ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรเบิร์ต กัมปิน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 50: บรรทัด 50:


{{birth|1375}}{{death|1444}}
{{birth|1375}}{{death|1444}}
{{จิตรกรตะวันตก}}

[[หมวดหมู่:จิตรกรชาวเนเธอร์แลนด์|คแมแพง]]
[[หมวดหมู่:จิตรกรชาวเนเธอร์แลนด์|คแมแพง]]
[[หมวดหมู่:ชาวเนเธอร์แลนด์|คแมแพง]]
[[หมวดหมู่:ชาวเนเธอร์แลนด์|คแมแพง]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:06, 25 กุมภาพันธ์ 2552

แผ่นภาพ “Flemalle” ส่วนหนึ่ง
งานที่มักจะสันนิษฐานว่าเขียนโดยแคมแพง บานภาพนี้เป็นบานทางขวาของบานพับภาพเวิร์ล (Werl triptych) ที่เขียนเมื่อ ค.ศ. 1438 ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ปราโด, ประเทศสเปน

โรแบร์ต แคมแพง (ภาษาอังกฤษ: Robert Campin) (ราว ค.ศ. 1375 - 26 เมษายน ค.ศ. 1444) เป็นจิตรกรสมัยเรอเนซองส์สมัยต้นของประเทศเนเธอร์แลนด์ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนจิตรกรรมแผง และเขียนบานพับภาพ โรแบร์ต แคมแพงมักจะสันนิษฐานว่าเป็นคนคนเดียวกับจิตรกรที่เรียกกันว่า “ครูบาแห่งเฟลมาล” (Master of Flémalle) ประวัติของแคมแพงมีเนื้อหาค่อนข้างสมบูรณ์สำหรับชีวิตคนในยุคนั้น[1] แต่ไม่มีงานชิ้นใดที่กล่าวได้แน่นอนว่าเป็นของแคมแพง ขณะที่งานส่วนใหญ่กล่าวกันว่าเป็นงานของผู้เรียกกันว่า “ครูบาแห่งเฟลมาล” ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกตามภาพเขียน[2]

ชีวิต

โรแบร์ต แคมแพงดูเหมือนจะมีญาติอยู่ที่วาลองซิเอนส์ (Valenciennes) ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส เมื่อเริ่มแรกแคมแพงตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ทอร์เน (Tournai) ปัจจุบันอยู่ในประเทศเบลเยียม ระหว่างปี ค.ศ. 1405-1406 และเป็นสมาชิกสมาคมจิตรกรที่นั่น ในปี ค.ศ. 1410 แคมแพงซื้อสัญชาติซึ่งคงหมายความว่าแคมแพงไม่ได้เกิดในที่นั่น ต่อมาแคมแพงก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการของสมาคมและหน้าที่ต่างๆ ที่วัดและสำนักงานท้องถิ่น รวมทั้งมีเวิร์คชอพใหญ่เป็นของตนเอง แต่แคมแพงถูกปลดจากตำแหน่งเพราะเหตุการณ์เล่าลือและถูกลงโทษให้ไปแสงบุญ ในปี ค.ศ. 1429 แคมแพงก็ถูกตัดสินว่ามีชู้และถูกลงโทษให้ขับออกจากเมืองไปปีหนึ่ง แต่มาร์กาเร็ตแห่งเบอร์กันดีชายาของวิลเลียมที่ 2 ผู้เป็นดุคแห่งบาวาเรีย-สเตราบิง และน้องของจอห์นผู้เก่งกล้าผู้เป็นดุคแห่งเบอร์กันดีก็เข้ามาช่วยลดการลงโทษให้เหลือเพียงแค่ปรับ[3] งานบานพับภาพที่ลงปีที่ทำว่าเป็น ค.ศ. 1438 แสดงว่าแคมแพงยังคงทำงานอยู่จนถึงเวลานั้น บานพับภาพนี้เหลืออยู่เพียงบานปีกสองข้าง บานกลางสูญหายไป

จิตรกร และ ลักษณะภาพ

ถึงแม้ว่าแคมแพงจะได้รับอิทธิพลจากศิลปินหนังสือวิจิตรรุ่นเดียวกันแต่งานของแคมแพงมีลักษณะเป็นสัจจะนิยมมากกว่าจิตรกรคนอื่นก่อนหน้านั้น แคมแพงเป็นจิตรกรคนแรกที่ทดลองการใช้สีน้ำมันแทนการใช้สีฝุ่นผสมเพื่อให้ได้สีที่สดขึ้นอันเป็นลักษณะของจิตรกรรมในสมัยนั้น แคมแพงใช้วิธีการเขียนแบบทัศนียภาพในการทำให้แบบมีลักษณะเป็นสามมิติมากขึ้นโดยการใช้แสงและเงาช่วยในการจัดองค์ประกอบที่เป็นทัศนียภาพที่ซับซ้อน ประเด็นหนึ่งที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันคือการใช้สัญลักษณ์ซับซ้อนที่ยอมรับกันว่าใช้ในงานของฟาน เอคก็ใช้ในงานของแคมแพงด้วย

นักประวัติศาสตร์ศิลปะได้พยายามที่จะสืบหาต้นตอของศิลปเรอเนซองส์ทางตอนเหนือของยุโรปแต่ก็มีหลักฐานทางตอนเหนือของอิตาลี และเข้าใจกันเป็นเวลานานว่ายาน ฟาน เอคเป็นจิตรกรคนแรกที่ใช้วิธีเขียนแบบใหม่ซึ่งเห็นได้จากหนังสือวิจิตรในการเขียนภาพบนแผ่นไม้ เมื่อมาถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 จึงเป็นที่เห็นได้ชัดว่าฟาน เอคเป็นจิตรกรร่วมสมัยกับผู้เขียนภาพที่รวมทั้ง “ฉากแท่นบูชาเมโรด์” (Mérode Altarpiece) ซึ่งเขียนเมื่อ ค.ศ. 1428 ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน, นครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา เป็นฉากแท่นบูชาที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและความเหมือนจริง อึกสามแผ่นภาพก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน ว่ากันว่ามาจากแอบบีเฟลมาล (Flémalle) แต่ความจริงแล้วแอบบีเฟลมาลไม่มีจริง ปัจจุบันแผ่นภาพทั้งสามอยู่ที่แฟรงค์เฟิร์ต เป็นที่ถกเถียงกันว่างานเหล่านี้เป็นของ “ครูบาแห่งเฟลมาล” ซึ่งในขณะนั้นไม่สามารถบอกได้เป็นที่แน่นอนว่าใครคือผู้วาดที่แท้จริง

ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 นักวิชาการหลายท่านให้ความเห็นว่า “ครูบาแห่งเฟลมาล” เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก โรแบร์ต แคมแพง ที่มีหลักฐานว่าเป็นครูบาจิตรกรที่ทอร์เนจากปี ค.ศ. 1406 ข้อโต้แย้งมาจากเอกสารที่กล่าวถึงลูกศิษย์สองคนที่แคมแพงรับไว้ที่สติวดิโอในปี ค.ศ. 1427 - ยาร์ค ดาเรท์ (Jacques Daret) และ โรเจเลท์ เดอลา พาสเจอร์ (Rogelet de la Pasture) ชื่อหลังอาจจะเป็นคนเดียวกับ โรเจียร์ ฟาน เดอร์ เวย์เด็น (Rogier van der Weyden) เพราะชื่อทั้งสอง, ชื่อแรกเป็นภาษาฝรั่งเศสและอีกชื่อหนึ่งภาษาดัทช์ หมายความว่า “ทุ่ง” ในภาษาอังกฤษ งานเขียนฉากแท่นบูชาชิ้นหนึ่งของดาเรท์มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับงานเขียนของ “ครูบาแห่งเฟลมาล” และ งานสมัยแรกๆ ของแคมแพงเป็นอย่างมาก ฉะนั้นจึงน่าจะกล่าวได้ว่าทั้งสองคนเป็นลูกศิษย์ของ“ครูบาแห่งเฟลมาล” หรือ โรแบร์ต แคมแพง ข้อสันนิษฐานอีกข้อคือบานพับภาพเฟลมาลเขียนโดยโรเจียร์ ฟาน เดอร์ เวย์เด็นเมื่อยังอายุในระหว่างยี่สิบปีกว่าๆ นักวิชาการบางท่านกล่าวว่างาน “ชะลอร่างจากกางเขน” ที่พิพิธภัณฑ์ปราโดเขียนโดยโรแบร์ต แคมแพง มิใช่โรเจียร์ ฟาน เดอร์ เวย์เด็น

งานสมัยแรก

“บานพับภาพการฝังพระเยซู” หรือ “บานพับภาพไซเลิร์น” (Entombment Triptych หรือ Seilern Triptych) ที่สถาบันคอร์ทอล ที่ลอนดอนถือว่าเป็นงานชิ้นแรกๆ ของโรแบร์ต แคมแพงซึ่งเขียนราวปี ค.ศ. 1415-1420[1] บานกลางแสดงให้เห็นอิทธิที่ได้มาจากรูปปั้นในสมัยนั้น (แคมแพงเองก็มีชื่อว่าทาสีรูปปั้นหลายรูป) หลังจากนั้นแคมแพงก็เขียน “การแต่งงานของพรมจารี” (Marriage of the Virgin) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ปราโด และ “การประสูติของพระเยซู” (Nativity) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ดิจองในประเทศฝรั่งเศสที่เขียนเมี่อราว ค.ศ. 1420-1425

บานพับภาพเมโรด์

ระหว่างปี ค.ศ. 1425-1430 ดูเหมือนว่าแคมแพงจะเขียน “ฉากแท่นบูชาเมโรด์” (Mérode Altarpiece) ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน, นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นภาพที่ซับซ้อนจากหัวเรื่อง “การประกาศของเทพ” แผ่นกลางที่แปลกออกไปที่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่บรัสเซลส์ทำให้เห็นว่าบานพับภาพเมโรด์ที่นิวยอร์กไม่ใช่ภาพต้นแบบจริง

งานอื่นๆ

บานพับภาพเมโรด์” ค.ศ. 1425-1428

งานอื่นที่กล่าวกันว่าเขียนโดยโรแบร์ต แคมแพงจะหาดูได้ที่ พิพิธภัณฑ์เฮอร์มืทาจ, เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, พิพิธภัณฑ์ปราโด และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ, ลอนดอน, อังกฤษ

อ้างอิง

  1. JSTOR An article by Lorne Campbell in the Burlington gives details and references.
  2. Fragments remain probably from some wall-paintings for which he was paid in 1406-7 Campbell:72
  3. Campbell op cit:72, and Campbell 1974

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

สมุดภาพ