ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หลวงจีนป่วยพวง แซ่โค้ว"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tinuviel (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนกลับไปรุ่นของ Tinuviel ด้วยสจห.: undefined
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''หลวงจีนเย็นฮวบ'''
{{ใคร}}


'''หลวงจีนเย็นฮวบ''' มีนามเดิมว่า ป่วยพวง แซ่โค้ว (เจริญคุปต์) เกิดที่ตำบลเปี่ยเป๋า อำเภอเยี่ยวเพ้ง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน บิดาชื่อนายเยียกเนี้ย มารดาชื่อนางชุงฮ้อ แซ่ตั้ง ปี พศ 2435 เมื่ออายุ 11 ปี ก็สิ้นบุญมารดา เมื่ออายุ 15 ปีจึงได้ติดตามบิดาเดินทางสู่ประเทศไทย ทำงานเดินเรือ กับบิดาและต่อมาทำกิจการค้าขาย จนเมื่อท่านอายุได้ 46 ปี ก็ตั้งร้านค้าขายชื่อร้าน “ชอเฮงหลี” กิจการเจริญเติบโตจนถึงปัจจุบัน
'''หลวงจีนเย็นฮวบ''' มีนามเดิมว่า ป่วยพวง แซ่โค้ว (เจริญคุปต์) เกิดที่ตำบลเปี่ยเป๋า อำเภอเยี่ยวเพ้ง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน บิดาชื่อนายเยียกเนี้ย มารดาชื่อนางชุงฮ้อ แซ่ตั้ง ปี พศ 2435 เมื่ออายุ 11 ปี ก็สิ้นบุญมารดา เมื่ออายุ 15 ปีจึงได้ติดตามบิดาเดินทางสู่ประเทศไทย ทำงานเดินเรือ กับบิดาและต่อมาทำกิจการค้าขาย จนเมื่อท่านอายุได้ 46 ปี ก็ตั้งร้านค้าขายชื่อร้าน “ชอเฮงหลี” กิจการเจริญเติบโตจนถึงปัจจุบัน



รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:20, 26 กันยายน 2551

หลวงจีนเย็นฮวบ


หลวงจีนเย็นฮวบ มีนามเดิมว่า ป่วยพวง แซ่โค้ว (เจริญคุปต์) เกิดที่ตำบลเปี่ยเป๋า อำเภอเยี่ยวเพ้ง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน บิดาชื่อนายเยียกเนี้ย มารดาชื่อนางชุงฮ้อ แซ่ตั้ง ปี พศ 2435 เมื่ออายุ 11 ปี ก็สิ้นบุญมารดา เมื่ออายุ 15 ปีจึงได้ติดตามบิดาเดินทางสู่ประเทศไทย ทำงานเดินเรือ กับบิดาและต่อมาทำกิจการค้าขาย จนเมื่อท่านอายุได้ 46 ปี ก็ตั้งร้านค้าขายชื่อร้าน “ชอเฮงหลี” กิจการเจริญเติบโตจนถึงปัจจุบัน

เมื่อย่างเข้าสู่วัยชราอายุได้ 62 ปี ท่านจึงหลบจากสังคมหาสถานที่สงบ ณ ภูเขาหลังพระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย เมื่อปี 2499 ท่านอายุได้ 65 ปี จึงได้ธรรมจักษุจึงได้สละโลกทางโลกียออกบวช และท่านได้ขออุปสมบท กับพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (โพธิ์แจ้งมหาเถระ) ณ วัดโพธิ์เย็น จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อท่านได้บวชแล้วจึงได้เร่งความเพียรพยายามเพื่อปฏิบัติธรรมให้สำเร็จ

เมื่ออายุได้ 75 ปี ท่านจึงได้สร้างกุฏิเพื่อเจริญสมาธิภาวนา ณ วัดเทพพุทธาราม จ.ชลบุรี และท่านเป็นพระเคร่งพระวินัยมาก ท่านมักจะสวดมนต์ภาวนา นั่งสมาธิแผ่กุศลไปยังสรรพสัตว์

จนกระทั่ง วันที่ 4 สิงหาคม 2510 ขณะท่านได้เจริญสมาธิ ได้บังเกิดมรณญาณ คือรู้วันเวลาแตกดับของสังขารใกล้เข้ามาแล้ว และท่านจึงจุดเทียนรอบกายท่านแล้วเขียนโศลกบทหนึ่งว่า

“เมื่อละได้ ก็สามารถไปถึงพุทธเกษตร นั่งดับในท่ามกลางแสงเทียน ได้เฝ้าพระสุคตด้วยตัวเอง”

จากนั้นท่านจึงเข้าฌานสมาธิหน้าพระพุทธรูปในอุโบสถ แล้วดับสังขารในท่าสมาธิขัดบัลลังค์ รวมสิริอายุได้ 76 ปี 12 พรรษา