ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เพลงขอทาน"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
หน้าใหม่: '''เพลงขอทาน''' หรือ'''วณิพก''' เป็นเพลงพื้นบ้านชนิดหนึ่งมีมาตั้ง... |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 5: | บรรทัด 5: | ||
ก่อนร้องจะมีการโหมโรง คือมีบทเกริ่น เนื้อร้องเป็น[[กลอน]]ประเภทกลอนหัวเดียวเหมือนกับ[[เพลงฉ่อย]] [[เพลงเรือ]] มีสัมผัสท้ายไปเรื่อย ๆ ลงสัมผัสกันระหว่างสามวรรคหลัง ก่อนร้องจะมีการโหมโรง เนื้อร้องจะลงเป็นตอน ๆ ความยาวแล้วแต่เรื่องที่จะร้อง ถ้าเล่นหลายคนจะมีลูกคู่ร้องรับ ในสองวรรคสุดท้ายทุกตอน |
ก่อนร้องจะมีการโหมโรง คือมีบทเกริ่น เนื้อร้องเป็น[[กลอน]]ประเภทกลอนหัวเดียวเหมือนกับ[[เพลงฉ่อย]] [[เพลงเรือ]] มีสัมผัสท้ายไปเรื่อย ๆ ลงสัมผัสกันระหว่างสามวรรคหลัง ก่อนร้องจะมีการโหมโรง เนื้อร้องจะลงเป็นตอน ๆ ความยาวแล้วแต่เรื่องที่จะร้อง ถ้าเล่นหลายคนจะมีลูกคู่ร้องรับ ในสองวรรคสุดท้ายทุกตอน |
||
== อ้างอิง == |
|||
<references /> |
|||
{{เรียงลำดับ|พเพลงขอทาน}} |
|||
[[หมวดหมู่:ดนตรีในประเทศไทย]] |
[[หมวดหมู่:ดนตรีในประเทศไทย]] |
||
{{โครงดนตรี}} |
{{โครงดนตรี}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:44, 11 กันยายน 2551
เพลงขอทาน หรือวณิพก เป็นเพลงพื้นบ้านชนิดหนึ่งมีมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เป็นเพลงที่วณิพกใช้ร้อง เล่านิทาน เพื่อขอแลกเปลี่ยนเป็นเงิน หรือสิ่งของ
มีลักษณะเนื้อหาเป็นเรื่องนิทานชาดก จักร ๆ วงศ์ ๆ [1]และมักมีเครื่องดนตรีประกอบการร้องเช่น เช่น ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง และโทน เป็นต้น มีลูกคู่ และเพิ่มเครื่องกำกับจังหวะตามถนัด การขอแบบมีเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีแลกเปลี่ยน เรียกว่า "วณิพก " ส่วนไม่มีเพลงหรือดนตรีเรียกว่า "ยาจก"หรือ "กระยาจก "
ก่อนร้องจะมีการโหมโรง คือมีบทเกริ่น เนื้อร้องเป็นกลอนประเภทกลอนหัวเดียวเหมือนกับเพลงฉ่อย เพลงเรือ มีสัมผัสท้ายไปเรื่อย ๆ ลงสัมผัสกันระหว่างสามวรรคหลัง ก่อนร้องจะมีการโหมโรง เนื้อร้องจะลงเป็นตอน ๆ ความยาวแล้วแต่เรื่องที่จะร้อง ถ้าเล่นหลายคนจะมีลูกคู่ร้องรับ ในสองวรรคสุดท้ายทุกตอน