ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศิลปะกอทิกนานาชาติ"
หน้าใหม่: {{ใช้ปีคศ|width=280px}} thumb|280px |“[[นักบุญแมรี แม็กดาเลนและเ… |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ใช้ปีคศ|width=280px}} |
{{ใช้ปีคศ|width=280px}} |
||
[[Image:Torun SS Johns Mary Magdalene.jpg|thumb|280px |“[[นักบุญแมรี แม็กดาเลน]]และเทวดา” จากคริสต์ศตวรรษที่ 14 จากเมืองในกลุ่มประเทศฮันเซียติคในโปแลนด์]] |
[[Image:Torun SS Johns Mary Magdalene.jpg|thumb|280px |“[[นักบุญแมรี แม็กดาเลน]]และเทวดา” จากคริสต์ศตวรรษที่ 14 จากเมืองในกลุ่มประเทศฮันเซียติคในโปแลนด์]] |
||
'''ศิลปะโกธิคนานาชาติ''' ([[ภาษาอังกฤษ]]: '''International Gothic''') เป็นสมัยหนึ่งของ[[ศิลปะโกธิค]]ที่รุ่งเรืองในบริเวณ[[เบอร์กันดี]], [[โบฮีเมีย]], [[ฝรั่งเศส]] และทางตอนเหนือของ[[อิตาลี]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 และต้น15คริสต์ศตวรรษที่<ref>[http://books.google.co.uk/books?id=O7YSKD3scdcC&pg=PA22&dq=International+Gothic+Gothic+art+Burgundy,+Bohemia,+France++Italy&as_brr=3&sig=ACfU3U0uIHJQDrAyeEBjyEetb3hzBOJAXg#PPA22,M1 Masterpieces of Western Art: A History of Art in 900 Individual Studies from the Gothic to the Present Day], Ingo F. Walther, Robert Suckale, Manfred Wundram, Taschen, 2002, ISBN 3822818259</ref> จากนั้นก็เผยแพร่ไปทั่วยุโรปตะวันตก จึงได้รับชื่อว่า “ศิลปะโกธิคนานาชาติ” โดยนักประวัติศาสตร์ศิลปะชาวฝรั่งเศส[[หลุยส์ คูราโจด์]] (Louis Courajod) ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19<ref>Thomas, 8</ref> |
'''ศิลปะโกธิคนานาชาติ''' หรือ '''ศิลปะกอธิคนานาชาติ''' ([[ภาษาอังกฤษ]]: '''International Gothic''') เป็นสมัยหนึ่งของ[[ศิลปะโกธิค]]ที่รุ่งเรืองในบริเวณ[[เบอร์กันดี]], [[โบฮีเมีย]], [[ฝรั่งเศส]] และทางตอนเหนือของ[[อิตาลี]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 และต้น15คริสต์ศตวรรษที่<ref>[http://books.google.co.uk/books?id=O7YSKD3scdcC&pg=PA22&dq=International+Gothic+Gothic+art+Burgundy,+Bohemia,+France++Italy&as_brr=3&sig=ACfU3U0uIHJQDrAyeEBjyEetb3hzBOJAXg#PPA22,M1 Masterpieces of Western Art: A History of Art in 900 Individual Studies from the Gothic to the Present Day], Ingo F. Walther, Robert Suckale, Manfred Wundram, Taschen, 2002, ISBN 3822818259</ref> จากนั้นก็เผยแพร่ไปทั่วยุโรปตะวันตก จึงได้รับชื่อว่า “ศิลปะโกธิคนานาชาติ” โดยนักประวัติศาสตร์ศิลปะชาวฝรั่งเศส[[หลุยส์ คูราโจด์]] (Louis Courajod) ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19<ref>Thomas, 8</ref> |
||
ในช่วงนี้ศิลปินและงานที่เคลื่อนย้ายได้เช่น[[หนังสือวิจิตร]]มักจะเดินทางกว้างไกลไปทั่วยุโรปและนำศิลปะไปเผยแพร่ ซึ่งทำให้เป็นการลดความแตกต่างของงานศิลปะในประเทศต่างๆ ลงบ้าง บริเวณที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือทางตอนเหนือของฝรั่งเศส, ในบริเวณเบอร์กันดี, ในราชสำนักของพระจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปราก และในอิตาลี การเสกสมรสระหว่างสองอาณาจักรเช่นการเสกสมรสของ[[สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ]]กับ [[แอนน์แห่งโบฮีเมีย สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ|แอนน์แห่งโบฮีเมีย]]ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเผยแพร่ลักษณะศิลปะ |
ในช่วงนี้ศิลปินและงานที่เคลื่อนย้ายได้เช่น[[หนังสือวิจิตร]]มักจะเดินทางกว้างไกลไปทั่วยุโรปและนำศิลปะไปเผยแพร่ ซึ่งทำให้เป็นการลดความแตกต่างของงานศิลปะในประเทศต่างๆ ลงบ้าง บริเวณที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือทางตอนเหนือของฝรั่งเศส, ในบริเวณเบอร์กันดี, ในราชสำนักของพระจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปราก และในอิตาลี การเสกสมรสระหว่างสองอาณาจักรเช่นการเสกสมรสของ[[สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ]]กับ [[แอนน์แห่งโบฮีเมีย สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ|แอนน์แห่งโบฮีเมีย]]ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเผยแพร่ลักษณะศิลปะ |
||
บรรทัด 17: | บรรทัด 17: | ||
{{จิตรกรรมตะวันตก}} |
{{จิตรกรรมตะวันตก}} |
||
{{ศิลปะตะวันตก}} |
{{ศิลปะตะวันตก}} |
||
[[หมวดหมู่:ศิลปะ |
[[หมวดหมู่:ศิลปะกอธิค]] |
||
{{เรียงลำดับ|ศิลปะโกธิคนานาชาติ}} |
{{เรียงลำดับ|ศิลปะโกธิคนานาชาติ}} |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:06, 2 มีนาคม 2552
ศิลปะโกธิคนานาชาติ หรือ ศิลปะกอธิคนานาชาติ (ภาษาอังกฤษ: International Gothic) เป็นสมัยหนึ่งของศิลปะโกธิคที่รุ่งเรืองในบริเวณเบอร์กันดี, โบฮีเมีย, ฝรั่งเศส และทางตอนเหนือของอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 14 และต้น15คริสต์ศตวรรษที่[1] จากนั้นก็เผยแพร่ไปทั่วยุโรปตะวันตก จึงได้รับชื่อว่า “ศิลปะโกธิคนานาชาติ” โดยนักประวัติศาสตร์ศิลปะชาวฝรั่งเศสหลุยส์ คูราโจด์ (Louis Courajod) ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19[2]
ในช่วงนี้ศิลปินและงานที่เคลื่อนย้ายได้เช่นหนังสือวิจิตรมักจะเดินทางกว้างไกลไปทั่วยุโรปและนำศิลปะไปเผยแพร่ ซึ่งทำให้เป็นการลดความแตกต่างของงานศิลปะในประเทศต่างๆ ลงบ้าง บริเวณที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือทางตอนเหนือของฝรั่งเศส, ในบริเวณเบอร์กันดี, ในราชสำนักของพระจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปราก และในอิตาลี การเสกสมรสระหว่างสองอาณาจักรเช่นการเสกสมรสของสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษกับ แอนน์แห่งโบฮีเมียก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเผยแพร่ลักษณะศิลปะ ต่อมาการสร้างงานศิลปะก็ไม่จำกัดแต่ชนชั้นเจ้านายหรือชนชั้นปกครองแต่ขยายไปยังพ่อค้าและเจ้านายชั้นรองด้วย ทางตอนเหนือของยุโรป “ศิลปะยุคปลายโกธิค” ยังคงพบในงานศิลปะจนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 และไม่มีอะไรมาแทนที่ก่อนถึงสมัยยุคเรอเนสซองซ์คลาสสิค การใช้คำนี้ของนักประวัติศาสตร์ศิลปะแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันบ้างที่บางคนใช้ในวงที่จำกัดกว่าผู้อื่น[3] Some art historians feel the term is "in many ways ... not very helpful.. since it tends to skate over both differences and details of transmission."[4] “ศิลปะโกธิคนานาชาติ”
อ้างอิง
- ↑ Masterpieces of Western Art: A History of Art in 900 Individual Studies from the Gothic to the Present Day, Ingo F. Walther, Robert Suckale, Manfred Wundram, Taschen, 2002, ISBN 3822818259
- ↑ Thomas, 8
- ↑ WGA: Definition of the International Gothic style
- ↑ Syson and Gordon, 58
ดูเพิ่ม