ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นอร์ธรอป เอฟ-5"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 2: | บรรทัด 2: | ||
[[ภาพ:F-5 flying.jpg|thumb|250px|เอฟ-5อี ไทเกอร์ทูว์]] |
[[ภาพ:F-5 flying.jpg|thumb|250px|เอฟ-5อี ไทเกอร์ทูว์]] |
||
'''เอฟ-5 ฟรีดอมไฟเตอร์''' (F-5 Freedom Fighter) เป็น[[เครื่องบินขับไล่]]ของสหรัฐอเมริกา เริ่มออกแบบเมื่อปี [[พ.ศ. 2505]] (ค.ศ. 1962) โดยบริษัท[[นอร์ธรอป]] |
'''เอฟ-5เอ/บี ฟรีดอมไฟเตอร์''' (F-5 Freedom Fighter) และ '''เอฟ-5อี/เอฟ ไทเกอร์ ทู''' เป็น[[เครื่องบินขับไล่]]ของสหรัฐอเมริกา เริ่มออกแบบเมื่อปี [[พ.ศ. 2505]] (ค.ศ. 1962) โดยบริษัท[[นอร์ธรอป]] |
||
==ประวัติ== |
==ประวัติ== |
||
F-5 ถือกำเนิดจากโครงการของบริษัท[[นอร์ทธรอป]]ที่ทำวิจัยและพัฒนาเครื่องบินขับไล่ที่มีขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพสูงภายใต้โครงการ N-156F แม้ว่า[[กองทัพอากาศสหรัฐ]]จะไม่ได้ให้ความสนใจในเครื่องบินขับไล่ขนาดเล็ก แต่เจ้าหน้าที่ในโครงการช่วยเหลือทางทหารของประธานาธิปดี [[จอห์น เอฟ เคนเนดี]] เห็นถึงศักยภาพที่เครื่องบินในโครงการ N-156F ที่จะสามารถเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนาที่พันธมิตรของสหรัฐได้จัดหาเครื่องบินขับไล่ประสิทธิภาพสูงที่มีราคาไม่แพง รัฐบาลสหรัฐจึงได้เลือกเครื่องบินในโครงการ N-156F มาพัฒนาจนกลายเป็น F-5A Freedom Fighter ซึ่งถือเป็น F-5 รุ่นแรกของโลก และส่งมอบหรือขายให้กับพันธมิตรชาติต่าง ๆ ทั่วโลก |
|||
ในช่วงปลาย[[สงครามเวียดนาม]] [[กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา]]ได้พบว่าเครื่องบินขับไล่ทางยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่แบบ[[เอฟ-111]] ได้กลายเป็นเป้าซ้อมปืนและจรวดให้กับนักบิน[[มิก-21]] อย่างมันมือ ด้วยความใหญ่และหนักของ[[เอฟ-111]] ไม่อาจสร้างความได้เปรียบในการรบแบบติดพัน (Dog Fight) ได้ ดังนั้น[[เอฟ-111]] จึงถูกเปลี่ยนภารกิจให้เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดเบาและออกปฏิบัติการภายใต้การคุ้มกันของเครื่องบินขับไล่แบบ[[เอฟ-4]] ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งว่าไปแล้วก็ยังมีขนาดใหญ่อยู่ดี และจะต้องใช้ถึงสองเครื่องในการไล่ต้อน[[มิก-21]] ที่แสนจะปราดเปรียว ซึ่งในการดวลกันตัวต่อตัวระหว่าง[[เอฟ-4]] กับ[[มิก-21]] นั้น ส่วนใหญ่[[มิก-21]] จะบินหลบหนีไปได้ |
|||
ต่อมาในช่วงปี 1970 บริษัท[[นอร์ทธรอป]]ได้รับชัยชนะในโครงการเครื่องบินขับไล่นานาชาติรุ่นปรับปรุง (Improved International Fighter Aircraft) เพื่อทดแทน F-5A โดย[[กองทัพอากาศสหรัฐ]]กำหนดชื่อรุ่นเป็น F-5E Tiger II สำหรับรุ่นที่นั่งเดี่ยว และ F-5F Tiger II สำหรับรุ่นสองที่นั่ง โดยมีการปรับปรุงที่สำคัญคือ เพิ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคทางการบินที่ทันสมัย ติดตั้ง[[เรด้าร์]]แบบ AN/APQ-153 ซึ่งมีระยะตรวจจับราว 25 กิโลเมตร (ในรุ่น A และ B ไม่ได้รับการติดตั้ง[[เรด้าร์]]) ส่วน F-5F ก็ได้รับการติดตั้ง[[ปืนกล]]แบบ M39 ภายในลำตัว (ในรุ่น B ไม่ได้รับการติดตั้งปืนกล) นอกจากนั้นยังได้พัฒนา RF-5E ที่ติดกล้องถ่ายภาพเพื่อใช้ในภารกิจตรวจการณ์อีกด้วย |
|||
ความต้องการเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาเพื่อต่อกรกับ[[มิก-21]] อย่างสูสี ทำให้เอฟ-5 เอของบริษัท[[นอร์ธรอป]]ซึ่งแต่เดิมถูกจัดวางไว้ในฐานะเครื่องบินลาดตระเวนโจมตีเบาและตรวจการณ์ถ่ายภาพทางอากาศเช่นเดียวกับเครื่อง[[เอ-4]] ถูกจับตามองด้วยความสนใจ เพราะเอฟ-5 เป็นเครื่องบินเบาที่มีท่วงท่าการบินและความปราดเปรียวคล่องตัวที่ใกล้เคียงกับ[[มิก-21]] มากที่สุด ดังนั้นบริษัท[[นอร์ธรอป]]จึงได้รับสั่งให้อัพเกรดเครื่องเอฟ-5 เป็นเครื่องบินขับไล่เบา |
|||
F-5 ถือเป็นหนึ่งในเครื่องบินขับไล่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศค่ายประชาธิปไตย โดยมีผู้ใช้งานเกือบ 20 ประเทศ และมียอดการผลิตสูงกว่า 2 พันลำ ในปัจจุบันยังมีกองทัพอากาศหลายชาติที่ยังประจำการด้วย F-5 อยู่ หลายชาติเลือกที่จะทำการปรับปรุงเครื่องบินของตนที่ยังบินได้เพื่อที่จะยืดอายุการใช้งานออกไปให้นานที่สุด เช่น[[กองทัพอากาศบราซิล]]และ[[กองทัพอากาศชิลี]]ได้ว่าจ้างบริษัท[[อิลบิท]]ของ[[อิสราเอล]]ให้ทำการปรับปรุง F-5E/F ของตนเป็น F-5EM และ F-5E/F Tiger III ตามลำดับ ซึ่งมีความสามารถในการติดตั้งจรวดนำวิถีจากอิสราเอลทั้ง[[ดาร์บี้]]และ[[ไพธอน-4]] [[กองทัพอากาศสิงคโปร์]]ก็ได้ปรับปรุง F-5E/F ของตนโดยเปลี่ยน[[เรด้าร์]] ระบบอิเล็กทรอนิคต่าง ๆ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับปีก โดยกำหนดชื่อเป็น F-5S/T ซึ่งมีความสามารถในการใช้จรวดแบบ [[ไพธอน-4]] และ [[AIM-120 แอมแรม]] ได้ สำหรับ[[กองทัพอากาศไทย]]ได้ดำเนินการว่าจ้างบริษัท[[อิลบิท]]ให้ทำการปรับปรุง F-5E/F ในฝูงบิน 211 อุบล ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถติดตั้งจรวด[[ไพธอน-4]]ได้ โดยกองทัพอากาศไทยกำหนดชื่อเรียกว่า F-5T Tigres |
|||
เครื่องเอฟ-5 ได้รับการปรับปรุงโดยการขยายโครงสร้างให้ใหญ่และยาวขึ้นกว่าเดิมประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ใช้เครื่องยนต์ของ[[เยเนอรัล อิเลคทริค]]รุ่นใหม่ที่มีแรงขับดันสูงขึ้น ติดเรดาห์ที่มีขีดความสามารถจับเป้าหมายได้อย่างแม่นยำในระยะ 15 ไมล์ สามารถยิงจรวดอากาศสู่อากาศนำวิถีด้วยอินฟราเรดแบบ[[เอไอเอ็ม-9]] และเรียกเอฟ-5 รุ่นนี้ว่า'''เอฟ-5 อี ไทเกอร์ทูว์''' |
|||
เอฟ-5 อี ถูกส่งเข้าประจำการใน[[เวียดนามใต้]]เพียงไม่กี่ร้อยเครื่องและยังไม่ทันได้ประมือกับ[[มิก-21]] [[สหรัฐอเมริกา]]ก็ยอมถอนตัวออกจาก[[สงครามเวียดนาม]]พร้อมกับทิ้งเอฟ-5 อี จำนวน 350 เครื่องไว้ใน[[เวียดนาม]] ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามได้เก็บรักษาเอฟ-5 อี ไว้ใน[[อนุสรณ์สถานสงครามเวียดนาม]]เพียงไม่กี่เครื่องและทิ้งส่วนที่เหลือให้ชำรุดผุพังไปตามกาลเวลา เนื่องจากไม่มีการซ่อมบำรุงและอะไหล่สนับสนุน |
|||
[[สหรัฐอเมริกา]]เองก็ยังคงใช้งานเอฟ-5 อี มาจนถึงปัจจุบัน โดยใช้ในสามภาระกิจคือ เป็นเครื่องบินข้าศึกสมมุติในการฝึกหลักสูตร[[ท็อปกัน]] (TOP GUN) เพราะเอฟ-5 อี มีลักษณะการบินที่ใกล้เคียงกับเครื่องบินขับไล่มิกของ[[รัสเซีย]]มาก ใช้เป็นเครื่องบินสังเกตการณ์การบินของอากาศยานทดลองและใช้ฝึกนักบิน โดยใช้[[ที-38]] แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น[[ที-45]] ของอังกฤษแล้ว [[กองทัพอากาศไทย]]ก็ได้ทำการปรับปรุงเอฟ-5 อี ในประจำการให้มีขีดความสามารถในการรบเพิ่มขึ้น โดยการเปลี่ยนเรดาห์ให้สามารถจับเป้าข้าศึกได้ในระยะ 25 ไมล์ เพิ่มจอ[[ฮัด]] (HUD) ติดระบบนำร่องแบบ[[ทาแคน]]ซึ่งเอฟ-5 อีของ[[กองทัพอากาศไทย]]เมื่อปรับปรุงแล้ว จึงมีขีดความสามารถในการยิงจรวดนำวิถีแบบ[[ไพธอน|ไพธอน 4]] เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ยิง[[เอไอเอ็ม-9]] ได้แบบเดียวเท่านั้น |
|||
เครื่องบินขับไล่เบาที่เป็นอมตะที่สุดในโลกนี้ (ยังคงประจำการในกองทัพของประเทศผู้ผลิตจนถึงปัจจุบัน) นอกจาก[[มิก-21]] แล้ว มีเพียงเอฟ-5 อีคู่ปรับที่ไม่เคยเจอกันเลยตลอดกาล |
|||
==รุ่นของเอฟ-5== |
==รุ่นของเอฟ-5== |
||
* '''F-5A''' |
* '''F-5A Freedom Fighter''' |
||
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว |
|||
* '''F-5B''' |
|||
* '''F-5B Freedom Fighter''' |
|||
เครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง |
|||
* '''F-5C Skoshi Tiger''' |
* '''F-5C Skoshi Tiger''' |
||
เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงในบางจุด เช่น การติดตั้งท่อรับการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ |
|||
* '''F-5D''' |
* '''F-5D''' |
||
เครื่องบินขับไล่รุ่นสองที่นั่งซึ่งไม่ได้รับการผลิตจริง |
|||
* '''F-5E Tiger II''' |
* '''F-5E Tiger II''' |
||
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยวรุ่นปรับปรุง |
|||
* '''F-5F Tiger II''' |
* '''F-5F Tiger II''' |
||
เครื่องบินขับไล่ที่สองที่นั่งรุ่นปรับปรุง |
|||
* '''F-5G''' ต่อมาคือ[[เอฟ-20]] |
|||
* '''F-5G''' |
|||
เปลี่ยนเครื่องยนต์จากสองเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์เดียว ต่อมาคือ[[เอฟ-20]] |
|||
* '''F-5N''' |
* '''F-5N''' |
||
รุ่นฝึกของกองทัพเรือสหรัฐ |
|||
* '''F-5S''' |
* '''F-5S''' |
||
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียวที่ได้รับการปรับปรุงโดย[[กองทัพอากาศสิงคโปร์]] |
|||
* '''F-5T''' |
* '''F-5T''' |
||
เครื่องบินขับไล่สองที่นั่งได้รับการปรับปรุงโดย[[กองทัพอากาศสิงคโปร์]] |
|||
* '''F-5T Tigres''' |
|||
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียวและสองที่นั่งที่ได้รับการปรับปรุงโดย[[กองทัพอากาศไทย]] |
|||
* '''F-5EM''' |
|||
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียวที่ได้รับการปรับปรุงโดย[[กองทัพอากาศบราซิล]] |
|||
* '''F-5FM''' |
|||
เครื่องบินขับไล่สองที่นั่งที่ได้รับการปรับปรุงโดย[[กองทัพอากาศบราซิล]] |
|||
* '''F-5E Tiger III''' |
|||
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียวที่ได้รับการปรับปรุงโดย[[กองทัพอากาศชิลี]] |
|||
* '''F-5F Tiger III''' |
|||
เครื่องบินขับไล่สองที่นั่งที่ได้รับการปรับปรุงโดย[[กองทัพอากาศชิลี]] |
|||
* '''RF-5A''' |
* '''RF-5A''' |
||
เครื่องบินขับไล่ลาดตระเวนถ่ายภาพ |
|||
* '''RF-5A(G)''' |
|||
* '''RF-5E Tigereye''' |
* '''RF-5E Tigereye''' |
||
เครื่องบินขับไล่ลาดตระเวนถ่ายภาพ |
|||
* '''YF-5''' |
|||
* '''CF-5''' |
|||
[[ภาพ:F-5T.jpg|thumb|250px|F-5T Tigres ของกองทัพอากาศไทย ขณะกำลังเตรียมขึ้นบิน]] |
|||
==ประเทศที่มี F-5 ประจำการ== |
|||
;{{AUT}} : เช่าจากสวิสเซอร์แลนด์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรอรับเครื่องบินขับไล่ไต้ฝุ่น |
|||
;{{BHR}} |
|||
;{{BOT}} |
|||
;{{BRA}} |
|||
* [[กองทัพอากาศบราซิล]] |
|||
;{{CHI}} |
|||
* [[กองทัพอากาศชิลี]] |
|||
;{{ETH}} |
|||
;{{GRE}} |
|||
;{{HON}} |
|||
;{{IDN}} |
|||
* [[กองทัพอากาศอิโดนิเซีย]]: F-5E ทั้ง 16 ลำปลดประจำการในปี 2548 ปัจจุบันเป็นเครื่องบินสำรอง |
|||
;{{IRN}} |
|||
* [[กองทัพอากาศอิหร่าน]]: ได้รับมอบ F-5E/F จำนวน 140 ลำในสมัยพระเจ้าซาร์ ปัจจุบันปฏิบัติการได้ 60 - 70 ลำ |
|||
;{{JOR}} |
|||
;{{KEN}} |
|||
;{{LBA}} |
|||
;{{MAS}} : กำลังปลดประจำการ |
|||
;{{MEX}} |
|||
;{{MAR}} |
|||
;{{NLD}} |
|||
* [[กองทัพอากาศเนเธอแลนด์]]: ปลดประจำการ |
|||
;{{NOR}} |
|||
* [[กองทัพอากาศนอร์เวย์]] |
|||
;{{PAK}} : ยืมมาจากประเทศอื่นชั่วคราวในระหว่างสงครามกับอินเดีย |
|||
;{{PHL}} |
|||
* [[กองทัพอากาศฟิลิปปินส์]]: ปลดประจำการ F-5A/B |
|||
;{{KOR}} |
|||
* [[กองทัพอากาศเกาหลีใต้]] |
|||
;{{SAU}} |
|||
* [[กองทัพอากาศซาอุดิอารเบีย]] |
|||
;{{SIN}} |
|||
* [[กองทัพอากาศสิงคโปร์]]: ปรับปรุงเป็นรุ่น F-5S/T มีประจำการราว 35 ลำ |
|||
;{{ESP}} |
|||
* [[กองทัพอากาศสเปน]] |
|||
;{{SUI}} |
|||
* [[กองทัพอากาศสวิส]]: กำลังจัดหาเครื่องบินรุ่นใหม่มาทดแทน |
|||
;{{THA}} |
|||
* [[กองทัพอากาศไทย]]: F-5A/B/E จะถูกปลดประจำการในปี 2553 และทดแทนด้วย [[JAS 39 Gripen] F-5T Tigris ยังประจำการต่อไป. |
|||
;{{TUN}} |
|||
;{{TUR}} |
|||
* [[กองทัพอากาศตุรกี]] |
|||
;{{USA}} |
|||
* [[กองทัพอากาศสหรัฐ]]: เป็นเครื่องบินข้าศึกสมมุติ |
|||
* [[นาวิกโยธินสหรัฐ]]: เป็นเครื่องบินข้าศึกสมมุติ |
|||
* [[กองทัพเรือสหรัฐ]]: เป็นเครื่องบินข้าศึกสมมุติ |
|||
;{{VEN}} |
|||
;{{flag|South Vietnam}} |
|||
* [[กองทัพอากาศเวียดนามใต้]] |
|||
;{{VNM}} |
|||
* [[กองทัพอากาศเวียดนาม]]: เป็นเครื่องเก่าของ[[กองทัพอากาศเวียดนามใต้]] |
|||
;{{YEM}} |
|||
==เหตุการณ์ในประเทศไทย== |
==เหตุการณ์ในประเทศไทย== |
||
บรรทัด 68: | บรรทัด 141: | ||
**สามารถติดตั้งอาวุธที่ใต้ปีกได้ข้างละ 2 แห่ง และ ใต้ลำตัว 1 แห่ง รวมเป็นน้ำหนักสูงสุด 3,175 กิโลกรัม |
**สามารถติดตั้งอาวุธที่ใต้ปีกได้ข้างละ 2 แห่ง และ ใต้ลำตัว 1 แห่ง รวมเป็นน้ำหนักสูงสุด 3,175 กิโลกรัม |
||
<ref>อภิวัตน์ โควินทรานนท์,อากาศยาน1979ฉบับเครื่องบิน,เอวิเอชั่น ออบเซิร์ฟเวอร์,กรุงเทพ,2522</ref> |
<ref>อภิวัตน์ โควินทรานนท์,อากาศยาน1979ฉบับเครื่องบิน,เอวิเอชั่น ออบเซิร์ฟเวอร์,กรุงเทพ,2522</ref> |
||
== เพิ่มเติม == |
|||
* [[เอฟ-5บี ลำแรกของโลก]] |
|||
* [[กองทัพอากาศไทย]] |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:10, 18 สิงหาคม 2551
เอฟ-5เอ/บี ฟรีดอมไฟเตอร์ (F-5 Freedom Fighter) และ เอฟ-5อี/เอฟ ไทเกอร์ ทู เป็นเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐอเมริกา เริ่มออกแบบเมื่อปี พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962) โดยบริษัทนอร์ธรอป
ประวัติ
F-5 ถือกำเนิดจากโครงการของบริษัทนอร์ทธรอปที่ทำวิจัยและพัฒนาเครื่องบินขับไล่ที่มีขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพสูงภายใต้โครงการ N-156F แม้ว่ากองทัพอากาศสหรัฐจะไม่ได้ให้ความสนใจในเครื่องบินขับไล่ขนาดเล็ก แต่เจ้าหน้าที่ในโครงการช่วยเหลือทางทหารของประธานาธิปดี จอห์น เอฟ เคนเนดี เห็นถึงศักยภาพที่เครื่องบินในโครงการ N-156F ที่จะสามารถเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนาที่พันธมิตรของสหรัฐได้จัดหาเครื่องบินขับไล่ประสิทธิภาพสูงที่มีราคาไม่แพง รัฐบาลสหรัฐจึงได้เลือกเครื่องบินในโครงการ N-156F มาพัฒนาจนกลายเป็น F-5A Freedom Fighter ซึ่งถือเป็น F-5 รุ่นแรกของโลก และส่งมอบหรือขายให้กับพันธมิตรชาติต่าง ๆ ทั่วโลก
ต่อมาในช่วงปี 1970 บริษัทนอร์ทธรอปได้รับชัยชนะในโครงการเครื่องบินขับไล่นานาชาติรุ่นปรับปรุง (Improved International Fighter Aircraft) เพื่อทดแทน F-5A โดยกองทัพอากาศสหรัฐกำหนดชื่อรุ่นเป็น F-5E Tiger II สำหรับรุ่นที่นั่งเดี่ยว และ F-5F Tiger II สำหรับรุ่นสองที่นั่ง โดยมีการปรับปรุงที่สำคัญคือ เพิ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคทางการบินที่ทันสมัย ติดตั้งเรด้าร์แบบ AN/APQ-153 ซึ่งมีระยะตรวจจับราว 25 กิโลเมตร (ในรุ่น A และ B ไม่ได้รับการติดตั้งเรด้าร์) ส่วน F-5F ก็ได้รับการติดตั้งปืนกลแบบ M39 ภายในลำตัว (ในรุ่น B ไม่ได้รับการติดตั้งปืนกล) นอกจากนั้นยังได้พัฒนา RF-5E ที่ติดกล้องถ่ายภาพเพื่อใช้ในภารกิจตรวจการณ์อีกด้วย
F-5 ถือเป็นหนึ่งในเครื่องบินขับไล่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศค่ายประชาธิปไตย โดยมีผู้ใช้งานเกือบ 20 ประเทศ และมียอดการผลิตสูงกว่า 2 พันลำ ในปัจจุบันยังมีกองทัพอากาศหลายชาติที่ยังประจำการด้วย F-5 อยู่ หลายชาติเลือกที่จะทำการปรับปรุงเครื่องบินของตนที่ยังบินได้เพื่อที่จะยืดอายุการใช้งานออกไปให้นานที่สุด เช่นกองทัพอากาศบราซิลและกองทัพอากาศชิลีได้ว่าจ้างบริษัทอิลบิทของอิสราเอลให้ทำการปรับปรุง F-5E/F ของตนเป็น F-5EM และ F-5E/F Tiger III ตามลำดับ ซึ่งมีความสามารถในการติดตั้งจรวดนำวิถีจากอิสราเอลทั้งดาร์บี้และไพธอน-4 กองทัพอากาศสิงคโปร์ก็ได้ปรับปรุง F-5E/F ของตนโดยเปลี่ยนเรด้าร์ ระบบอิเล็กทรอนิคต่าง ๆ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับปีก โดยกำหนดชื่อเป็น F-5S/T ซึ่งมีความสามารถในการใช้จรวดแบบ ไพธอน-4 และ AIM-120 แอมแรม ได้ สำหรับกองทัพอากาศไทยได้ดำเนินการว่าจ้างบริษัทอิลบิทให้ทำการปรับปรุง F-5E/F ในฝูงบิน 211 อุบล ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถติดตั้งจรวดไพธอน-4ได้ โดยกองทัพอากาศไทยกำหนดชื่อเรียกว่า F-5T Tigres
รุ่นของเอฟ-5
- F-5A Freedom Fighter
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว
- F-5B Freedom Fighter
เครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง
- F-5C Skoshi Tiger
เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงในบางจุด เช่น การติดตั้งท่อรับการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ
- F-5D
เครื่องบินขับไล่รุ่นสองที่นั่งซึ่งไม่ได้รับการผลิตจริง
- F-5E Tiger II
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยวรุ่นปรับปรุง
- F-5F Tiger II
เครื่องบินขับไล่ที่สองที่นั่งรุ่นปรับปรุง
- F-5G
เปลี่ยนเครื่องยนต์จากสองเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์เดียว ต่อมาคือเอฟ-20
- F-5N
รุ่นฝึกของกองทัพเรือสหรัฐ
- F-5S
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียวที่ได้รับการปรับปรุงโดยกองทัพอากาศสิงคโปร์
- F-5T
เครื่องบินขับไล่สองที่นั่งได้รับการปรับปรุงโดยกองทัพอากาศสิงคโปร์
- F-5T Tigres
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียวและสองที่นั่งที่ได้รับการปรับปรุงโดยกองทัพอากาศไทย
- F-5EM
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียวที่ได้รับการปรับปรุงโดยกองทัพอากาศบราซิล
- F-5FM
เครื่องบินขับไล่สองที่นั่งที่ได้รับการปรับปรุงโดยกองทัพอากาศบราซิล
- F-5E Tiger III
เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียวที่ได้รับการปรับปรุงโดยกองทัพอากาศชิลี
- F-5F Tiger III
เครื่องบินขับไล่สองที่นั่งที่ได้รับการปรับปรุงโดยกองทัพอากาศชิลี
- RF-5A
เครื่องบินขับไล่ลาดตระเวนถ่ายภาพ
- RF-5E Tigereye
เครื่องบินขับไล่ลาดตระเวนถ่ายภาพ
- CF-5
ประเทศที่มี F-5 ประจำการ
- ออสเตรีย
- เช่าจากสวิสเซอร์แลนด์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรอรับเครื่องบินขับไล่ไต้ฝุ่น
- บาห์เรน
- บอตสวานา
- บราซิล
- กองทัพอากาศอิโดนิเซีย: F-5E ทั้ง 16 ลำปลดประจำการในปี 2548 ปัจจุบันเป็นเครื่องบินสำรอง
- กองทัพอากาศอิหร่าน: ได้รับมอบ F-5E/F จำนวน 140 ลำในสมัยพระเจ้าซาร์ ปัจจุบันปฏิบัติการได้ 60 - 70 ลำ
- กองทัพอากาศเนเธอแลนด์: ปลดประจำการ
- ปากีสถาน
- ยืมมาจากประเทศอื่นชั่วคราวในระหว่างสงครามกับอินเดีย
- ฟิลิปปินส์
- กองทัพอากาศฟิลิปปินส์: ปลดประจำการ F-5A/B
- กองทัพอากาศสิงคโปร์: ปรับปรุงเป็นรุ่น F-5S/T มีประจำการราว 35 ลำ
- กองทัพอากาศสวิส: กำลังจัดหาเครื่องบินรุ่นใหม่มาทดแทน
- กองทัพอากาศไทย: F-5A/B/E จะถูกปลดประจำการในปี 2553 และทดแทนด้วย [[JAS 39 Gripen] F-5T Tigris ยังประจำการต่อไป.
- กองทัพอากาศสหรัฐ: เป็นเครื่องบินข้าศึกสมมุติ
- นาวิกโยธินสหรัฐ: เป็นเครื่องบินข้าศึกสมมุติ
- กองทัพเรือสหรัฐ: เป็นเครื่องบินข้าศึกสมมุติ
- กองทัพอากาศเวียดนาม: เป็นเครื่องเก่าของกองทัพอากาศเวียดนามใต้
เหตุการณ์ในประเทศไทย
ปี พ.ศ. 2512 กองทัพอากาศไทยได้รับเอฟ-5 เอจากกองทัพสหรัฐอเมริกาจำนวน 5 เครื่องและเมื่อสหรัฐอเมริกาถอนตัวจากสงครามเวียดนาม นักบินสหรัฐอเมริกาได้นำเอฟ-5 อีจำนวน 3 เครื่องบินหนีจากเวียดนามมาลงที่สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเอฟ-5 อีทั้ง 3 เครื่องนี้สหรัฐอเมริกาได้นำกลับไปด้วย
ปี พ.ศ. 2519 กองทัพอากาศไทยขออนุมัติรัฐบาล จัดซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-5 อีและเอฟ-5 เอฟจากสหรัฐอเมริกาจำนวน 12 เครื่องและได้รับเครื่องบินเข้าประจำการครบฝูงในปี พ.ศ. 2521 โดยใช้ชื่อเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ข (บ.ข.๑๘ ข) หลังจากนั้นก็ได้มีการจัดซื้อเพิ่มเติมเรื่อย ๆ จนถึงในปัจจุบันกองทัพอากาศไทยมีเอฟ-5 อีมากกว่า 90 เครื่อง
เอฟ-5 ที่ประจำการในประเทศไทย
- F-5A ใช้ชื่อเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ (บ.ข.๑๘)
- F-5B ใช้ชื่อเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ก (บ.ข.๑๘ ก)
- F-5E ใช้ชื่อเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ข (บ.ข.๑๘ ข)
- F-5F ใช้ชื่อเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ค (บ.ข.๑๘ ค)
- RF-5A ใช้ชื่อเครื่องบินตรวจการณ์ขับไล่แบบที่ ๑๘ (บ.ตข.๑๘)
รายละเอียด เอฟ-5
- ผู้สร้าง บริษัท นอร์ธรอป แอร์คราฟท์ (สหรัฐอเมริกา)
- ประเภท เจ๊ตขับไล่ยุทธวิธีที่นั่งเดียว
- เครื่องยนต์ เทอร์โบเจ๊ต เจเนอรัล อีเล็กตริค เจ 85-ยีอี-21 ให้แรงขับเครื่องละ 1,588 กิโลกรัม และ 2,268 กิโลกรัม เมื่อสันดาปท้าย 2 เครื่อง
- กางปีก 8.13 เมตร
- ยาว 14.68 เมตร
- สูง 4.06 เมตร
- พื้นที่ปีก 17.29 เมตร
- น้ำหนักเปล่า 4,346 กิโลกรัม
- น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด 11,192 กิโลกรัม
- อัตราเร็วสูงสุด ไม่เกิน 1,314 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อมีน้ำหนักปฏิบัติการรบ 6,010 กิโลกรัม
- อัตราเร็วขั้นสูง 1.63 มัค ที่ระยะสูง 10,975 เมตร เมื่อเครื่องบินหนัก 10,975 กิโลกรัม
- เพดานบินใช้งาน 15,790 เมตร
- รัศมีทำการรบ 917 กิโลเมตร
- พิสัยบิน 2,943 กิโลเมตร เมื่อติดตั้งถังเชื้อเพลิงชนิดปลดทิ้งได้
- อาวุธ ปืนใหญ่อากาศขนาด 20 มม. M-39 A2/A3 ติดตั้งที่ลำตัวส่วนหัว 2 กระบอกพร้อมกระสุนกระบอกละ 280 นัด
- อาวุธปล่อยอากาศสู่อากาศ เอไอเอ็ม-9 เจ ไซด์ไวน์เดอร์ ติดตั้งที่ปลายปีก ข้างละ 1 แห่ง
- ลูกระเบิดสังหาร ลูกระเบิดทำลาย ลูกระเบิดเนปาล์ม ลูกระเบิดพวง
- จรวดขนาด 2.95 นิ้ว
- สามารถติดตั้งอาวุธที่ใต้ปีกได้ข้างละ 2 แห่ง และ ใต้ลำตัว 1 แห่ง รวมเป็นน้ำหนักสูงสุด 3,175 กิโลกรัม
เพิ่มเติม
อ้างอิง
- ↑ อภิวัตน์ โควินทรานนท์,อากาศยาน1979ฉบับเครื่องบิน,เอวิเอชั่น ออบเซิร์ฟเวอร์,กรุงเทพ,2522