ตำบลไล่โว่

พิกัด: 15°11′17.3″N 98°28′36.4″E / 15.188139°N 98.476778°E / 15.188139; 98.476778
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ตำบลไล่โว่
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันTambon Lai Wo
แม่น้ำซองกาเลียรอยต่อตำบลไล่โว่กับตำบลหนองลู
แม่น้ำซองกาเลียรอยต่อตำบลไล่โว่กับตำบลหนองลู
ประเทศไทย
จังหวัดกาญจนบุรี
อำเภอสังขละบุรี
พื้นที่
 • ทั้งหมด1,723.98 ตร.กม. (665.63 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2565)
 • ทั้งหมด6,257 คน
 • ความหนาแน่น3.63 คน/ตร.กม. (9.4 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 71240
รหัสภูมิศาสตร์710803
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย
องค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่
อบต.ไล่โว่ตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี
อบต.ไล่โว่
อบต.ไล่โว่
ที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่
พิกัด: 15°11′17.3″N 98°28′36.4″E / 15.188139°N 98.476778°E / 15.188139; 98.476778
ประเทศ ไทย
จังหวัดกาญจนบุรี
อำเภอสังขละบุรี
จัดตั้ง • 22 พฤษภาคม 2517 (สภาตำบลไล่โว่)
 • 25 ธันวาคม 2539 (อบต.ไล่โว่)
การปกครอง
 • นายกสมชาย วุฒิพิมลวิทยา
พื้นที่
 • ทั้งหมด1,723.98 ตร.กม. (665.63 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2565)[1]
 • ทั้งหมด6,257 คน
 • ความหนาแน่น3.63 คน/ตร.กม. (9.4 คน/ตร.ไมล์)
รหัส อปท.06710803
ที่อยู่ที่ทำการเลขที่ 49 หมู่ที่ 1 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71240
เว็บไซต์www.laiwo.go.th
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

ไล่โว่ เป็น 1 ใน 3 ตำบลของอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นตำบลที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีมากที่สุดถึง 215 กิโลเมตร และเป็นตำบลที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรีถึง 1,723.98 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็นพื้นที่ 1,077,847.5 ไร่ (ร้อยละ 8.85 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด)

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

ตำบลไล่โว่มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้

ประวัติ[แก้]

ในอดีตชาวกะเหรี่ยงจากพม่าอพยพเข้ามาในไทย มีคำบอกเล่าว่าในสมัยกรุงธนบุรีช่วงปี พ.ศ. 2317 ชาวกะเหรี่ยงจากหมู่บ้านเมกะวะในเขตเมืองเมาะละแหม่ ได้อพยพเข้ามาอยู่ในทุ่งใหญ่เซซาโว่ (ปัจจุบันคือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร หรือเขตมรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวร) เพราะโดยนิสัยแล้วชาวกะเหรี่ยงนั้นรักสงบ หลีกเลี่ยงสงคราม ชาวกะเหรี่ยงจึงเลือกที่จะตั้งที่อยู่อาศัยลึกเข้าไปในป่าใหญ่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2364 ในสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวกะเหรี่ยงกลุ่มนี้ได้ช่วยกับขับไล่ทหารพม่าออกจากสยามพระเจ้าแผ่นดินสยามจึงได้แต่งตั้งหัวหน้ากะเหรี่ยงให้เป็นเจ้าเมืองสังขละบุรี มีบรรดาศักดิ์เป็น "พระศรีสุวรรณคีรี" โดยที่ตั้งของเมืองสังขละบุริเดิม คือ บ้านเสน่ห์พ่อง ราษฎรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มีพระศรีสุวรรณคีรี เป็นเจ้าเมืองสืบทอดตำแหน่งกันมา 5 ท่าน จนกระทั่งมีการปรับปรุงระเบียบการปกครองท้องถิ่นสมัยรัชกาลที่ 5 ลดฐานะเมืองสังขละบุรีเป็นอำเภอ พระศรีสุวรรณดูริที่ (ทะเจียงโปรย เสตะพันธ์) รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นนายอำเภอคนแรกของสังขละบุรี แต่เดิมแยกเป็น 2 ตำบล โดยถือลำน้ำกษัตริย์เป็นเส้นแบ่งการปกครอง คือ

  • ตำบลไล่โว่ อยู่ตอนใต้ของลำน้ำกษัตริย์ กำนันปกครองติดต่อกันมาจนปัจจุบัน คือ กำนันยงไหล่ กำนันเวียแตะ กำนันเท่ห์นง กำนันเจี่ยนุ กำนันเองบ่า กำนันซ่าวิ กำนันบวร เสตะพันธ์ กำนันคาจง เสตะพันธ์ กำนันไมตรี เสตะพันธ์ กำนันอานนท์ เสตะพันธ์ และกำนันไพบูลย์ ช่วยบำรุงวงศ์
  • ตำบลลังกา อยู่ตอนเหนือของลำน้ำกษัตริย์ กำนันปกครองติดต่อกันมา 4 คน คือ กำนันเมียะเพิ่ง กำนันท่องเก กำนันไป่เยาะเอง กำนันปวยแตะ และกำนันก้องนุ

ระหว่างที่พระศรีสุวรรณคีรีที่ 4 (ทะเจียงโปรย เสตะพันธ์) เป็นนายอำเภอสังขละบุรี พ.ศ. 2438-2467) มีหลักฐานปรากฏว่าที่บริเวณหมู่บ้านก่องเผิงลำน้ำปะคะไหลลงสู่ลำน้ำกษัตริย์ มีการจัดตั้งสถานีตำรวจเพื่อบริการประชาชนในตำบลไล่โว่ และตำบลลังกา ในปีพ.ศ. 2482 ตำบลลังกาถูกยุบมารวมกับพื้นที่ตำบลไลโว่ จึงเป็นตำบลไล่โว่ตำบลเดียวกระทั่งปัจจุบัน คำว่า "ไล่โว่" เป็นภาษากะเหรี่ยง มีความหมายว่า "หินแดง หรือผาแดง"

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

ตำบลไล่โว่แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 6 หมู่บ้าน ได้แก่

หมู่ที่ 1 บ้านเสน่ห์พ่อง (Ban Sane Phong)
หมู่ที่ 2 บ้านกองม่องทะ (Ban Kong Mongta)
หมู่ที่ 3 บ้านเกาะสะเดิ่ง (Ban Ko Sadoeng)
หมู่ที่ 4 บ้านไล่โว่ (Ban Lai Wo)
หมู่ที่ 5 บ้านทิไล่ป้า (Ban Thi Lai Pa)
หมู่ที่ 6 บ้านจะแก (Ban Chakae)

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

ท้องที่ตำบลไล่โว่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพียงแห่งเดียว คือ องค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไล่โว่ทั้งหมด ซึ่งเป็นสภาตำบลไล่โว่ที่จัดตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2517[2] และยกฐานะขึ้นเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2539[3]

ประชากร[แก้]

พื้นที่ตำบลไล่โว่ประกอบด้วยหมู่บ้านทั้งสิ้นจำนวน 6 หมู่บ้าน มีจำนวนประชากร 6,257 คน แบ่งเป็นชาย 3,310 คน หญิง 2,947 คน (เดือนธันวาคม 2565)[4] เป็นตำบลที่มีประชากรน้อยที่สุดในอำเภอสังขละบุรี

      หมายถึงจำนวนประชากรได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
      หมายถึงจำนวนประชากรได้คงเดิมเมื่อเทียบกับปีก่อน
      หมายถึงจำนวนประชากรได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน

* ปี พ.ศ. 2558 มีการรวมผู้ที่ไม่ได้สัญชาติไทยในทะเบียนราษฎร ส่งผลให้ข้อมูลจำนวนประชากรปีดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

หมู่บ้าน พ.ศ. 2565[5] พ.ศ. 2564[6] พ.ศ. 2563[7] พ.ศ. 2562[8] พ.ศ. 2561[9] พ.ศ. 2560[10] พ.ศ. 2559[11]
กองม่องทะ 1,662 1,651 1,633 1,567 1,552 1,525 1,505
จะแก 1,540 1,521 1,512 1,470 1,428 1,406 1,368
เสน่ห์พ่อง 1,187 1,179 1,157 1,082 1,054 1,033 1,026
ทิไล่ป้า 842 825 819 780 761 743 722
ไล่โว่ 657 645 642 590 581 562 547
เกาะสะเดิ่ง 369 362 361 357 355 351 336
รวม 6,257 6,183 6,124 5,846 5,731 5,620 5,504

อ้างอิง[แก้]

  1. ประชากรในเขตอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย.
  2. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดตั้งสภาตำบลตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๒๖ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๑๕" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 91 (87 ง): (ฉบับพิเศษ) 1-45. วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2517
  3. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 113 (ตอนพิเศษ 52 ง): 1–365. วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2539
  4. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [1] 2565. สืบค้น 24 มกราคม 2565.
  5. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [2] 2565. สืบค้น 24 มกราคม 2565.
  6. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [3] 2564. สืบค้น 18 มีนาคม 2564.
  7. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [4] 2563. สืบค้น 10 มกราคม 2563.
  8. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/036/T_0032.PDF 2562. สืบค้น 12 กุมภาพันธ์ 2562.
  9. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/041/22.PDF 2561. สืบค้น 26 กุมภาพันธ์ 2561.
  10. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat59.htm 2560. สืบค้น 3 มีนาคม 2560.
  11. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat58.htm 2558. สืบค้น 16 กุมภาพันธ์ 2559.