ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล โรบอต เพิ่ม: jv:Kapang |
ล โรบอต เพิ่ม: lv:Pelējums |
||
บรรทัด 73: | บรรทัด 73: | ||
[[ko:곰팡이]] |
[[ko:곰팡이]] |
||
[[lt:Pelėjūnas]] |
[[lt:Pelėjūnas]] |
||
[[lv:Pelējums]] |
|||
[[no:Muggsopp]] |
[[no:Muggsopp]] |
||
[[pl:Pleśń]] |
[[pl:Pleśń]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:34, 4 พฤษภาคม 2552
Fungi ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: Early Devonian - Recent (but see text) | |
---|---|
Clockwise from top left: Amanita muscaria, a basidiomycete; Sarcoscypha coccinea, an ascomycete; black bread mold, a zygomycete; a chytrid; a Penicillium conidiophore. | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | Eukarya |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Opisthokonta |
อาณาจักร: | Fungi (L., 1753) R.T. Moore, 1980[1] |
Subkingdoms/Phyla | |
Dikarya (inc. Deuteromycota) |
รา เป็นสิ่งมีชีวิต ที่อยู่ในอาณาจักรฟังไจ ไม่มีคลอโรฟิลล์ มีสปอร์ สืบพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ มีทั้งชนิดเซลล์เดียว และหลายเซลล์ การดำรงชีพของราจะหลั่งเอนไซม์ออกนอกเซลล์ เมื่อย่อยสลายอาหารแล้วจึงดูดซับเข้าไปภายในเซลล์ ทำให้ราต้องการความชื้นสูง ถ้าไม่มีความชื้น ราจะอยู่ไม่ได้ เชื้อราแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ ราเซลล์เดียว และที่เป็นเส้นใย (hypha) ราที่มีหลายเซลล์ จะมีโครงร่างเป็นไมซีเลียม ซึ่งเป็นกลุ่มของเส้นใยที่แตกแขนงหลายทิศทาง แผ่ปกคลุมบริเวณที่เจริญอยู่ แต่ละเส้นเรียกไฮฟา ซึ่งมีรูปร่างเป็นหลอด มีผนังเซลล์บาง มีองค์ประกอบเป็นไคติน เส้นใยแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
- เส้นใยแบบมีผนังกั้น (septate hypha) สามารถเห็นนิวเคลียสและไซโตพลาสซึมเป็นช่องๆได้อย่างชัดเจน
- เส้นใยแบบไม่มีผนังกั้น (nonseptate hypha) นิวเคลียสและไซโตพลาสซึมจะอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย
การสืบพันธุ์
- แบบไม่อาศัยเพศโดยอาจจะเกิดจาก
- การสร้างสปอร์ ซึ่งจะไปงอกเป็นไมซีเลียมที่มีนิวเคลียสเป็น n
- เส้นใยแตกหักออกไปแล้วเจริญเป็นไมซีเลียมอันใหม่
- การแบ่งออกเป็นสองส่วนหรือการแตกหน่อ
- แบบอาศัยเพศได้โดยเส้นใยที่เป็น n หลอมรวมกันแล้วรวมนิวเคลียสเป็น 2n เกิดจากการรวมตัวของนิวเคลียส (nucleus) จากสองเซลล์ที่อยู่ใกล้กัน หรืออยู่คนละ hypha แล้วมีการแบ่งเซลล์แบบ meiosis เจริญเป็น sexual spore ซึ่งมีรูปร่างต่างๆ กัน โดยมีจำนวนสปอร์ภายในเครื่องห่อหุ้มหรืออยู่บนโครงสร้างพิเศษจำนวนจำกัด
- Zygospore
- Ascospore
- Basidiospore
การจัดจำแนก
แบ่งตามไฟลัมได้ 4 ไฟลัมคือ
- Chytridiomycota หรือไคทริด เป็นพวกที่มี แฟลกเจลล่า เป็นราที่มีการสร้างสปอร์ที่มีแฟลกเจลเลต มักอยู่ร่วมกัน กับ สาหร่าย ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในน้ำ จัดเป็นราที่โบราณที่สุด พบตามพืชน้ำที่ตายแล้ว หรือตามเศษหินเศษทรายในน้ำ เป็นปรสิตในพืชน้ำและสัตว์ เช่น Batrachochytrium เป็นปรสิตในกบ
- Zygomycota หรือไซโกต ฟังไจ เป็นพวกที่อาศัยอยู่บนดิน เช่น ราดำ บางชนิดก่อให้เกิดโรคราสนิม บางชนิดใช้ผลิตกรดฟูมาลิก Rhizopus nigricans มีการสร้างไซโกสปอร์จากเซลล์ใหม่ที่เกิดจากการปฏิสนธิ ตัวอย่างเช่น ราขนมปัง เมื่อสายของราที่ต่างกันมาพบกัน จะเกิดการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ มีการรวมของนิวเคลียสได้เป็น ไซโกสปอร์ (2n) ส่วนที่เป็นไซโกสปอร์นี้จะเป็นระยะพักของรามีผนังหนาเป็นสีดำ เมื่อสภาวะเหมาะสมไซโกสปอร์จะงอก และสร้างส่วนที่เรียกว่าสปอแรงเกีย (sporangia) ซึ่งจะเกิดการแบ่งตัวแบบไมโอซิส สร้างสปอร์ที่เป็น n เมื่อสปอร์นี้งอกจะได้เส้นใยที่มีนิวเคลียสเป็นแฮพลอยด์ต่อไป
- Ascomycota หรือ แซค ฟังไจ เป็นฟังไจที่พบมากที่สุด มีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ในถุง แอสคัส ภายในมี แอสโคสปอร์ เช่น ยีสต์(yeast)
- Basidiomycota หรือคลับ ฟังไจ สร้างเซลล์สืบพันธุ์ บนอวัยวะที่คล้ายกระบอง(Basidium) ภายในมี Basidiospore เป็นราที่ผลิตบาสิดิโอสปอร์ (basidiospore) ซึ่งจะงอกเป็นสายที่เป็นแฮพลอยด์ เรียก primary mycelium จากนั้นผนังของไมซีเลียมจะมารวมกันได้เป็นเซลล์ที่มีนิวเคลียสสองอัน แต่ละอันเป็น n เรียกว่าไดคาริโอต (dikaryote) เส้นใยที่เป็นไดคาริโอตนี้จะรวมกันเป็นโครงสร้างที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์หรือ tertiary mycelium ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่าดอกเห็ด เมื่อจะมีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ นิวเคลียสทั้งสองอันรวมเข้าเป็น 2n จากนั้นจึงแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสเพื่อสร้างสปอร์อีก ส่วนใหญ่เป็นเห็ดทั้งที่กินได้และเป็นพิษสามารถกินได้ เช่น เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เป็นต้น
- ↑ "Taxonomic proposals for the classification of marine yeasts and other yeast-like fungi including the smuts". Bot. Mar. 23: 371. 1980.