ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์"
ล เพิ่มหมวดหมู่:พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 2 ด้วยสจห. |
ล เปลี่ยน หมวดหมู่:พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 2 → หมวดหมู่:พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 3 ด้วย[[WP:iScript|สจ |
||
บรรทัด 49: | บรรทัด 49: | ||
[[หมวดหมู่:พระภรรยาในรัชกาลที่ 5]] |
[[หมวดหมู่:พระภรรยาในรัชกาลที่ 5]] |
||
[[หมวดหมู่:ราชสกุลลดาวัลย์|สเวภาคย์นารีรัตน์]] |
[[หมวดหมู่:ราชสกุลลดาวัลย์|สเวภาคย์นารีรัตน์]] |
||
[[หมวดหมู่:พระราชนัดดาในรัชกาลที่ |
[[หมวดหมู่:พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 3]] |
||
{{โครงชีวประวัติ}} |
{{โครงชีวประวัติ}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:00, 22 มีนาคม 2552
แม่แบบ:กล่องข้อมูล เจ้านายหรือพระบรมวงศานุวงศ์
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ ในรัชกาลที่๕ หรือพระนามเดิม หม่อมเจ้าปิ๋ว ลดาวัลย์ เป็นพระธิดาพระองค์รองในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์ กรมหมื่นภูมินทรภักดี อันประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจีน เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๓๙๗ [1][2]
หม่อมเจ้าปิ๋ว ลดาวัลย์ เมื่อประสูติทรงประทับอยู่ที่วังของพระบิดา โดยมีกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร (ทูลกระหม่อมแก้ว) ทรงเป็นผู้อภิบาล ทรงมีพระเชษฐภคินีและพระขนิษฐาที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจีน ๒ พระองค์ และได้ถวายพระองค์เป็นพระอรรคชายาเธอใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งสามพระองค์ คือ
- หม่อมเจ้าบัว ลดาวัลย์ เมื่อเป็นพระมเหสี ทรงมีอิสริยศักดิ์เป็น พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค
- หม่อมเจ้าสาย ลดาวัลย์ เมื่อเป็นพระมเหสี ทรงมีอิสริยศักดิ์เป็น พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์
หม่อมเจ้าปิ๋ว ลดาวัลย์ ทรงรับราชการฝ่ายในเป็นพระมเหสีทรงอิสริยศักดิ์เป็น พระอรรคชายาเธอ หม่อมเจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ ทรงมีพระราชธิดา ๑ พระองค์ คือ
- เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร ประสูติในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ ต่อมาทรงเฉลิมพระยศเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ หรือ สมเด็จหญิงใหญ่
หม่อมเจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ ทรงเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จกรมพระยาสุดารัตนราชประยูรมาก ถึงกับทรงตั้งพระทัยจะให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระอัครมเหสีทีเดียว แต่ว่าหม่อมเจ้าเสาวภาคยนารีรัตนมีพระพลานามัยไม่สู้จะสมบูรณ์นัก ประสูติพระราชธิดาพระองค์ ๑ แล้วก็ประชวรกระเสาะกระแสะเรื่อยมา จนกระทั่งสิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๐ และได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศหลังจากสิ้นชีพิตักษัยไปแล้วนั้นให้ขึ้นเป็นพระองค์เจ้า ออกพระนามว่า พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์[3]
ในปีนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสูญเสียพระอรรคชายาเธอ พระราชโอรส และพระราชธิดาถึง ๓ พระองค์ ในปีเดียวกัน คือ พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพชรุตม์ธำรง [4] จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์ราชานุสรณ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑ เพื่อระลึกถึงพระอรรคชายาเธอ พระราชโอรส และพระราชธิดาที่สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกัน อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ทำด้วยหินอ่อนแกะสลักพระรูปเหมือนทั้ง 4 พระองค์ ตั้งอยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม ที่พระราชวังบางปะอิน
อ้างอิง
- ↑ http://theyoung.net/tamneap_vip/49_queen/49_37.htm
- ↑ จิรวัฒน์ อุตตมะกุล. พระภรรยาเจ้า และสมเด็จเจ้าฟ้า ในรัชกาลที่ ๕. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์มติชน, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2548. 398 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-322-964-7
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, คำประกาศตั้งพระอรรคชายาเธอ หม่อมเจ้าเสาวภาคน่รีรัตน ขึ้นเป็น พระองค์เจ้า มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัตรว่า พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัต ทรงศักดินา ๑๕๐๐๐ เสมอเจ้าต่างกรมในพระบรมมหาราชวังตามพระอรรคชายาเธอ, เล่ม ๔, ตอน ๓๑, ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๑๘๘๗, หน้า ๒๕๑
- ↑ http://www.palaces.thai.net/new/bp/memo.htm#Thai