มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก University of the Arts London)

มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน (University of the Arts London หรือ UAL) เป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียงอย่างมากในหลักสูตรด้านศิลปะ, การออกแบบ, แฟชั่น, การสิ่อสารและศิลปะการแสดง ที่ได้รับการจัดอันดับให้ติดอันดับ 1 ใน 5 และ 1 ใน 10 ของโลกอยู่บ่อยครั้ง โดยมีการรวมสถาบันการศึกษาศิลปะและการออกแบบของรัฐที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งหกแห่งไว้ด้วยกัน ซึ่งทั้งหกสถาบันต่างเป็นส่วนหนึ่งของ "มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน" ได้แก่ "วิทยาลัยศิลปะแคมเบอร์เวล" (Camberwell College of Arts) , "เซ็นทรัลเซนต์มาร์ติน" (Central St Martins), "วิทยาลัยศิลปะเชลซี" (Chelsea College of Arts), "วิทยาลัยสื่อสารลอนดอน" (London College of Communication), "วิทยาลัยแฟชั่นลอนดอน" (London College of Fashion) และ"วิทยาลัยศิลปะวิมเบิลดัน" (Wimbledon College of Arts) นอกจากนี้ยังเป็นมหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญด้านศิลปะและการออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้วยจำนวนนักศึกษากว่า 18,000 คนแต่จากข้อมูลล่าสุดในปีพ.ศ. 2560 (2017) มีนักศึกษาประมาณ 25,000 คน [1][2][3][4]

เดิมทีเป็นสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในลอนดอน (London Institute) ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2529-2547 (1986-2004) ซึ่งมีการขอขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2546 และได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการในปีพ.ศ. 2547

ประวัติหกวิทยาลัย[แก้]

หกวิทยาลัยศิลปะที่ดีที่สุดในกรุงลอนดอนของมหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน

  • "เซ็นทรัลแซงต์มาร์ติน" (Central St Martins)

เป็นที่รู้จักในฐานะแฟชั่นของหลักสูตรศิลปกรรมศาสตร์ Central St Martins อันเป็นผลมาจากการควบรวมระหว่าง Central School of Art and Design (ก่อตั้งโดยนักวิจารณ์ John Ruskin) และ St Martins School of Art ซึ่งเป็นที่รู้จักในสาขาประติมากรรมบุกเบิกในช่วงยุคทศวรรษที่ 50s, 60s and 70s หลังจากที่วิทยาลัยรวมสถาบันศิลปะแห่งใหม่เป็นที่รู้จักกันในเว็บไซต์ที่แตกต่างกันครอบคลุมความกว้างของกรุงลอนดอนซึ่งเป็นศูนย์กลางของถนน Charing Cross ที่ Sex Pistols ดำเนินการครั้งแรก นับตั้งแต่ย้ายไปที่ร้านเมล็ดธัญพืชแปลงใหญ่ที่จัตุรัสเม็ดใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่บนคิงส์ครอสซึ่งคุณมีแนวโน้มที่จะจุดอเล็กซานเดอร์แม็คควีนที่กำลังเดินเข้ามาในชั้นเรียน หลักสูตรของวิทยาลัยนี้จะมุ่งเน้นไปทางศิลปะ, เซรามิกส์, แฟชั่น, กราฟิก, ออกแบบเครื่องประดับ, ออกแบบผลิตภัณฑ์, สิ่งทอ, โรงละคร ฯลฯ

  • "วิทยาลัยศิลปศาสตร์เชลซี"

แม้ว่าจะใช้ชื่อจากถนน Manresa เดิมวิทยาลัยเชลซีวิทยาลัยศิลปะตั้งอยู่ในโรงพยาบาลทหารเก่าใน Pimlico เพียงข้ามถนนจาก Tate Britain โรงเรียนเดิมสอนวิชาชีพการค้า แต่ตอนนี้มีหลักสูตรทุกอย่างตั้งแต่ศิลปกรรมไปจนถึง curating และการออกแบบกราฟิก เมอร์อเด่น ได้แก่ เอลิซาเบ Frink เอ็ดเวิร์ด Burra และเฮนรีมัวร์ซึ่งเป็นรูปปั้นแกะสลักรูปที่ 2 ของที่ซื้อมาจากวิทยาลัยในยุค 50 และยังคงอยู่ในเว็บไซต์มาจนถึงทุกวันนี้ วิทยาลัยศิลปะเชลซี

ในฐานะที่เป็นวิทยาลัยศิลปะที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในโลกนักเรียนสามารถเรียนจิตรกรรม, ประติมากรรม, การพิมพ์, สื่อ, สิ่งทอ, การตกแต่งภายใน, สถาปัตยกรรมภายใน, กระจกสีและอื่น ๆ มีหลักสูตรมหาวิทยาลัยในด้านการออกแบบ (การออกแบบสิ่งทอ, การออกแบบภายใน, ศิลปะและการออกแบบสาธารณะ) ที่สามารถสำเร็จได้ใน 2 ปี

  • "โรงเรียนสอนศิลปะวิมเบิลดัน"

โรงเรียนลอนดอนตะวันตกเฉียงใต้มุ่งเน้นไปที่ศิลปะการแสดงและการแสดงละคร เป็นที่ทราบกันดีว่ามีการฝึกอบรมเฉพาะทางและโรงละครไซต์รวมถึงความสามารถในการจัดพื้นที่ในสตูดิโอที่ใหญ่กว่าเมืองอื่น ๆ ควบคู่ไปกับพื้นที่สีเขียวที่กว้างขวาง โรงเรียนได้ให้ความสำคัญกับศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากมายอาทิ Yinka Shonibare, Peter Doig และ Tony Cragg ซึ่งต่อมากลายเป็นวิทยาลัยศิลปะแห่งหนึ่งในหกของมหาวิทยาลัยลอนดอนตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 เป็นวิทยาลัยที่นักศึกษาลงทะเบียนจากทั่วโลกด้วยความช่วยเหลือของผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและการละครได้พัฒนางานศิลปะของตนเอง แผนกวิจิตรศิลป์เสนอโปรแกรมที่เชี่ยวชาญในทักษะการผลิตที่มีคุณภาพสูงและทฤษฎีศิลปะและแผนกละครเริ่มจากหลักสูตรระดับปริญญาตรีถึงบัณฑิตวิทยาลัยในสาขาศิลปะการแสดง

  • "วิทยาลัยศิลปะแคมเบอร์เวลล์"

(Camberwell College of Arts) เป็นศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์ของ Peckham Road และเป็นเพื่อนบ้านของ South London Art Gallery มีหลักสูตรระดับปริญญาตรีที่จัดตั้งขึ้นในด้านการวาดภาพประกอบการออกแบบกราฟิกและประติมากรรม (เพื่อชื่อไม่กี่) รวมทั้งหลักสูตรปริญญาโทที่ครอบคลุม Itl ได้ต่อสู้กับข้อ จำกัด ของพื้นที่เป็นเวลาหลายปีซึ่งจะบรรเทาโดยโฮสต์ของอาคารใหม่สำหรับปีการศึกษานี้ การปรับปรุงจะรวมช่องว่างในสตูดิโอจำนวนมากขึ้นและพื้นที่ที่พักนักเรียนที่พักใหม่อาร์ตแกลเลอรี่และโรงละครบรรยาย และหลักสูตรเฉพาะทางที่หลากหลายเพื่อเรียนรู้พื้นฐานของศิลปะและการออกแบบจากทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เรามีหลักสูตรระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรีและหลักสูตรพื้นฐานเช่นเครื่องเงิน, ประติมากรรม, เครื่องปั้นดินเผา, กราฟิก, ประวัติศาสตร์ศิลปะ, การฟื้นฟูและอื่น

  • "'วิทยาลัยการสื่อสารแห่งลอนดอน"

ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้อาศัยอยู่ในสถานที่อันงดงามที่สุด (ในหอหอคอยด้านขวาของวงเวียนช้างและวงเวียนใหญ่ของปราสาท) วิทยาลัยนี้ยังคงรักษาสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์ท่ามกลางหลักสูตรศิลปะที่หลากหลาย เคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ London College of Printing ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ภาพและสตูดิโอเย็บเล่มที่มีขนาดใหญ่ แต่ชื่อใหม่นี้สะท้อนถึงหลักสูตรสื่อต่างๆในด้านการถ่ายภาพการสื่อสารมวลชนและการโฆษณา ที่นี่เจฟเฟอร์สันสับและ Rankin ก่อตั้งนิตยสาร Dazed and Confused ขึ้นพร้อมกับผู้สำเร็จการศึกษาล่าสุดรวมทั้งช่างภาพ Juno Calypso ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ วิทยาลัยยังเป็นเจ้าภาพคลังสแตนเลย์ Kubrick ในสถานที่ขนาดมหึมายาว 800 เมตรซึ่งถูกซ่อนไว้อย่างเหมาะสมหลังประตูกระจกที่มีน้ำค้างแข็งลึกลับ

วิทยาลัยการสื่อสารลอนดอน เป็นวิทยาลัยที่มีการจัดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการสื่อสารระดับสูงการออกอากาศและสื่อในสหราชอาณาจักร หลักสูตรมีตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับบัณฑิตศึกษาเช่นภาพยนตร์การถ่ายภาพการพิมพ์การเผยแพร่วารสารศาสตร์กราฟิกการโฆษณาการขาย ฯลฯ จนถึงปัจจุบันเขาได้ส่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ทำงานอยู่แถวหน้าของโลก

  • "วิทยาลัยแฟชั่นลอนดอน" (London College of Fashion)

เป็นวิทยาลัยแฟชั่นแห่งเดียวในสหราชอาณาจักร นอกเหนือจากการผลิตแฟชั่นแล้วเธอยังมีหลักสูตรแฟชั่นมากมายเช่นธุรกิจแฟชั่นการตลาดและการขายสื่อการส่งเสริมการขายการทำผมและแต่งหน้าและการเสริมความงาม

ระบบการเรียนการสอน[แก้]

  • เซ็นทรัลเซนต์มาร์ติน (Central Saint Martins หรือ CSM) เป็นสถาบันการออกแบบระดับโลกที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะด้านแฟชั่นดีไซน์ CSM มีหลักสูตรด้าน Art and Design หลายแขนง เช่น Architecture, Product Design, Fine Art, Graphic Communication Design, Jewellery Design และ Material Futures เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังมีคอร์สที่แปลกแหวกแนวอย่างคอร์ส Applied Imagination in the Creative Industries ซึ่งเป็นวิชาที่ผลักดันให้เราคิดนอกกรอบ และตรวจสอบความคิดนั้นด้วยทฤษฎีแห่งความจริง อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ CSM เป็นที่หมายปองของเหล่านักเรียน ย่อมมาจากความสำเร็จที่โดดเด่นของศิษย์เก่าที่ล้วนแต่เป็นผู้นำในตลาดศิลปะและการออกแบบ ซึ่งจะเห็นได้จากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Alexander McQueen, Apple, Burberry, The Guardian newspaper, IDEO, Lego, Vogue magazine และ Zaha Hadid Architects เป็นต้น
  • วิทยาลัยการสื่อสารแห่งลอนดอน (LONDON COLLEGE OF COMMUNICATION หรือ LCC) เป็นผู้นำการศึกษาระดับโลกด้านการออกแบบและการสื่อสารมวลชน (Creative Communications) หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ LCC เป็นสถาบันที่รวมศาสตร์แห่งนิเทศฯไว้นั่นเอง โดยมีคอร์สที่หลากหลายกว่า 50 คอร์สที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับยุค Digital ณ ปัจจุบัน อย่างการสร้างภาพยนตร์หรือการออกแบบเกม (Game Design) สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ เทคนิคด้าน Special Effect และภาพเสมือนจริง ซึ่งหาเรียนได้ในคอร์ส Visual Reality และ Visual Effects ส่วนอีกคอร์สที่กำลังมาแรงและเป็นที่ต้องการของตลาดงาน อย่างคอร์ส User Experience Design ก็มีอยู่ที่นี่เช่นกัน ส่วนการเรียนการสอนของ LCC เน้นการลงมือทำจริง เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่ ในการเตรียมความพร้อมสู่บริษัทใหญ่ๆ เช่น Ladybird Books, the National Trust, Nike, Nokia และ Urban Outfitters เป็นต้น แต่เนื่องจากสายงานทางด้านสื่อสารมวลชนได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว LCC จึงเน้นพัฒนาให้นักเรียนใช้ความคิดสร้างสรรค์และพยายามพัฒนาหลักสูตรให้ก้าวหน้าเสมอเพื่อที่นักเรียนจะได้มีความพร้อมในการประกอบอาชีพLCC จะเน้นให้นักเรียนเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติงาน นักเรียนจะมีโอกาสในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และลงมือทำงานในสตูดิโอที่เตรียมอุปกรณ์ไว้ครบครัน โดยสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์จะมีสตูดิโอสำหรับถ่ายภาพหรือถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ห้องมืด ห้องจัดแสดงภาพ ห้องถ่ายทอดสด สตูดิโอสำหรับการพิมพ์และห้องสื่อข่าว
  • วิทยาลัยศิลปศาสตร์เชลซี (Chelsea College of Arts) มี Interior ให้เรียน ด้วยคอร์สที่ผสมผสานระหว่าง Architecture และ Interior ควบรวมกับ Product Design ซึ่งทำให้สามารถประยุกต์ไปใช้ทั้งการออกแบบตกแต่งภายใน, การตกแต่งหน้าร้านและการจัดพื้นที่ใช้งานให้ลงตัว ส่วนอีกคอร์สที่น่าจะเป็นที่ถูกตาต้องใจของคนที่รักสิ่งทอ การปัก ถัก ทอ พิมพ์ และย้อมผ้าก็คือ Textile Design ซึ่งที่นี่มีเครื่องมือที่ทันสมัยให้นักเรียนได้ใช้ workshop กัน ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้จะจัดพื้นที่การเรียนการสอนให้เป็นพื้นที่เอื้ออำนวยและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในตัวนักเรียนเพื่อให้นักเรียนได้ค้นพบและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในตัวเองและสร้างผลงานแปลกใหม่ออกมา วิทยาลัยนี้ได้ชื่อว่าเป็นวิทยาลัยที่โด่งดังที่สุดของลอนดอนในด้านศิลปะและการออกแบบ โดยมีนักเรียนมากกว่า 1,400 คนเข้ามาเรียนด้านวิจิตรศิลป์ กราฟิกดีไซน์ การออกแบบตกแต่งที่ว่างภายใน และการออกแบบลายผ้า ซึ่ง Chelsea ไม่น้อยหน้าไปกว่าแคมปัสอื่นเลย อีกคอร์สที่น่าสนใจของ Chelsea นั่นก็คือ Curating and Collections ซึ่งเป็นคอร์สสำหรับผู้ที่ต้องการจะเป็น ภัณฑารักษ์ หรือผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์นั่นเอง ทั้งนี้นักเรียนของ Chelsea อาจมีโอกาสจะได้ฝึกงานร่วมกับบริษัทดัง ๆ เช่น Google, Discovery Channel, H&M, Hilton London, Penguin Randon House and Sky Arts นอกจากนี้ ทางวิทยาลัยยังมีชื่อเสียงระดับโลกจากการผลิตศิลปินและนักออกแบบแนวหน้าของโลก รวมถึงมีศิษย์เก่าที่ชนะรางวัล Turner Prize ไม่ว่าจะเป็น Haroon Mirza, Chris Ofili and Peter Doig, Tatty Devine ผู้ก่อตั้ง Harriet Vine MBE และ Rosie Wolfenden MBE
  • วิทยาลัยแฟชั่นลอนดอน (London College of Fashion หรือ LCF) เป็นสถาบันที่รวมศาสตร์แห่งแฟชั่นทุกแขนงไว้ที่เดียว กว่า 70 คอร์ส ที่นี่เน้นการเรียนการสอนแบบผสมผสานแฟชั่นเข้ากับวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยมีคอร์สหลักๆ 3 แขนง คือ Fashion Design, Fashion Media และ Fashion Business ซึ่งทาง LCF มองคำว่า “Fashion” ลึกลงไปมากกว่าการออกแบบเสื้อผ้าอาภรณ์ โดยที่นี่ยังมีคอร์สอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายที่เกี่ยวโยงกับ Fashion ไม่ว่าจะเป็น Fashion Illustration, Fashion Photography, Fashion Management, Fashion Curation, Fashion Futures หรือจะคอร์ส Cosmetic Science ซึ่งเป็นคอร์สที่สรรสร้างมาเพื่อคนที่สนใจด้านเครื่องสำอางโดยเฉพาะแต่เนื่องจาก London College of Fashion ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงและความทันสมัยในด้านการออกแบบอยู่เสมอ London College of Fashion จึงเป็นวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับต้นๆของโลกที่เปิดหลักสูตรสอนด้านแฟชัน การวิจัยและการให้คำปรึกษา โดยวิทยาลัยแห่งนี้จะเน้นการพัฒนาความคิดของนักเรียน ทาง LCF ยังสนับสนุนให้นักศึกษาได้ฝึกงานกับบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศอังกฤษ และประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Balenciaga Paris, Louis Vuitton Paris, Phillip Lim New York, Alexander Wang New York, Tommy Hilfiger Amsterdam, Adidas Germany, DKNY New York และอีกมากมาย
  • วิทยาลัยศิลปะแคมเบอร์เวลล์ (Camberwell College of Arts) เป็นสถาบันที่ความโดดเด่นทางด้านการออกแบบ โดยเฉพาะด้าน Design, Visual Arts และ Fine Art Digital ซึ่งถือเป็นการฉีกกฎเกณฑ์การเรียนแบบเดิมๆ ที่ทำให้ผู้เรียนได้ค้นพบการสร้างสรรค์ที่ผสมผสานระหว่างงาน Digital และงาน Hand made เข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ทางสถาบันยังมีห้องปฏิบัติการ (Workshop) ทางด้าน Digital Media, 3D workshop, Photography และ Printmaking ให้นักเรียนได้ใช้งานจริงและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนฝึกฝีมือร่วมกับศิลปิน ดีไซเนอร์ และผู้ผลิตผลงานชั้นแนวหน้าของสาขาวิชานั้นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้เรียนในสายงานสร้างสรรค์ที่อยากทำ ทั้งสตูดิโอออกแบบ Pentagram, V&A Museum, Wellcome Trust, Nike, National Theatre รวมไปถึงสายงานแฟชั่นอย่าง Alexander McQueen
  • โรงเรียนสอนศิลปะวิมเบิลดัน (Wimbledon College of Arts) เป็นสถาบันมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ มีความโดดเด่นและดีที่สุดในด้าน Theatre and Screen Design ของประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะคอร์ส Theatre Design และ Production Arts for Screen ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อคนที่หลงเสน่ห์ของละครเวที ชอบทำงาน Special Effect และการจัดทำฉาก และเมื่อฉากพร้อมแล้ว เครื่องแต่งกายก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เวทีออกมาครบสมบูรณ์ นั่นคือคอร์ส Costume for Theatre and Screen เพื่อผลักดันให้นักเรียนได้ไปเป็นศิลปินและดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ในอนาคต โดยนักเรียนที่จบคอร์ส อาจมีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทชั้นนำ อาทิเช่น Madame Tussauds, the Royal Opera House และ Windsor Castle เป็นต้น

การจัดอันดับ[แก้]

  • ได้รับการการันตีคุณภาพการสอนด้านศิลปะแขนงต่าง ๆ จาก QS World Ranking ให้เป็นอันดับ 6 ของโลก
  • อันดับที่ 94 โดย Times University Guide ประจำปี 2019
  • อันดับที่ 75 โดย Guardian University Guide ประจำปี 2019

รางวัล[แก้]

UAL ถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 6 ของโลกสำหรับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทางด้าน Art and Design ซึ่งมีผู้ที่จบการศึกษาที่ UAL ได้รับรางวัล Oscar และ BAFTA ถึง 48 รางวัล อีกทั้งผู้เข้าสมัครชิงรางวัล Turner Prize ในปี 2015 และครึ่งหนึ่งของผู้ชนะรางวัล Turner Prize ซึ่งเป็นรางวัลประจำปี ที่มอบให้แก่ศิลปินอังกฤษที่จัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์ Tate ก็จบจากสถาบันแห่งนี้

ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง[แก้]

  • ผู้ชนะรางวัล Turner prize 13 คน และผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล 33 คน และเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ผู้ได้รับรางวัล British Designer of the Year 10 คน ทุกคนต่างจบจากวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน
  • ผู้ชนะรางวัล Jerwood Photography 12 คน ที่มีผลงานเด่นซึ่งเกี่ยวข้องกับ BAFTAs และ Oscars
  • องเหม่ยหลิง อดีตนักแสดงหญิงชื่อดังผู้ล่วงลับชาวฮ่องกง ที่โด่งดังจากบท อึ้งย้ง ในละครกำลังภายในเรื่อง มังกรหยก เวอร์ชันปีพ.ศ. 2526 โดยเธอจบสาขาแฟชั่นและการออกแบบสิ่งทอ (Fashion and Textile Design) ที่ "'สถาบันสอนการออกแบบ เซ็นทรัลสคูล ออฟ อาร์ท แอนด์ดีไซน์" ที่ต่อมาได้รวมเข้ากับสถาบัน "เซ็นทรัล เซนต์มาร์ติน" (Central St Martins) ของ มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งกรุงลอนดอน ที่ประเทศอังกฤษ

อ้างอิง[แก้]

  1. "ข้อมูลของมหาวิทยาลัย 2005/06". Higher Education Statistics Agency online statistics. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-05-31. สืบค้นเมื่อ 2019-07-14.
  2. "UAL Abbreviation". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-05. สืบค้นเมื่อ 2019-07-14.
  3. "ระดับการศึกษา". The Guardian online statistics. สืบค้นเมื่อ 2019-07-14.
  4. "มหาวิทยาลัยศิลปกรแห่งลอนดอน". QS. สืบค้นเมื่อ 2019-07-14.

แหล่งข้อมูล[แก้]