ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เพลงลูกกรุง"
บรรทัด 25: | บรรทัด 25: | ||
* [[สวลี ผกาพันธุ์]] |
* [[สวลี ผกาพันธุ์]] |
||
* [[สมศรี ม่วงศรเขียว]] |
* [[สมศรี ม่วงศรเขียว]] |
||
* [[ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา]] |
|||
== ดูเพิ่ม == |
== ดูเพิ่ม == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:41, 14 มิถุนายน 2551
เพลงลูกกรุง คือเพลงที่บอกเล่า ถ่ายทอด ความรู้สึกของสังคม และคนเมืองหลวง ตลอดจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การถ่ายทอดอารมณ์ การขับร้อง น้ำเสียง ของกลุ่มนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีจะมีรูปแบบ ประณีต ละเอียดอ่อน ออกมานุ่มนวล เนื้อร้องจะมีลักษณะเป็นร้อยแก้ว ร้อยกรอง มีความหมายสลับซับซ้อน ยอกย้อน
ประวัติ
จากบางแหล่งข้อมูลเพลงลูกกรุงกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2474 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองฯ ในรัชกาลที่ 7 บางแหล่งบอกปลาย รัชกาลที่ 6 ประมาณ พ.ศ. 2455 โดยการจ้างครูจากอิตาลีนำเครื่องสายสากลเข้ามาสอน แต่เพลงลูกกรุงเริ่มชัดเจนเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2475 โดยเริ่มมีแนวเพลง เนื้อร้อง ทำนอง และเครื่องดนตรีที่นำมาบรรเลงประกอบเป็นไทย นำทำนองเพลงของรัชกาลที่ 6 ที่นำมาเรียบเรียงเสียงประสานใช้เครื่องดนตรีสากลบรรเลงประกอบ เป็นเพลงในกิจการลูกเสือ ต่อมาได้มีการนำเพลง "ลาทีกล้วยไม้" ของขุนวิจิตรมาตรา มาทำในจังหวะรุมบ้าเพลงแรกของไทย และบทเพลงของจิตร ภูมิศักดิ์ และอื่นๆ ซึ่งแต่ง และใช้เครื่องดนตรีสากลบรรเลงประกอบ เป็นเครื่องบ่งบอกการกำเนิดของเพลงลูกกรุง
ปี พ.ศ. 2482 วงสุนทราภรณ์ก่อตั้งเป็นวงดนตรีวงใหญ่ ซึ่งทำให้สังคมเมืองในยุคนั้น เริ่มตื่นตัวการฟังเพลง ผู้ฟังและค่ายเพลงต่างๆ เริ่มจัดประเภทเพลง สร้างนักร้องให้มีรูปแบบความเป็นคนเมืองหลวง นักดนตรี นักแต่งเพลง นักร้องต่างมีรูปแบบ หาแฟชั่นนำสังคม ทั้งเรื่องแฟชั่น การแต่งกาย มีคลับมีบาร์ แถวถนนราชดำเนิน ตามย่านชุมชน โรงแรมใหญ่ๆ มีห้องบอลรูม เพื่อให้มีการจัดแสดงดนตรีประกอบ และเริ่มมีการเปรียบเทียบระหว่างเพลงลูกทุ่งและเพลงลูกกรุง
ศิลปินเพลงแนวลูกกรุง
- เอื้อ สุนทรสนาน
- สุเทพ วงศ์กำแหง
- ชรินทร์ นันทนาคร
- ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัตน์
- สมยศ ทัศนพันธุ์
- นริศ อารีย์
- นพดฬ ชาวไร่เงิน
- วินัย จุลละบุษปะ
- ชาญ เย็นแข
- กำธร สุวรรณปิยะศิริ
- เพ็ญศรี พุ่มชูศรี
- มัณฑนา โมรากุล
- อ้อย อัจฉรา
- จินตนา สุขสถิตย์
- บุษยา รังสี
- รวงทอง ทองลั่นธม
- สวลี ผกาพันธุ์
- สมศรี ม่วงศรเขียว
- ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา