ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรวรรดิจีน"
ธ.ธง คนนิยม (คุย | ส่วนร่วม) ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{รอการตรวจสอบ}} |
{{รอการตรวจสอบ}} |
||
{{เก็บกวาด}} |
{{เก็บกวาด}} |
||
⚫ | '''จักรวรรดิจีน'''ก่อตั้งโดย'''ราชวงศ์ฉิน'''นำโดย[[ฉินซื่อหวงตี้]]ซึ่งได้รวบรวมรัฐของจีนที่แตกออกเป็น 7 รัฐให้เป็นหนึ่งเดียวได้ ฉินซื่อหวงตี้บริหารประเทศโดยใช้ระบบรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางซึ่งจักรวรรดิจีนมีอายุยืนยาวมากประมาณ '''2113ปี''' โดยเริ่มตั้งแต่ [[ราชวงศ์ฉิน]] [[ราชวงศ์ฮั่น]] [[ราชวงศ์จิ้น]] [[ราชวงศ์สุย]] [[ราชวงศ์ถัง]] [[ราชวงศ์ซ่ง]] [[ราชวงศ์หยวน]] [[ราชวงศ์หมิง]] โดยมาสิ้นสุดที่ [[ราชวงศ์ชิง]] |
||
{{Infobox Former Country |
|||
|native_name = 中華帝國 |
|||
|conventional_long_name = จักรวรรดิจีน |
|||
|common_name = จักรวรรดิจีน |
|||
| |
|||
|continent = เอเชีย |
|||
|region = จีน |
|||
|country = จีน |
|||
|era = |
|||
|status = จักรพรรดิ์ |
|||
|status_text= |
|||
|empire = |
|||
|government_type = พระมหากษัตริย์ |
|||
|year_start = 2458 |
|||
|year_end = 2459 |
|||
| |
|||
|event_start = Established |
|||
|date_start = [[12 ธันวาคม]], [[พ.ศ.2458]] |
|||
|event_end = Abolished |
|||
|date_end = [[22 มีนาคม]], [[พ.ศ.2459]] |
|||
| |
|||
|event1 = Outbreak of the [[History_of_the_Republic_of_China#Yuan_Shikai_and_the_National_Protection_War|National Protection War]] |
|||
|date_event1 = [[25 ธันวาคม]], [[พ.ศ.2458]] |
|||
|event2 = |
|||
|date_event2 = |
|||
|event3 = |
|||
|date_event3 = |
|||
|event4 = |
|||
|date_event4 = |
|||
| |
|||
|event_pre = <!--- Optional: A crucial event that took place before before "event_start"---> |
|||
|date_pre = |
|||
|event_post = <!--- Optional: A crucial event that took place before after "event_end"---> |
|||
|date_post = |
|||
| |
|||
|<!--- Flag navigation: Preceding and succeeding entities p1 to p5 and s1 to s5 ---> |
|||
|p1 = Beiyang Government |
|||
|flag_p1 = Flag of the Republic of China 1912-1928.svg |
|||
|image_p1 = |
|||
|s1 = Beiyang Government |
|||
|flag_s1 = Flag of the Republic of China 1912-1928.svg |
|||
|image_s1 = |
|||
|image_flag = YuanFlag1.svg |
|||
|flag = ธงในประเทศจีน |
|||
|flag_type = <small>Flag of Empire of China in actual use<ref name="flag">[http://www.aiplus.idv.tw/soviet/FCHINA.HTM 中國的旗幟] (Flags of China) {{zh icon}}</ref></small> |
|||
| |
|||
|image_coat = |
|||
|symbol = |
|||
|symbol_type = |
|||
| |
|||
|image_map = |
|||
|image_map_caption = |
|||
| |
|||
|capital = ปักกิ่ง |
|||
|latd=39|latm=54|latNS=N|longd=116|longm=23|longEW=E |
|||
| |
|||
|national_motto = |
|||
|national_anthem = [[Zhong guo xiong li yu zhou jian]] <br>''China heroically stands in the Universe'' |
|||
|common_languages = [[ภาษาจีน]], [[ภาษามองโกล]], [[ภาษาแมนจู]], [[ภาษาเติร์ก]], [[ภาษาธิเบต]] |
|||
|religion = [[Chinese folk religion]] |
|||
|currency = [[หยวน]], [[Chinese cash (currency unit)|Cash]] |
|||
|leader1 = [[หยวนซือไข|จักรพรรดิ์ฮกเซียน]] |
|||
|year_leader1 = 2458-2459 |
|||
|leader = |
|||
|title_leader = [[รายพระนามจักรพรรดิราชวงศ์ชิง|จักรพรรดิ]] |
|||
}} |
|||
⚫ | '''จักรวรรดิจีน'''ก่อตั้งโดย'''ราชวงศ์ฉิน'''นำโดย[[ฉินซื่อหวงตี้]]ซึ่งได้รวบรวมรัฐของจีนที่แตกออกเป็น 7 รัฐให้เป็นหนึ่งเดียวได้ ฉินซื่อหวงตี้บริหารประเทศโดยใช้ระบบรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางซึ่งจักรวรรดิจีนมีอายุยืนยาวมากประมาณ '''2113ปี''' โดยเริ่มตั้งแต่ [[ราชวงศ์ฉิน]] [[ราชวงศ์ฮั่น]] [[ราชวงศ์จิ้น]] [[ราชวงศ์สุย]] [[ราชวงศ์ถัง]] [[ราชวงศ์ซ่ง]] [[ราชวงศ์หยวน]] [[ราชวงศ์หมิง]] โดยมาสิ้นสุดที่ [[ราชวงศ์ชิง]] |
||
[[ภาพ:YuanFlag2.svg|thumb|150px|left|ธงชาติจีนสมัยจักรวรรดิ์หยวน ซือไข อีแบบหนึ่ง<ref name="flag"/>]] |
|||
[[ภาพ:Qin.jpg|400px|thumb|right|เขตแดน'''ราชวงศ์ฉิน''']] |
[[ภาพ:Qin.jpg|400px|thumb|right|เขตแดน'''ราชวงศ์ฉิน''']] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:38, 26 กันยายน 2551
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
จักรวรรดิจีนก่อตั้งโดยราชวงศ์ฉินนำโดยฉินซื่อหวงตี้ซึ่งได้รวบรวมรัฐของจีนที่แตกออกเป็น 7 รัฐให้เป็นหนึ่งเดียวได้ ฉินซื่อหวงตี้บริหารประเทศโดยใช้ระบบรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางซึ่งจักรวรรดิจีนมีอายุยืนยาวมากประมาณ 2113ปี โดยเริ่มตั้งแต่ ราชวงศ์ฉิน ราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์จิ้น ราชวงศ์สุย ราชวงศ์ถัง ราชวงศ์ซ่ง ราชวงศ์หยวน ราชวงศ์หมิง โดยมาสิ้นสุดที่ ราชวงศ์ชิง
การขยายอำนาจของอาณาจักรฉิน
การขยายอำนาจของอาณาจักรฮั่นสมัยจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้
ราชวงศ์ฮั่นรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ พระองค์ทรงขยายดินแดนอาณาจักรฮั่นออกไปกว้างขวางจนถึงเตอร์กีสถานในรัสเซียภูมิภาคเอเชียกลาง และทำสงครามขับไล่พวกซุงหนูออกไปจากภาคเหนือของจีนได้สำเร็จ ยึดครองดินแดนแมนจูเรีย เกาหลีทางตอนเหนือ ยึดครองดินแดน หนานเยียะ(กวางตุ้งและกว่างซี)และเวียดนามตอนเหนือ
การขยายอำนาจของอาณาจักรจิ้น
เพิ่มเติมเนื้อหา
การขยายอำนาจของอาณาจักรสุย
เพิ่มเติมเนื้อหา
การขยายอำนาจของอาณาจักรถังสมัยจักรพรรดิถังไท่จง
ทิศเหนือรบชนะพวกเติร์กมีอำนาจเหนือมองโกเลีย
ทิศตะวันออกมีอำนาจเหนือคาบสมุทรเกาหลี
ทิศใต้มีอำนาจเหนือเวียดนาม
ทิศตะวันตกรบชนะพวกอุยเกอร์มีอำนาจเหนือซินเจียง
การขยายอำนาจของอาณาจักรซ่ง
เนื่องจากเผชิญการคุกคามจาก ทัพเหลียว ทัพซีเซี่ย และทัพจินตามลำดับ อาณาจักรซ่งจึงไม่สามารถขยายอำนาจออกไปได้เหมือนอาณาจักรฮั่นและอาณาจักรถังได้ แต่อาณาจักรซ่งก็มีแม่ทัพที่เก่งอยู่ที่ทำสงครามชนะทัพจินอันเป็นชนเผ่าป่าเถื่อนที่ชอบขยายอำนาจเข้ามายังอาณาจักรซ่ง แม่ทัพที่มีชื่อ ได้แก่ งักฮุย หานซื่อจง จางจุ้น เช่นการรบกับพวกจินในทุกๆครั้งที่ทัพของงักฮุยไม่เคยพ่ายแพ้เลย ในปี ค.ศ.1140 ภายในอาณาจักจินเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยแม่ทัพสายเหยี่ยวอย่างอูจู๋ขึ้นมามีอิทธิพลในราชสำนักจิน ส่งผลให้ในเวลาต่อมากองทัพจินยกทัพลงมารุกรานอาณาจักรซ่งใต้อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีการแบ่งการเดินทัพออกเป็นหลายสาย อย่างไรก็ตามด้วยการต่อต้านอันเข้มแข็งของประชาชนและทหารซ่งทำให้สามารถยันกองทัพจินเอาไว้ได้ นอกจากนี้ด้วยความกล้าหาญและสามารถของแม่ทัพแห่งราชวงศ์ซ่งหลายต่อหลายนายอย่างเช่น หานซื่อจง (韩世忠), จางจุ้น (张俊) รวมไปถึงงักฮุย ทำให้นอกจากจะสามารถป้องกันอาณาเขตไว้ได้แล้ว กองทัพซ่งยังสามารถรุกเอาดินแดนคืนได้อีกมากมายด้วย โดยกองทัพของงักฮุยสามารถยึดเอาไช่โจว (蔡州; ปัจจุบันอยู่ในมณฑลเหอหนาน) อิ่งชาง (颍昌; ปัจจุบันอยู่ในเหอหนาน) เจิ้งโจว และลั่วหยาง คืนมาจากจินได้ โดยในเวลาต่อมากองทหารม้าของงักฮุยยังสามารถรักษาเหยี่ยนเฉิง (郾城; ปัจจุบันอยู่ในเหอหนาน) และตีกองทัพทหารม้าอันเข้มแข็งของอูจู๋เสียกระเจิงอีกด้วย โดยชัยชนะครั้งนั้นในหน้าประวัติศาสตร์จีนบันทึกเอาไว้ว่าคือ “ชัยชนะที่เหยี่ยนเฉิง (郾城大捷)”
การขยายอำนาจของอาณาจักรหยวน
มองโกล เผ่าพันธุ์ลูกหลานแห่งเจงกีสข่านผู้ยิ่งใหญ่ ชนชาติจากแผ่นดินทุ่งหญ้าอันเวิ้งว้าง นักล่าผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักขี่ม้าและนักยิงธนูตัวยง ได้เริ่มต้นประกาศแสนยานุภาพด้วยการยาตราทัพอันแข็งแกร่งบุกสู่ยุโรป ผนวกแผ่นดินซี่เซี่ยและจิน กระทั่งยึดครองลงใต้มายังราชธานีของราชวงศ์ซ่ง จนจีนต้องถึงกาลผลัดแผ่นดินอีกครั้งราชวงศ์หยวน หรือที่เรียกในนามว่าต้าหยวน (大元)เป็นมหาอาณาจักรที่ถูกสถาปนาขึ้นโดยชนชาติมองโกลที่อาศัยอยู่บนที่ราบสูงทางตอนเหนือของประเทศจีน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีชนกลุ่มน้อยสามารถเข้ายึดครองอำนาจการปกครองทั่วทั้งแผ่นดินจีนได้ ชาวมองโกลที่เชี่ยวชาญด้านการสัประยุทธ์ ไม่เพียงแต่ใช้กำลังทหารยึดครองเขตภาคกลางและพื้นที่ทางตอนใต้ของแม่น้ำฉางเจียง (แยงซีเกียง) ของจีนเท่านั้น แต่ยังได้แผ่ขยายแสนยานุภาพควบคุมไปจนถึงเขตเอเชียตะวันตก กลางเป็นราชวงศ์ที่มีขอบเขตการปกครองที่กว้างใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีประวัติศาสตร์จีนเป็นต้นมาชนชาติมองโกล(蒙古族)จัดเป็นชนเผ่าเก่าแก่หนึ่ง ที่อาศัยการเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ในการดำรงชีวิต เนื่องจากอาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่แห้งแล้ง ทุรกันดาร มีอากาศหนาวจัด และเป็นที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาล ทำให้ชาวมองโกลเป็นคนที่มีความทรหดอดทน และเก่งกล้าสามารถในการขี่ม้าและยิงธนู กระทั่งช่วงศตวรรษที่ 12 ในชนเผ่ามองโกลได้บังเกิดยอดคนที่เป็นผู้นำขึ้นคนหนึ่งนามว่า เถี่ยมู่เจิน (铁木真) หรือเตมูจินที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของชนเผ่าด้วยการรวบรวมชาวมองโกลที่แตกแยกกระจัดกระจายได้สำเร็จ จนได้รับการขนานนามเป็น “เจงกิสข่าน” (成吉思汗)ในปีค.ศ. 1206ภายใต้การนำของเจงกีสข่าน ชนเผ่ามองโกลได้เติบโตและเข้มแข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นกองกำลังทางเหนือของจีนที่ไม่อาจดูแคลนได้อีกต่อไป ในขณะนั้น นอกจากอาณาจักรซ่งใต้ (南宋)แล้ว ยังมีอาณาจักรซีเซี่ย(西夏) และอาณาจักรจิน(金国)ที่จัดว่าเป็นดินแดนที่มีเอกราชอธิปไตยของตนอยู่ จนกระทั่งปี 1227 เจงกิสข่านได้นำทัพเข้าพิชิตดินแดนซีเซี่ย และสิ้นพระชนม์จบชีวิตอันเกรียงไกรของตนลงในปีเดียวกันแม้ว่าเจงกิสข่านจะสิ้นชีพไปแล้ว ทว่าด้วยรากฐานที่ได้วางเอาไว้ ส่งผลให้อาณาจักรของมองโกลมิเพียงไม่ถดถอย ซ้ำยังรุดหน้าขยายแผ่นดินไปเรื่อยๆ หลังจากกลืนแผ่นดินซีเซี่ยเป็นผลสำเร็จ ก็เบนเข็มต่อมายังอาณาจักรจิน ซึ่งถือว่าเป็นรัฐกันชนระหว่างอาณาจักรซ่งใต้กับมองโกล ซึ่งในช่วงเวลานั้น ราชสำนักซ่งใต้ ได้เลือกที่จะจับมือเป็นพันธมิตรกับมองโกล จนกระทั่งในปีค.ศ. 1234 กองทัพอันเหี้ยมหาญของชนชาติที่ยิ่งใหญ่บนทุ่งหญ้า ก็สามารถพิชิตอาณาจักรจินที่กำลังเสื่อมถอยลงได้หลังจากผ่านการสืบทอดอำนาจมาหลายรุ่น จากเจงกีสข่าน มาสู่วอคั่วข่าน กุ้ยโหยวข่าน เมิ่งเกอข่าน และเมื่อมาถึงสมัยของกุบไลข่าน หรือฮูปี้เลี่ย (忽必烈) หลานของเจงกีสข่านผู้ขนานนามตนเองว่าหยวนซื่อจู่ (元世祖)ได้ยอมรับความคิดเห็นของขุนนางนามหลิวปิ่งจง, หวังเอ้อ สถาปนาราชวงศ์ต้าหยวนขึ้นในปีค.ศ. 1271 และย้ายราชธานีมาอยู่ที่ต้าตู (大都) หรือปักกิ่งในปัจจุบันโดยคำว่าหยวนมาจากคำในคัมภีร์โบราณของจีน “อี้จิง” (易经) โดยยังคงรักษาซั่งตู ให้เป็นเมืองหลวงทางตอนเหนือเอาไว้ ซึ่งเหตุการณ์นี้นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของอาณาจักรมองโกลผู้แผ่ขยายอาณาเขตไปจนถึงเปอร์เซีย รัสเซีย ที่แต่เดิมสนใจเพียงปล้นชิงขูดรีดจากแผ่นดินจีน กลายมาเป็นถือเป็นแผ่นจีนเป็นศูนย์กลางในการปกครองอาณาจักร อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นที่ผลักดันให้ปักกิ่งค่อยๆกลายเป็นแหล่งศูนย์รวมทางการปกครอง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมแม้ว่าจะมีการตั้งเมืองหลวงอยู่ในต้าตูแล้ว ทว่า ณ เวลานั้นชนชาติมองโกลยังไม่สามารถครอบครองแผ่นดินจีนทั้งหมด ด้วยปณิธานที่ต้องการจะรวบรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น กุบไลข่านจึงนำทัพบุกดินแดนซ่งใต้แล้วจับตัวฮ่องเต้ซ่งกงตี้กับพระมารดาไป ในห้วงเวลาดังกล่าวก็ยังมีขุนนางซ่งผู้จงรักภักดีอีกกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านกองทัพมองโกลอย่างกล้าหาญ ทว่าในที่สุดราชวงศ์ซ่งใต้ก็ถูกพิชิตอย่างราบคาบในปี 1279 ราชวงศ์หยวนสามารถรวมแผ่นดินจีนเป็นปึกแผ่นโดยมีอาณาเขตทางเหนือจรดแผ่นดินมองโกล ไซบีเรีย ทางใต้จรดหนันไห่ (ทะเลใต้) ตะวันตกเฉียงใต้ครอบคลุมไปถึงมณฑลหยุนหนัน (ยูนนาน) และทิเบตในปัจจุบัน ตะวันตกเฉียงเหนือไปถึงทางตะวันออกของซินเจียง (ซินเกียง) ตะวันออกเฉียงเหนือไปถึงทะเลโอคอตสค์ เป็นมหาจักรวรรดิแห่งแรกที่ครองพื้นที่ไปทั่วทั้งเอเชียและยุโรป
การขยายอำนาจของอาณาจักรต้าหมิง
เริ่มการโจมตีราชวงศ์หยวน กัวจื่อซิงเห็นแววความสามารถของเขาจึงได้ยกหม่าชิวเซียงธิดาบุญธรรมให้เป็นภรรยา ในปี พ.ศ. 1895 จูหยวนจางปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งมีผลงานโดดเด่นกว่าผู้อื่นจึงได้รับเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วแต่ทำให้ถูกกัวจื่อซิงกับบุตรชายระแวงอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งกัวจื่อซิงจับเขาไปขังแต่หม่าชิงเซียงกับมารดาไปอ้อนวอนขอจึงได้รับการปล่อยตัว จูหยวนจางจึงตัดสินใจพาภรรยากลับไปอยู่ที่ตำบลจงหลีบ้านเกิดและได้ชักชวนเพื่อนในวัยเยาว์กับคนอื่นๆ จัดตั้งกองกำลังเป็นของตนเอง จาก 700 คนก็เพิ่มจำนวนมากกว่า 20,000 คนภายในระยะเวลา 2 ปีพ.ศ. 1898 (ค.ศ. 1355) ฉีโจวหวางหรือกัวจื่อซิงพ่อตาของเขาสิ้นพระชนม์ลง บุตรชายทั้งสองไม่มีความสามารถพอ จูหยวนจางจึงได้ขึ้นเป็นผู้นำกองกำลังแทน พ.ศ. 1899 (ค.ศ. 1356) จูหยวนจางยกกำลังบุกเมืองจี้ซิงเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองอิ้งเทียน ( ปัจจุบันคือเมืองหนานจิง ) ใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการทยอยกำจัดกลุ่มอำนาจอื่นๆ ที่ตั้งตัวเป็นอิสระเช่นกัน พร้อมกับใช้คำสั่ง สามไม่ คือ ไม่เผาบ้าน ไม่ฆ่าคน ไม่ปล้นชิง ทำให้ชาวเมืองอื่นๆ ต่างพากันยินยอมอย่างง่ายดาย พ.ศ. 1907 (ค.ศ. 1364) สถาปนาตนเองขึ้นเป็นหวู่หวาง ปกครองดินแดนแถบใต้แม่น้ำฉางเจียง
การขยายอำนาจของอาณาจักรชิง
เพิ่มเติมเนื้อหา