ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยุคมืดของกัมพูชา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ps (คุย | ส่วนร่วม)
แจ้งต้องการหมวดหมู่ +ต้องการวิกิลิงก์ +เก็บกวาดทันใจด้วยสจห.
ท่านเคาทน์ (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าใหม่: ยุคมืดของกัมพูชา เริ่มขึ้นหลังจากอาณาจักรขอมเริ่มอ่อนแอลง …
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
ยุคมืดของกัมพูชา เริ่มขึ้นหลังจากอาณาจักรขอมเริ่มอ่อนแอลง ประเทศราชประกาศตัวเป็นอิสระ เกิดความวุ่นวายในราชอาณาจักร จนในที่สุดการล่มสลายของอาณาจักรขอม
{{ต้องการวิกิลิงก์}}

{{ต้องการหมวดหมู่}}
== ยุคเสื่อมของอาณาจักรขอม ==
ยุคมืดของกัมพูชา เริ่มตั้งแต่อาณาจักรอยุธยาได้โจมตีอาณาจักรขแมร และ ได้เผา พระนคร เมืองหลวงของอาณาจักรขแมร ราบเป็นหน้ากลอง ทำให้อาณาจักรขแมรเป็นส่วนหนึ่งของสยามประเทศตั้งแต่บัดนั้นมา ขเมรเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาในฐานะดินแดน ประเทศราช อาณาจักรอยุธยาปกครองขเมรเป็นเวลาเกือบ400ปี ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์เขมรตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจักรวรรดิสยามอย่างเข้มงวด ในสมัยรัชกาลที่3 ได้เกิด สงครามอานามสยามยุทธทำให้กัมพูชาเป็นรัฐอารักขาระหว่างสยามกับญวณ ก่อนที่จะตกเป็นของฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
อาณาจักรขอม ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่8(พ.ศ.1786-1838) ความไม่มั่นคงภายในอาณาจักรเริ่มเกิดขึ้น ประเทศราชเกิดการแข็งข้อ พ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราดร่วมมือกับพ่อขุนบางกลางหาว แข็งเมืองไม่ขึ้นกับพระนคร และต่อมาได้ก่อตั้งอาณาจักรสุโขทัยขึ้น ในช่วงนี้มีการเปลี่ยนศาสนาจากศาสนาพุทธนิกายมหายานมานับถือพระศิวะเหมือนเดิม และได้ทำลายภาพจำหลักหินที่เป็นรูปพระพุทธเจ้า ทำลายภาพสลักหินที่เกี่ยวกับพุทธประวัติออกไปจากปราสาทหลายๆแห่ง อาทิ ปราสาทตาพรหม หลังจากสิ้นรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่8 อาณาจักรขอมเสื่อมอำนาจลงอย่างมาก ราชวงศ์ต่างๆเริ่มเกิดการแย่งชิงราชสมบัติกัน ในช่วงนี้ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆเกิดขึ้น หัวเมืองต่างๆเริ่มกบฎแข็งข้อและแยกตัวออกไปเป็นทิวแถว รวมไปถึงการขึ้นเป็นใหญ่ของ"อาณาจักรสุโขทัย" (มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า ปลายยุคของอาณาจักรขอมนั้นพระเจ้าอู่ทองกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอยุธยาทรงมีรับสั่งให้พระราเมศวรยกทัพเข้าไปตีนครธมแต่ไม่สำเร็จจนต้องส่งขุนหลวงพะงั่วเข้าไปสมทบในราวปีพ.ศ.1912)
== การล่มสลายของอาณาจักรขอม ==
ใน พ.ศ.1974 เจ้าสายพระยาทรงยกทัพเข้าตีนครธมและประสบกับชัยชนะสามารถกวาดต้อนผู้คนและขนสมบัติกลับมาอยุธยาได้อย่างมากมาย เป็นผลให้อาณาจักรขอมล่มสลายอย่างสิ้นเชิง จนไม่สามารถฟื้นฟูอาณาจักรให้กลับมายิ่งใหญ่ตามเดิมได้
== ยุคมืดของกัมพูชา==
หลังจากนั้นมาเขมรก็กลายเป็นประเทศราชของสยามประเทศ ในสมัยการเสียกรุงครั้งที่1กับครั้งที่2ของอยุธยา เขมรพยายามตั้งตัวเป็นอิสระแต่ไม่สำเร็จ เพราะในสมัยการเสียกรุงครั้งที่1 หลังจากที่พระเจ้าบุเรงนองตีอยุธยาแตกพระองค์ก็มาตีเขมรให้ตกเป็นเมืองขึ้นของหงสาวดี ต่อมาพระนเรศวรมหาราชกอบกู้เอกราชกรุงศรีอยุธยาสำเร็จ เขมรจึงตกเป็นของอยุธยาอีกครั้ง ส่วนในสมัยการเสียกรุงครั้ง2หลังจากที่พระเจ้าตากสินมหาราชกอบกู้เอกราชสำเร็จพระองค์ก็ทรงยกทัพไปตีเขมร เขมรจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกรุงธนบุรีและเลยมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาเกิดสงครามอานามสยามยุทธทำให้กัมพูชากลายเป็นรัฐอารักขาระหว่างสยามและญวณก่อนที่จะตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในเวลาต่อมา[[หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์กัพูชา]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:52, 14 เมษายน 2552

ยุคมืดของกัมพูชา เริ่มขึ้นหลังจากอาณาจักรขอมเริ่มอ่อนแอลง ประเทศราชประกาศตัวเป็นอิสระ เกิดความวุ่นวายในราชอาณาจักร จนในที่สุดการล่มสลายของอาณาจักรขอม

ยุคเสื่อมของอาณาจักรขอม

อาณาจักรขอม ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่8(พ.ศ.1786-1838) ความไม่มั่นคงภายในอาณาจักรเริ่มเกิดขึ้น ประเทศราชเกิดการแข็งข้อ พ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราดร่วมมือกับพ่อขุนบางกลางหาว แข็งเมืองไม่ขึ้นกับพระนคร และต่อมาได้ก่อตั้งอาณาจักรสุโขทัยขึ้น ในช่วงนี้มีการเปลี่ยนศาสนาจากศาสนาพุทธนิกายมหายานมานับถือพระศิวะเหมือนเดิม และได้ทำลายภาพจำหลักหินที่เป็นรูปพระพุทธเจ้า ทำลายภาพสลักหินที่เกี่ยวกับพุทธประวัติออกไปจากปราสาทหลายๆแห่ง อาทิ ปราสาทตาพรหม หลังจากสิ้นรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่8 อาณาจักรขอมเสื่อมอำนาจลงอย่างมาก ราชวงศ์ต่างๆเริ่มเกิดการแย่งชิงราชสมบัติกัน ในช่วงนี้ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆเกิดขึ้น หัวเมืองต่างๆเริ่มกบฎแข็งข้อและแยกตัวออกไปเป็นทิวแถว รวมไปถึงการขึ้นเป็นใหญ่ของ"อาณาจักรสุโขทัย" (มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า ปลายยุคของอาณาจักรขอมนั้นพระเจ้าอู่ทองกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอยุธยาทรงมีรับสั่งให้พระราเมศวรยกทัพเข้าไปตีนครธมแต่ไม่สำเร็จจนต้องส่งขุนหลวงพะงั่วเข้าไปสมทบในราวปีพ.ศ.1912)

การล่มสลายของอาณาจักรขอม

ใน พ.ศ.1974 เจ้าสายพระยาทรงยกทัพเข้าตีนครธมและประสบกับชัยชนะสามารถกวาดต้อนผู้คนและขนสมบัติกลับมาอยุธยาได้อย่างมากมาย เป็นผลให้อาณาจักรขอมล่มสลายอย่างสิ้นเชิง จนไม่สามารถฟื้นฟูอาณาจักรให้กลับมายิ่งใหญ่ตามเดิมได้

ยุคมืดของกัมพูชา

หลังจากนั้นมาเขมรก็กลายเป็นประเทศราชของสยามประเทศ ในสมัยการเสียกรุงครั้งที่1กับครั้งที่2ของอยุธยา เขมรพยายามตั้งตัวเป็นอิสระแต่ไม่สำเร็จ เพราะในสมัยการเสียกรุงครั้งที่1 หลังจากที่พระเจ้าบุเรงนองตีอยุธยาแตกพระองค์ก็มาตีเขมรให้ตกเป็นเมืองขึ้นของหงสาวดี ต่อมาพระนเรศวรมหาราชกอบกู้เอกราชกรุงศรีอยุธยาสำเร็จ เขมรจึงตกเป็นของอยุธยาอีกครั้ง ส่วนในสมัยการเสียกรุงครั้ง2หลังจากที่พระเจ้าตากสินมหาราชกอบกู้เอกราชสำเร็จพระองค์ก็ทรงยกทัพไปตีเขมร เขมรจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกรุงธนบุรีและเลยมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาเกิดสงครามอานามสยามยุทธทำให้กัมพูชากลายเป็นรัฐอารักขาระหว่างสยามและญวณก่อนที่จะตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในเวลาต่อมา