มาร์โกส เปเรซ ฮิเมเนซ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Marcos Pérez Jiménez)
มาร์โกส เปเรซ ฮิเมเนซ
ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา
ดำรงตำแหน่ง
2 ธันวาคม พ.ศ. 2495 – 23 มกราคม พ.ศ. 2501
รักษาการ: 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2495 – 19 เมษายน พ.ศ. 2496
ก่อนหน้าเยอรมัน ซูซาเลส ฟลาเมริช
ถัดไปวูล์ฟกัง ลาร์ราซาบัล
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด
มาร์โกส อีวานเกลิสตา เปเรซ ฮิเมเนซ

25 เมษายน พ.ศ. 2457
รัฐตาชีรา, ประเทศเวเนซุเอลา
เสียชีวิต20 กันยายน พ.ศ. 2544 (87 ปี)
อาร์โกเบนดัส, ประเทศสเปน
เชื้อชาติเวเนซุเอลา
คู่สมรสฟลอ แมเรีย ชาลบูธ
บุตร5
ศิษย์เก่าสถาบันเตรียมทหารแห่งเวเนซุเอลา
อาชีพนักการเมือง
วิชาชีพทหาร
ลายมือชื่อ
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ เวเนซุเอลา
สังกัดกองทัพเวเนซุเอลา
ประจำการ2474–2501
ยศ พลเอก

มาร์โกส อีวานเกลิสตา เปเรซ ฮิเมเนซ (สเปน: Marcos Evangelista Pérez Jiménez) เป็นผู้เผด็จการและอดีตประธานาธิบดีของประเทศเวเนซุเอลา เขาเข้าสู่อำนาจจากการรัฐประหารใน พ.ศ. 2491 เป็นผู้นำประเทศในฐานะหัวหน้าคณะรัฐประหารใน พ.ศ. 2490 – พ.ศ. 2495 และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีใน พ.ศ. 2495 – พ.ศ. 2501 โดยมีการเลือกตั้งใน พ.ศ. 2492 ปรากฎว่าพรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งจึงทำให้การเลือกตั้งนี้เป็นโมฆะและเปเรซได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีในปี พ.ศ. 2496 และได้ยกเลิกรัฐธรมนูญเดิมและประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ซึ่งให้อำนาจเผด็จการแก่เขา[1]

ภายใต้การปกครองของเปเรซ เวเนซุเอลาเริ่มร่ำรวยจากการส่งออกน้ำมัน ทำให้รายได้ทั้งหมดนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศและโครงการต่างๆ ที่เขาได้สร้างขึ้น รวมถึงการสร้างถนน สะพาน สถานที่ราชการ และสถานที่สาธารณะเพิ่มขึ้นมาและกระจายได้ทั่วถึง ทั้งนี้อุตสาหกรรมต่างๆ ภายในประเทศทั้งไฟฟ้า เหมืองแร่ โรงงานเหล็กและโรงงานต่างๆ ได้พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว[2][3][4] ส่งผลให้สมัยของเปเรซนั้นเจริญเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี เปเรซถูกวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะผู้เผด็จการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และเป็นผู้นำที่เผด็จการที่สุดในละตินอเมริกา[5] ทั้งนี้เขายังมีหน่วยตำรวจลับที่ชื่อ Dirección de Seguridad Nacional (DSN) ซึ่งเป็นหน่วยความมั่นคงของรัฐบาลได้จับผู้ที่วิจารณ์การบริหารงานของเขาและปราบปรามผู้ที่เห็นต่างจากเขา เพื่อพยายามรักษาอำนาจของเขาต่อไป ทั้งนี้รัฐบาลของเปเรซได้ต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างเข้มข้นอีกด้วย[6][7]

หลังการประท้วงครั้งใหญ่ในเวเนซุเอลาที่ต้องการประชาธิปไตย เปเรซได้หมดอำนาจลงหลังจากการรัฐประหารในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2501[8][9] หลังจากนั้นเขาได้ลี้ภัยไปยังสาธารณรัฐโดมินิกัน ก่อนที่จะเดินทางไปลี้ภัยที่ไมอามี สหรัฐ และสุดท้ายเขาก็ได้ตั้งถิ่นฐานและอาศัยอยู่ที่ประเทศสเปนซึ่งขณะนั้นสเปนปกครองโดยฟรันซิสโก ฟรังโก และเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศสเปนเรื่อยมาจนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2544 ที่อัลโกเบนดัส แคว้นมาดริด ประเทศสเปน ด้วยวัย 87 ปี[10]

ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา[แก้]

เปเรซเกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2457 ที่ มิเชเลนา รัฐตาชีรา เป็นบุตรของฆวน เปเรซ ซูตามันเต และอเดลา ฮิเมเนซ บิดาของเขาเป็นเกษตรกร ส่วนมารดาของเขาเป็นครู เขาเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนในบ้านเกิดของเขาและได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศโคลอมเบีย และใน พ.ศ. 2477 เขาได้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรของสถาบันเตรียมทหารแห่งเวเนซุเอลา โดยสอบได้ที่หนึ่งจากรุ่นเดียวกันกับเขา และสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารคอริลอส ประเทศเปรู

ชีวิตส่วนตัว[แก้]

เขาสมรสกับฟลอ แมเรีย ชาลบูธ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 ทั้งคู่มิธิดาด้วยกัน 5 คน[11]

รางวัลและเกียรติยศ[แก้]

เขาได้รับอิสริยาภรณ์ลีเจียนออฟเมอริต จากรัฐบาลสหรัฐเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2497[12][13]

อ้างอิง[แก้]

  1. Hollis Micheal Tarver Denova, Julia C. Frederick (2005), The history of Venezuela, Greenwood Publishing Group. p357
  2. Martínez Castill, บ.ก. (มิถุนายน 2563). La intervención del Estado venezolano en la economía 1936-2016: alcances y límites (PDF). redalyc.org. ISBN 1315-2467. สืบค้นเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2563. {{cite book}}: ตรวจสอบค่า |isbn=: length (help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  3. Penélope, Plaza, บ.ก. (กันยายน 2551). La construcción de una nación bajo el Nuevo Ideal Nacional. Obras públicas, ideología y representación durante la dictadura de Pérez Jiménez (PDF). Universidad Central de Venezuela. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2563. {{cite book}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  4. Gerardo, Lucas, บ.ก. (กรกฎาคม 2551). Industralización contemporánea en Venezuela (PDF). UCAB. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2563. {{cite book}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  5. "The Extradition of Marcos Perez Jimenez, 1959–63: Practical Precedent for Administrative Honesty?", Judith Ewell, Journal of Latin American Studies, 9, 2, 291–313, [1]
  6. Time, 23 August 1963, as cited in John Gunther, Inside South America, pp. 492–493
  7. Magallanes, Manuel Vicente (1873). Los partidos políticos en la evolución histórica venezolana. Mediterráneo.
  8. Holzer, Harold (2004). "Introduction". ใน Cuomo, Mario; Holzer, Harold (บ.ก.). Lincoln on Democracy. New York: Fordham University Press. p. xliv. ISBN 0823223450.
  9. Beyer, Rick (29 March 2011). "The Symphony That Helped Sink a Dictator". Astonish, Bewilder and Stupefy. สืบค้นเมื่อ 24 April 2017.
  10. Marcos Perez Jimenez Dies at 87
  11. "Benevolent Dictator Finally Loses Post". The Wilmington News. Vol. 24 no. 9. Wilmington, North Carolina. AP. 23 January 1958. p. 26. สืบค้นเมื่อ 4 May 2015.
  12. Office of the Historian, บ.ก. (19 January 1955). "Progress Report by the Operations Coordinating Board to the National Security Council". FRUS.
  13. "Marcos Perez Jimenez – Legion of Merit". valor.militarytimes.com.