมตะ (หนังสือแปล)
- คลังธรรม เล่ม 1-3
- ธรรมบทชีวิต
อ้างอิง
- เรียบเรียงจากประวัติใน บทธรรมนำชีวิต ตีพิมพ์ในโอกาสฉลองอายุสมมงคล 60 ปี พระธรรมกิตติวงศ์ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับบลิชชิ่ง 2549
- ประวัติราชบัณฑิต สำนักศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสถาน