ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ออร์เคสตรา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
ใส่ลิงก์ข้ามภาษาด้วยบอต
Voraprachw (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 17: บรรทัด 17:
เครื่องดนตรีที่ใช้ในวงออร์เคสตรา โดยธรรมดาแล้ว จะมีสัดส่วนดังนี้
เครื่องดนตรีที่ใช้ในวงออร์เคสตรา โดยธรรมดาแล้ว จะมีสัดส่วนดังนี้
* [[เครื่องลมไม้]]:
* [[เครื่องลมไม้]]:
**2-4 [[ฟลูท]] 1-2 [[ปิคโคโล]] (ฟลูทคนที่ 3 กับ 4)
**2 [[ฟลุต]]
**2-4 [[โอโบ]] 1-2 [[อิงลิชฮอร์น]] (โอโบคนที่ 3 กับ 4)
**2 [[โอโบ]]
**2 [[คลาริเน็ต]]
**2-4 [[คลาริเน็ต]] 1-2 [[เบสคลาริเน็ต]] (คลาริเนทคนที่ 3 กับ 4)
**2 [[บาสซูน]]
**2-4 [[บาสซูน]] 1-2 [[คอนทราบาสซูน]] (บาสซูนคนที่ 3 กับ 4)
* [[เครื่องลมทองเหลือง]]:
* [[เครื่องลมทองเหลือง]]:
**2 ถึง 6 [[ฮอร์น]]
**2 ถึง 8 [[ฮอร์น]]
**2 ถึง 5 [[ทรัมเป็ต]]
**2 ถึง 8 [[ทรัมเป็ต]]
**2 [[ทรอมโบน]]
**2-4 [[ทรอมโบน]]
** [[เบส ทรอมโบน]]
**1-2 [[เบส ทรอมโบน]]
**[[ทูบา]]
**1 [[ทูบา]]
* [[เครื่องตี]]:
* [[เครื่องตี]]:
**[[ทิมปะนี]]
**[[ทิมปะนี]]
**กลองใหญ่
**snare drum
**กลองเล็ก
**bass drum
**ฉาบ
**celesta ฯลฯ
**แทม-แทม
**ไทรแองเกิล
**แทมบูริน
**มาราคา
**คาสตาเน็ท
**วูดบล็อค
**เบลล์
**กล็อคเคนชปีล
**ไซโลโฟน
**เชเลสตา ฯลฯ
* [[เครื่องสาย]]:
* [[เครื่องสาย]]:
**[[ฮาร์ป]]
**[[ฮาร์ป]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:59, 7 มิถุนายน 2551

วง เมลเบิร์น ซิมโฟนี ออร์เคสตรา

วงออร์เคสตรา (orchestra) เป็นคำศัพท์เกี่ยวกับดนตรี มีประวัติมาช้านาน และมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปตามยุคสมัย เพื่อสนองความต้องการของผู้ประพันธ์ในการถ่ายทอดความรู้สึกของดนตรีในแต่ละยุค นิยมแปลศัพท์เป็นไทยว่า "ดุริยางค์"

ประวัติ

ออร์เคสตรา เป็นภาษาเยอรมัน ตามความหมายรูปศัพท์ หมายถึง สถานที่เต้นรำ ซึ่งหมายถึง ส่วนหน้าของโรงละครสมัยกรีกโบราณ ที่ใช้เป็นที่เต้นรำและร้องเพลง ของพวกนักร้องประสานเสียงสำหรับดนตรีตะวันตก ออร์เคสตรามีความหมายถึงวงซิมโฟนี ออร์เคสตรา ได้แก่ วงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย รวมกับเครื่องลมไม้ เครื่องลมทองเหลือง และเครื่องตี

ต่อมาในกลางศตวรรษที่ 18 คำว่า ออร์เคสตรา หมายถึง การแสดงของวงดนตรี ซึ่งเป็นความหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามคำนี้ยังคงใช้ในอีกความหมายหนึ่ง คือ พื้นที่ระดับต่ำที่เป็นที่นั่งอยู่หน้าเวทีละคร และโรงแสดงคอนเสิร์ต

ระยะต่อมาในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมื่อเริ่มกำหนดจำนวนเครื่องดนตรีลงในบทเพลง การพัฒนาวงออร์เคสตราจึงเริ่มมีขึ้น ซึ่งในระยะแรกเป็นลักษณะของวงเครื่องสายออร์เคสตรา (string Orchestra) ซึ่งมีจำนวนผู้เล่นประมาณ 10-25 คน โดยบางครั้งอาจจจะมีมากกว่านี้ตามความต้องการของผู้ประพันธ์เพลง ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 วงออร์เคสตรามีการเพิ่มเครื่องลมไม้ และตอนปลายของยุคบาโรค (ประมาณ ค.ศ. 1750) ผู้ประพันธ์เพลงนิยมบอกจำนวนเครื่องดนตรีไว้ในบทเพลงโดยละเอียด นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเครื่องลมทองเหลือง และเครื่องประกอบจังหวะในออร์เคสตรา

ราวกลางศตวรรษที่ 18 วงออร์เคสตราเป็นรูปแบบขึ้นมาจนได้มาตรฐานในยุคนี้ คือ ยุคคลาสสิก ซึ่งเหตุผลประการหนึ่ง คือ บทเพลงประเภทซิมโฟนีเป็นรูปแบบขึ้นมาในยุคนี้ จึงทำให้ต้องมีการจัดวงออร์เคสตราให้มีมาตรฐาน เพื่อใช้เล่นเพลงซิมโฟนี นอกจากนี้การบรรเลงบทเพลงประเภทคอนแชร์โต โอเปร่า และเพลงร้องเกี่ยวกับศาสนาก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาวงออร์เคสตราเป็นแบบแผนขึ้น

แม้ว่าวงซิมโฟนีออร์เคสตราในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ยังคงมีบทบาทสำคัญในดนตรีตะวันตก ปัจจัยทางเศรษฐกิจก็มีส่วนในการกำหนดขนาดวงออร์เคสตรา หรือแนวทางการประพันธ์เพลงเพื่อใช้กับวงออร์เคสตรา แต่สิ่งนี้ก็มิได้กีดกั้นการสร้างสรรค์ผลงานประเภทที่ใช้วงออร์เคสตราของผู้ประพันธ์เพลงแต่อย่างใด

เครื่องดนตรี

เครื่องดนตรีที่ใช้ในวงออร์เคสตรา โดยธรรมดาแล้ว จะมีสัดส่วนดังนี้

อ้างอิง

  • สังคีตนิยม ความซาบซึ้งในดนตรีตะวันตก, ณรุทธ์ สุทธจิตต์