คริสซี ทีเกน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คริสซี ทีเกน
ทีเกน ในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง เธอ เริ่ด เชิด ป่อง เมื่อปี พ.ศ. 2555
เกิดคริสทีน ไดแอน ทีเกน
30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 (38 ปี)
เดลตา รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา
ปีปฏิบัติงาน2549–ปัจจุบัน
ส่วนสูง5 ft 8.5 in (1.74 m)[1]
คู่สมรสจอห์น เลเจนด์ (สมรส 2556)
เว็บไซต์sodelushious.com

คริสทีน ไดแอน "คริสซี" ทีเกน (อังกฤษ: Christine Diane "Chrissy" Teigen; เกิด 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528) เป็นนางแบบชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากการถ่ายนิตยสาร สปอตส์อิลลัสเตรตทิด ฉบับชุดว่ายน้ำ (Sports Illustrated Swimsuit Issue) เมื่อปี พ.ศ. 2553 และปรากฏบนหน้าปกครบรอบห้าสิบปีของนิตยสารดังกล่าวร่วมกับนีนา อักดัล และลิลลี่ อัลดริดจ์ เมื่อปี พ.ศ. 2557[2]

ปัจจุบันเธอรับงานเป็นพิธีกรในรายการ ลิปซิงก์แบตเทิล (Lip Sync Battle) คู่กับแอลแอล คูล เจ ทางช่องสไปก์ทีวี[3]

ประวัติ[แก้]

คริสซี ทีเกน เกิดที่เมืองเดลตา รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา บิดามีเชื้อสายนอร์เวย์ กับวิไลลักษณ์ ไชยอุดม ไทเก้น[4] มารดาชาวไทย[5] บิดาประกอบอาชีพเป็นช่างไฟฟ้า[6] ส่วนมารดาเกิดที่จังหวัดนครราชสีมา แต่ไปเติบโตที่จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนย้ายมายังสหรัฐอเมริกาหลังสมรส[7]

จากการงานของบิดาทำให้ครอบครัวของเธอต้องย้ายบ้านอยู่บ่อยครั้ง ได้แก่ รัฐฮาวาย, รัฐไอดาโฮ และซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน จนเมื่อทีเกนอยู่ในช่วงวัยรุ่น ครอบครัวของเธอก็ย้ายมาที่ฮันติงตันบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย[8][9] ที่ต่อมาช่างภาพได้มาพบเธอขณะทำงานที่ร้านขายอุปกรณ์โต้คลื่นและชี้ชวนให้เป็นนางแบบ[8][10]

การทำงาน[แก้]

คริสซี ทีเกน เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2555

ทีเกนเริ่มรับงานนางแบบในสังกัดของไอเอ็มจีโมเดลส์ (IMG Models) ที่นิวยอร์ก[1] ก่อนจะได้เป็นไอจีเอ็นเบ็บ (IGN Babe) ในปี พ.ศ. 2547 และยังได้เป็นนางแบบเสริมของเกมโชว์ ดีลออร์โนดีล (Deal or No Deal) ช่วงปี พ.ศ. 2549-2550 ซึ่งในปี พ.ศ. 2550 นั่นเธอได้ถ่ายแบบลงปฏิทินของนิตยสารแม็กซิม หลังจากนั้นเธอก็มีงานเข้ามาจำนวนมาก อาทิ งานโฆษณา และเป็นพิธีกรรับเชิญในรายการ อาทิ อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล (America's Next Top Model) และวอตช์วอทแฮปเพนไลฟ์ (Watch What Happens Live) และในปี พ.ศ. 2556 เธอได้เป็นพิธีกรในรายการเรียลลิตีโชว์ โมเดลเอมโพลอี (Model Employee) ทางช่องวายเอ็ชวัน[11]

แต่ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ทีเกนมากที่สุดคือการร่วมถ่ายแบบนิตยสารสปอตส์อิลลัสเตรตทิด ฉบับชุดว่ายน้ำ (Sports Illustrated Swimsuit Issue) จนได้ตำแหน่งเป็น "ดาวรุ่งแห่งปี" ซึ่งบรุกลิน เด็กเกอร์ เพื่อนนางแบบของเธอ เป็นผู้แนะนำนิตยสารที่ทีเกนถ่าย[12] หลังจากนั้นทีเกนก็ถ่ายแบบนิตยสารนี้เรื่อยมา และได้ขึ้นปกครบรอบ 50 ปีของนิตยสารดังกล่าวร่วมกับนีนา อักดัล และลีลี อัลดริดจ์ เมื่อปี พ.ศ. 2557[13][14]

นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว ทีเกนยังเปิดบล็อกส่วนตัวที่มีงานเขียน และการทำอาหาร โดยเธอนำรายการอาหารต่าง ๆ จากการเดินทางทั่วโลกของเธอ และนำสูตรอาหารท้องถิ่นมาแนะนำแก่ผู้ติดตามบล็อก ซึ่งเธอเคยทำไก่ย่างแบบไทยมานำเสนอด้วย[7] ซึ่งในปี พ.ศ. 2550 เธอได้ทำรายการ คริสซีทีเกนส์ฮังกรี (Chrissy Teigen's Hungry) ทางช่องคุกกิงแชนแนล ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับรายการอาหารในงานแต่งของเธอกับคู่หมั้นคือจอห์น เลเจนด์[15] และมีภาพยนตร์เรื่อง คุกกีส์แอนด์คอกเทลส์ (Cookies and Cocktails) ที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการทำอาหารผ่านช่องคุกกิงแชนแนล[16]

ในปี พ.ศ. 2558 ทีเกนรับงานเป็นพิธีกรคู่กับแอลแอล คูล เจ ในรายการ ลิปซิงก์แบตเทิล (Lip Sync Battle) ทางช่องสไปก์ทีวี[3]

ชีวิตส่วนตัว[แก้]

คริสซี ทีเกนได้หมั้นกับจอห์น เลเจนด์ นักร้องชาวอเมริกัน เมื่อเดือนธันวาคม 2554[17][18] ที่ต่อมาทั้งสองได้สมรสกันเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2556 ที่โกโม ประเทศอิตาลี[19] โดยเพลง ออลออฟมี ผลงานเพลงหนึ่งของเลเจนด์ ได้ทีเกนซึ่งเป็นคู่หมั้นในขณะนั้นเป็นแรงบันดาลใจ[19][20][21]

ทั้งสองมีบุตรด้วยกันสี่คน คนแรกเป็นบุตรสาวชื่อลูนา ซีโมน สตีเฟนส์ (Luna Simone Stephens; 14 เมษายน 2559) หรือชื่อภาษาไทยว่า "จันทร์เจ้า"[22][23][24] คนที่สองเป็นบุตรชายชื่อไมส์ ทีโอดอร์ สตีเฟนส์ (Miles Theodore Stephens; 16 พฤษภาคม 2561)[25][26][27] คนที่สามเป็นบุตรสาวผ่านการ IVF ในปี 2566[28][29] และคนที่สี่เป็นบุตรชายผ่านการตั้งครรภ์แทนในสิ้นปีเดียวกัน[30]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 IMG Models เก็บถาวร 2014-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved August 6, 2010.
  2. "Chrissy Teigen Is a Member of the Mile-High Club". Cosmopolitan. April 28, 2014. สืบค้นเมื่อ August 5, 2014.
  3. 3.0 3.1 "Lip Sync Battle Preview: Anna Kendrick Enlists Jennifer Lopez's Help, John Krasinski Wears a Fringe Dress and More!". E!.
  4. "มารู้จัก "คริสซี่ ไทเจน" นางแบบชุดว่ายน้ำไทย-นอร์เวย์". บ้านเมือง. 13 มกราคม 2559. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-16. สืบค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. Green, Treye (September 14, 2013). "Who Is Chrissy Teigen? Meet John Legend's Supermodel Wife". International Business Times.
  6. "รู้จัก "คริสซี ไทเกน" นางแบบสุดฮ็อตผู้กล่าวทักทายเป็นภาษาไทยบนพรมแดงออสการ์". ASTV ผู้จัดการออนไลน์. 3 มีนาคม 2558. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-03-06. สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. 7.0 7.1 "ไม่ทิ้งความเป็นไทย! 'คริสซีย์' เมียลูกครึ่งไทยของ 'จอห์น เลเจนด์'". ไทยรัฐออนไลน์. 26 กุมภาพันธ์ 2558. สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. 8.0 8.1 Arcella, Lisa. "Chrissy Teigen Talks John Legend, Modeling & More". vegasmagazine.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-08. สืบค้นเมื่อ 2015-04-29.
  9. Gage, Eleni. "Chrissy Teigen Gives Us Fever". oceandrive.com.
  10. Adele Platon (May 10, 2013). "Chrissy Teigen Talks Hosting New VH1 Show 'Model Employee,' Cooking Obsession And John Legend". Vibe. สืบค้นเมื่อ August 5, 2014.
  11. Emily Exton (June 11, 2013). "Chrissy Teigen Recaps Model Employee Episode Five: Cold Drinks And Melted Spray Tans". VH1. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-08. สืบค้นเมื่อ August 5, 2014.
  12. "Sports Illustrated Swimsuits Revealed". YouTube. February 9, 2010. สืบค้นเมื่อ May 30, 2013.
  13. Ward, MIchelle. "Lily Aldridge, Chrissy Teigen & Nina Agdal Grace Sports Illustrated's 50th Anniversary Swimsuit Issue!". People. สืบค้นเมื่อ February 14, 2014.
  14. Lindsay Silberman. "Chrissy Teigen, Counterculture Celebrity". dujour.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-12. สืบค้นเมื่อ August 5, 2014.
  15. "Chrissy Teigen on Romantic Cooking, Eating Whatever You Want and More". Cooking Channel. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-02. สืบค้นเมื่อ May 30, 2013.
  16. "Chefs & Hosts: Chrissy Teigen". cookingchanneltv.com. สืบค้นเมื่อ August 5, 2014.
  17. Silverman, Stephen M. (December 27, 2011). "John Legend Is Engaged". People. สืบค้นเมื่อ September 14, 2013.
  18. Galla, Brittany (July 24, 2013). "Chrissy Teigen, John Legend Planning September Wedding in Lake Como, Italy". Us Weekly. สืบค้นเมื่อ September 14, 2013.
  19. 19.0 19.1 Webber, Stephanie (September 14, 2013). "John Legend, Chrissy Teigen Marry in Italy – See Her Wedding Dress!". Us Weekly. สืบค้นเมื่อ September 14, 2013.
  20. King, Gayle. "John Legend talks wife Chrissy Teigen as inspiration, friend Kanye West and the state of R&B". CBS News. สืบค้นเมื่อ 23 January 2014.
  21. "New Music: John Legend – 'All of Me'". Rap-Up.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-21. สืบค้นเมื่อ 2013-10-21.
  22. "Chrissy Teigen & John Legend ผู้ข้อมือรับขวัญลูกสาว พร้อมตั้งชื่อไทย น้องจันทร์เจ้า". Easy FM 105.5. 25 เมษายน 2559. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-08. สืบค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  23. "John Legend & Chrissy Teigen Enjoy Being Parents". Vogue Thailand. June 10, 2016. สืบค้นเมื่อ June 18, 2017.
  24. "รวมชุดฮาโลวีนสุดน่ารักของหนูน้อย 'จันทร์เจ้า' ลูกสาวคริสซี่ ทีแกน". OK! MAGAZINE. 1 พฤศจิกายน 2559. สืบค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  25. "OMG, Chrissy Teigen Just Announced She's Pregnant In The Most Chrissy Teigen Way Possible". Buzzfeed.com. สืบค้นเมื่อ November 22, 2017.
  26. "Chrissy Teigen Announces She's Having a Baby Boy With John Legend". E-online. สืบค้นเมื่อ May 4, 2018.
  27. Chrissy Teigen and John Legend’s baby born People
  28. Pflaumer, Erin (January 19, 2023). ""We are in bliss": Chrissy Teigen announces birth of 3rd child after losing unborn son in 2020". CBS News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 4, 2023. สืบค้นเมื่อ June 29, 2023.
  29. Saad, Nardine (January 20, 2023). "Meet Chrissy Teigen and John Legend's new baby girl". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 1, 2023. สืบค้นเมื่อ June 29, 2023.
  30. Ede-Osifo, Uwa (June 28, 2023). "Chrissy Teigen and John Legend welcome baby No. 4". NBC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 29, 2023. สืบค้นเมื่อ June 28, 2023.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]