สัญลักษณ์พาราลิมปิก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ธงพาราลิมปิก)
กีฬาพาราลิมปิก
องค์กร
คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล • คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งชาติ • สัญลักษณ์ • กีฬา • ผู้ร่วมแข่งขัน • ตารางเหรียญรางวัล • ผู้ได้รับเหรียญรางวัล • พิธีการ •
การแข่งขัน
พาราลิมปิกฤดูร้อน
พาราลิมปิกฤดูหนาว

สัญลักษณ์พาราลิมปิก จะมีไอคอน, ธง, และอื่น ๆ ที่ใช้ในคณะกรรมการพาราลิมปิกนานาชาติ สำหรับการส่งเสริมกีฬาพาราลิมปิก

คำขวัญ[แก้]

คำขวัญของกีฬาพาราลิมปิกคือ "สปิริตทุกการกระทำ" (Spirit in Motion) คำขวัญนี้ใช้ในปี พ.ศ. 2547 ในการแข่งขันพาราลิมปิกที่กรุงเอเธนส์[1] คำขวัญในอดีตคือ "ใจ, กาย, สปริต" (Mind, Body, Spirit) ซึ่งในในปี พ.ศ. 2537[1]

ตราสัญลักษณ์พาราลิมปิก[แก้]

ตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกรุ่นใหม่

ตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกประกอบด้วย 3 สี "แอจิโทซ" ได้แก่สี แดง, น้ำเงิน และเขียว อยู่ในลักษณะเดี่ยว ในพื้นหลังสีขาว แอจิโทซ ("ฉันเคลื่อน" ในภาษาละติน) คือตราสัญลักษณ์ที่มีลักษณะเคลื่อนไหวด้วยเป็นขนาดเสี้ยวที่ไม่สมมาตร ตราสัญลักษณ์นี้สร้างขึ้นโดยบริษัทซโลช & เฟรน์ และได้รับการบรรจุเป็นตราสัญลักษณ์เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2546[1][2]

สีของแอจิโทซซึ่งมีลักษณะพื้นหลังสีขาวและสีต่าง ๆ อีกสามสี ซึ่งธงชาติทั่วโลกส่วนมากก็ใช้สีแอจิโทซ สามสีของตราสัญลักษณ์อยู่บนตรงกลาง หมายถึง "บทบาทของคณะกรรมการพาราลิมปิกนานาชาติ (IPC) ที่นำนักกีฬาพิการทั่วทุกมุมโลก มาแข่งขันกันเพื่อชัยชนะ" รูปร่างเสี้ยวที่ไม่สมมาตรซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์มีวิสัยทัศน์ คือ "เพื่อให้นักกีฬาพาราลิมปิกมีความเป็นเลิศทางด้านกีฬาและให้นักกีฬามีความตื่นเต้นกับโลกอันสดใส"[1][2]

ตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกถูกตีพิมพ์ลงมาสู่ผลิตภันณฑ์ต่าง ๆ ครั้งแรง ในปี พ.ศ. 2546 เนื่องจากเวลาการแข่งขันมีอย่างจำกัด ทำให้ก่อนการแข่งขันพาราลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ ในปี พ.ศ. 2547 สัญลักษณ์อันใหม่นี้จึงไม่ได้ใช้ในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม การปิดการแข่งขันในการแข่งขันพาราลิมปิกในครั้งนี้ ปักกิ่งได้มอบธงพาราลิมปิกที่มีตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกใหม่ให้ด้วย[3] สัญลักษณ์ใหม่นี้จึงได้ใช้ในการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูหนาว ปี 2006 เป็นครั้งแรก[4]

ตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกรุ่นแรก (พ.ศ. 2531–2537) ใช้ 5 ปา
ตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกรุ่นสอง (พ.ศ. 2537–2547) ใช้ 3 ปา

สัญลักษณ์พาราลิมปิก[แก้]

แต่ละการแข่งขันพาราลิมปิก มักต้องมีสัญลักษณ์เป็นของตัวเอง เมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจะต้องสร้างสัญลักษณ์พาราลิมปิกเป็นของตัวเอง[5] การออกแบบจะต้องมีตราสัญลักษณ์พาราลิมปิก, ชื่อการแข่งขัน และสิ่งที่โดดเด่นในประเทศเจ้าภาพอย่างน้อยหนึ่งอย่าง

คณะกรรมการพาราลิมปิกนานาชาติ (IPC) จะเป็นผู้อนุมัติให้สามารถใช้สัญลักษณ์พาราลิมปิกในการแข่งขันนั้นได้ สัญลักษณ์พาราลิมปิกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการโปรโมตสินค้า และนำไปติดบนเสื้อผ้าของนักกีฬาพาราลิมปิกทุกคน ทุกตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกล้วนแล้วเป็นทรัพย์สินของ IPC

ภาพของสัญลักษณ์ในการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่กรุงลอนดอน
การจัดสวนดอกไม้เป็นรูปตราสัญลักษณ์ใหม่ของพาราลิมปิกที่สวนเคิว ในช่วงการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่กรุงลอนดอน

ธง[แก้]

ธงพาราลิมปิก

ธงของพาราลิมปิกมีลักษณะพื้นหลังสีขาว และตรงกลางเป็นสัญลักษณ์ของพาราลิมปิก

ธงพาราลิมปิกในปัจจุบันถูกเชิญขึ้นสู่เสาครั้งแรงในการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูหนาว ณ แวนคูเวอร์ ในปี พ.ศ. 2553

คบเพลิงและการวิ่งคบเพลิง[แก้]

ไฟจากกระถางคบเพลิงที่ใช้ในการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูร้อน 2000

เมื่อถึงการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูหนาว 2010 ประเทศเจ้าภาพได้มีการเสนอแนวคิดในการจุดคบเพลิงขึ้นในพาราลิมปิก[14] เมื่อการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูร้อน 2012 ได้มีการเสนอแนวคิดในการวิ่งคบเพลิง โดยจะนำไฟมาจากประเทศเจ้าภาพนั้น โดยการวิ่งคบเพลิงประเทศเจ้าภาพจะเป็นผู้กำหนดเส้นทางในการวิ่งคบเพลิง 1–2 วันก่อนที่จะนำไฟไปจุดบนกระถางคบเพลิงนั้น การวิ่งคบเพลิงจำเป็นที่จะต้องอยู่ในเมืองที่มีการเปิดมหกรรมพาราลิมปิกในเมืองเจ้าภาพนั้น ๆ เมื่อพิธีเปิดเริ่มขึ้นก็จะนำคบเพลิงไปจุดที่กระถางคบเพลิง พอถึงพิธีปิดการแข่งขัน ก็จะดับไฟบนกระถางคบเพลิงลง ถือว่าเป็นการปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ[15][16]

เหรียญรางวัล[แก้]

เหรียญรางวัลพาราลิมปิกของอิน ชาร์ป จากการแข่งขันที่ซิดนีย์ พ.ศ. 2543

เหรียญรางวัลพาราลิมปิกถือเป็นรางวัลของการแข่งขันพาราลิมปิก โดยที่มีเหรียญ 3 เหรียญ ได้แก่ เหรียญเงินชุบทอง (ส่วนใหญ่มักเรียกว่า เหรียญทอง), เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ซึ่งจะมอบให้กับผู้ชนะ 3 คนสุดท้ายของการแข่งขันนั้น ๆ

สำหรับการแข่งขันพาราลิมปิก เหรียญรางวัลจะถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงกีฬาเจ้าภาพ

เพลงสดุดี[แก้]

เพลงชาติประจำพาราลิมปิก หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า เพลงสดุดีพาราลิมปิก เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงเมื่อมีการเชิญธงพาราลิมปิกขึ้นสู่ยอดเสา เพลงนี้เป็นเพลงบรรเลงในตอนแรก และใช้ชื่อว่า "Hymne de l’Avenir" ( "เพลงชาติแห่งอนาคต") ประพันธ์ทำนองโดย ทีเลอร์ นานิส จนในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2539 IPC ได้อนุมัติให้เพลงนี้เป็นเพลงประจำพาราลิมปิก[17]

ในเวลาต่อมา นักร้องสาวชาวออสเตรเลีย แจรม คาร์เนอร์ ได้เป็นผู้ประพันธ์คำร้องขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2544[18]

คำปฏิญาณพาราลิมปิก[แก้]

คำปฏิญาณพาราลิมปิก ถือเป็นการกล่าวคำสัญญา โดยจะมีตัวแทนที่พูดอย่างน้อย 3 คน ได้แก่ ตัวแทนนักกีฬา, ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะกล่าวคำปฏิญาณในช่วงเปิดมหกรรรมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกนั้น ๆ

นักกีฬาที่จะกล่าวคำปฏิญาณจะถูกคัดเลือกจากประเทศเจ้าภาพ พร้อมกับถือธงพาราลิมปิก โดยจะกล่าวคำดังต่อไปนี้:

คำปฏิญาณนักกีฬา

In the name of all the competitors I promise that we shall take part in these Paralympic Games, respecting and abiding by the rules which govern them, committing ourselves to a sport without doping and without drugs, in the true spirit of sportsmanship, for the glory of sport and the honour of our teams. / ในนามของผู้แข่งขันทั้งหมด เราจะขอสัญญาว่า เราจะมีส่วนรวมและเคารพในการแข่งขันพาราลิมปิกในครั้งนี้ เราจะเล่นกีฬาโดยปราศจากสารกระตุ้นทั้งหมด เราจะเล่นกีฬาโดยมีจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ เพื่อเป็นเกียรติศักดิ์แก่ทีมของเราเอง[19]

เจ้าหน้าที่ที่จะกล่าวคำปฏิญาณ ยังมาจากประเทศเจ้าภาพ โดยที่จะถือผืนธงตรงมุม การกล่าวคำปฏิญาณอาจจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย:

คำปฏิญาณผู้ตัดสิน (คำปฏิญาณเจ้าหน้าที่)

In the name of all the judges and officials, I promise that we shall officiate in these Paralympic Games with complete impartiality, respecting and abiding by the rules which govern them in the true spirit of sportsmanship. / ในนามของผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เราสัญญาว่า เราจะปฏิบัติหน้าที่ในการแข่งขันพาราลิมปิกในครั้งนี้อย่างเที่ยงธรรม เราจะเคารพและปฏิบัติตามกฎ เราจะปฏิบัติหน้าที่โดยมีจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์[20]

ผู้ฝีกสอนที่จะกล่าวคำปฏิญาณ ยังมาจากประเทศเจ้าภาพ โดยที่จะถือผืนธงตรงมุม การกล่าวคำปฏิญาณอาจจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย:

คำปฏิญาณผู้ฝึกสอน

In the name of all coaches and other members of the athletes entourage, I promise that we shall commit ourselves to ensuring that the spirit of sportsmanship and fair play is fully adhered to and upheld in accordance with the fundamental principles of the Paralympic movement. / ในนามของผู้ฝึกสอนและสมาชิกผู้ติดตามนักกีฬาทั้งหมด เราขอสัญญาว่า เราจะให้นักกีฬานั้น เล่นกีฬาโดยมีจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ และเล่นตรงไปตรงมา เราจะทำเต็มที่เพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันพาราลิมปิก

ผู้กล่าว[แก้]

ข้างล่างนี้คือรายชื่อผู้ที่ได้กล่าวคำปฏิญาณ[19][21]

Paralympic Oath
การแข่งขัน นักกีฬา ผู้ตัดสิน (เจ้าหน้าที่) ผู้ฝึกสอน
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1960 Franco Rossi
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1964 Shigeo Aono
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1968 Zvi Ben-Zvi
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1972 Marga Floer ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1976 ไม่ทราบ ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1976 Eugene Reimer ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1980 ไม่ทราบ ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1980 Irene Schmidt Henk Boersbroek
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1984 ไม่ทราบ ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1984 Ólavur Kongsbak (NY)
John Harris (SM)
Jack Abramson (NY)
Ronald Nicholls (SM)
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1988 ไม่ทราบ ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1988 So-Boo Kim ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1992 Ludovic Rey-Robert ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1992 José Manuel Rodríguez Ibáñez ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1994 Cato Zahl Pedersen ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1996 Trischa Zorn ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1998 Ryuei Shinohe Takashi Takano
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2000 Tracey Cross Mary Longden
พาราลิมปิกฤดูหนาว 2002 Sarah Billmeier ไม่ทราบ
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2004 Maria Kalpakidou Vlassis Tamvakieras
พาราลิมปิกฤดูหนาว 2006 Fabrizio Zardini Mauro Scanacapra
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2008 Wu Chunmiao[22] Hao Guohua[22]
พาราลิมปิกฤดูหนาว 2010 Herve Lord[23] Linda Kirton[24]
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2012 Liz Johnson[25] Richard Allcroft[25] David Hunter[25]
พาราลิมปิกฤดูหนาว 2014 Valery Redkozubov Elena Mokerova Alexander Nazarov[26]
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2016 Phellipe Rodrigues Raquel Daffre Amaury Veríssimo

รางวัลพิเศษพาราลิมปิก[แก้]

รางวัลพิเศษพาราลิมปิก ถือเป็นรางวัลสูงสุดของการแข่งขันพาราลิมปิก ผู้ที่ได้รับเหรียญนี้จะได้ตราสัญลักษณ์ของคณะกรรมการพาราลิมปิกนานาชาติอีกด้วย คุณสมบัติของผู้ได้รับรางวัลพิเศษพาราลิมปิก คือ การช่วยเหลืออันเป็นประโยชน์ต่อวงการพาราลิมปิก[27][28]

ตัวนำโชค[แก้]

แต่ละการแข่งขันพาราลิมปิกจะต้องมีตัวนำโชคของประเทศเจ้าภาพ โดยตัวนำโชตอาจสื่อถึงสัตว์ประจำชาติ หรือเหตุการต่าง ๆ ในประเทศเจ้าภาพนั้น ๆ ปัจจุบันได้มีการผลิตสินค้าตัวนำโชค เพื่อให้เยาวชนสนใจในการแข่งขันพาราลิมปิก

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 "New Logo and Motto for IPC". International Paralympic Committee. 2003. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 April 2008. สืบค้นเมื่อ 18 August 2015.
  2. 2.0 2.1 International Paralympic Committee – The IPC logo, motto and flag, CRWFlags.com
  3. New Logo and Motto for IPC เก็บถาวร 6 เมษายน 2008 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, International Paralympic Committee (IPC)
  4. Firsts at the Torino 2006 Paralympic Winter Games, International Paralympic Committee (IPC)
  5. Paralympic Emblems เก็บถาวร 4 มีนาคม 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Official Website of the Beijing 2008 Olympic Games
  6. Lillehammer 1994, International Paralympic Committee (IPC)
  7. 7.0 7.1 7.2 An introduction to emblems and mascots of Paralympic Games (photos attached) เก็บถาวร 7 กันยายน 2008 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Official Website of the Beijing 2008 Olympic Games
  8. Emblems of Paralympic Summer Games – Athens 2004 เก็บถาวร 26 กรกฎาคม 2009 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Official Website of the Beijing 2008 Olympic Games
  9. Beijing Paralympics Emblem unveiled (photo attached) เก็บถาวร 6 มีนาคม 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Official Website of the Beijing 2008 Olympic Games, July 13, 2004
  10. Vancouver 2010 paralympic games Emblem Graphic standards เก็บถาวร 2010-02-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Official Website of the Vancouver 2010 Olympic Games
  11. "London 2012 logo to be unveiled". BBC Sport. 4 June 2007. สืบค้นเมื่อ 2007-06-04.
  12. Get involved: Handover – London 2012 เก็บถาวร 29 สิงหาคม 2008 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  13. Paralympic Emblem เก็บถาวร 4 มกราคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Official Website of the Rio 2016 Olympic and Paralympic Games, December 25, 2015
  14. Games symbols and mascots, Get Set – London 2012 Education Programme
  15. "London 2012 offers first look at the Paralympic Torch". paralympic.org. 29 February 2012.
  16. Stoke Mandeville, Stoke Mandeville to feature in all Paralympic Games Torch Relays
  17. IPC Handbook – Bylaws Governance and Organizational Structure เก็บถาวร 26 สิงหาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (.pdf file), International Paralympic Committee (IPC)
  18. Susanne Reiff, บ.ก. (2001). "Graeme Connors adds Lyrics to Paralympic Hymn". The Paralympian. No. 4. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2002-01-06. สืบค้นเมื่อ 2017-03-20.
  19. 19.0 19.1 Paralympic Winter Games History, The Official Web Site of the U.S. Olympic Committee
  20. Summary of the Opening Ceremony เก็บถาวร 12 กันยายน 2008 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Official Website of the Beijing 2008 Olympic Games, September 6, 2008
  21. "Paralympic Oath" (PDF). International Paralympic Committee (IPC). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 19 June 2010.
  22. 22.0 22.1 China opens Beijing Paralympic Games in celebration of life and humanity, English People's Daily Online, September 7, 2008
  23. Paralympic Games kick off in Vancouver เก็บถาวร 22 มีนาคม 2010 ที่ archive.today, National Post, March 12, 2010
  24. Abby curl official to read Paralympic oath เก็บถาวร 12 มีนาคม 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, AbbyNews.com, March 8, 2010
  25. 25.0 25.1 25.2 Michael Hirst BBC 2012 (2012-08-30). "Paralympic Games 'return home' to UK". Bbc.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2014-02-19.
  26. "Sochi 2014 Paralympic Opening Ceremony lights up Russia". paralympic.org. 7 March 2014. สืบค้นเมื่อ 22 March 2014.
  27. The Paralympian – Issue 1/2010 เก็บถาวร 19 มิถุนายน 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Paralympian page 14, International Paralympic Committee (IPC)
  28. Paralympic Order, International Paralympic Committee (IPC)

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]