จอร์จ มาร์แชลล์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก George Marshall)
จอร์จ ซี. มาร์แชลล์ จูเนียร์
George C. Marshall Jr.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ
ดำรงตำแหน่ง
21 กันยายน 1950 – 12 กันยายน 1951
ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมน
รองสตีเฟน เอิร์ลลี
รอเบิร์ต เอ. ลอเวตต์
ก่อนหน้าหลุยส์ เอ. จอห์นสัน
ถัดไปรอเบิร์ต เอ. ลอเวตต์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ดำรงตำแหน่ง
21 มกราคม 1947 – 20 มกราคม 1949
ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมน
รองดีน แอชสัน
รอเบิร์ต เอ. ลอเวตต์
ก่อนหน้าเจมส์ เอฟ. เบิร์นส์
ถัดไปดีน แอชสัน
ทูตพิเศษสหรัฐประจำสาธารณรัฐจีน
ดำรงตำแหน่ง
20 ธันวาคม 1945 – 6 มกราคม 1947
ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมน
ก่อนหน้าเป็นผู้เริ่มตำแหน่ง
ถัดไปตำแหน่งถูกยุบเลิก
เสนาธิการทหารบกสหรัฐ
ดำรงตำแหน่ง
1 กันยายน 1939 – 18 พฤศจิกายน​ 1945
ประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์
แฮร์รี เอส. ทรูแมน
ก่อนหน้ามาลิน เคร็ก
ถัดไปดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด
จอร์จ แคตเลตต์ มาร์แชลล์ จูเนียร์

31 ธันวาคม ค.ศ. 1880(1880-12-31)
ยูเนียนทาวน์, รัฐเพนซิลเวเนีย, สหรัฐ
เสียชีวิต16 ตุลาคม ค.ศ. 1959(1959-10-16) (78 ปี)
วอชิงตัน ดี.ซี., สหรัฐ
พรรคการเมืองอิสระ[1]
คู่สมรสลิลี คาร์เตอร์ โคลส์ (1902-1927) ​
แคเธอรีน บอยซ์ ทัปเปอร์ บราวน์ (1930)
ที่อยู่อาศัยบ้านจอร์จ ซี มาร์แชลล์ ดอโดนา เมเนอร์
การศึกษาสถาบันการทหารเวอร์จิเนีย (วิทยาศาสตรบัณฑิต)
บำนาญรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
เหรียญทองของรัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกา
ลายมือชื่อ
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ สหรัฐ
สังกัด กองทัพบกสหรัฐ
ประจำการ1902–1959[2]
ยศจอมพล (General of the Army)
ผ่านศึกสงครามฟิลิปปินส์ - อเมริกา
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกครั้งที่สอง
สงครามกลางเมืองจีน
สงครามเย็น
สงครามเกาหลี
บำเหน็จเหรียญผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกสหรัฐ (2)
ซิลเวอร์สตาร์

จอมพล จอร์จ แคตเลตต์ มาร์แชลล์ จูเนียร์ (อังกฤษ: George Catlett Marshall Jr.) เป็นนายทหารสังกัดกองทัพบกสหรัฐ มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะเป็นผู้นำชัยชนะมาสู่กองทัพสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อมาเขาได้และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และเป็นผู้ริเริ่มแผนมาร์แชลล์ในการฟื้นฟูทวีปยุโรปซึ่งบอบช้ำจากสงคราม

ประวัติ[แก้]

เขาเกิดที่เมืองยูเนียนทาวน์ รัฐเพนซิลเวเนีย ได้รับการศึกษาจากสถาบันการทหารเวอร์จิเนียและเข้าเป็นทหารทันทีที่จบการศึกษา

ต่อมาได้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในบังคับบัญชาของนายพลจอห์น เพอร์ชิง และร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สอง เขามีความก้าวหน้าจนเป็นเสนาธิการทหารบกสหรัฐ และได้รับยศทหารชั้นจอมพล ซึ่งตั้งหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และเกษียณจากกองทัพเมื่อปี 1945 หลังจากนั้นอีกสองปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศในปี 1947

จอมพลมาร์แชลล์เป็นผู้วางแผนฟื้นฟูยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปว่า “แผนมาร์แชลล์” (Marshall Plan) จากบทบาทในแผนฟื้นฟูยุโรป ทำให้จอมพลมาร์แชลล์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 1953 เป็นนายทหารชาวอเมริกันคนเดียวที่เคยได้รับรางวัลนี้

ได้มีการก่อตั้ง “มูลนิธิจอร์จ ซี. มาร์แชลล์” ขึ้นที่สถาบันการทหารเวอร์จิเนียเพื่อเป็นเกียรติแก่นายพลจอร์จ มาร์แชลล์ นอกจากนี้ยังได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์อัศวินชั้นสูงสุด (Knight or Dame Grand Cross - GCB) จากสหราชอาณาจักร

อ้างอิง[แก้]

  1. Marshall Papers Pentagon Office Selected Correspondence Box 69 Folder 18 George C. Marshall Foundation
  2. U.S. officers holding five-star rank never retire; they draw full active duty pay for life.Spencer C. Tucker (2011). The Encyclopedia of the Vietnam War: A Political, Social, and Military History. ABC-CLIO. p. 1685. ISBN 978-1-85109-961-0.
ก่อนหน้า จอร์จ มาร์แชลล์ ถัดไป
โจเซฟ สตาลิน บุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์
(พ.ศ. 2486)
ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์
เจมส์ เอฟ. เบิร์นส บุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์
(พ.ศ. 2490)
แฮร์รี เอส. ทรูแมน
อัลเบิร์ต ชไวทเซอร์
รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
(พ.ศ. 2496)
ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
(UNHCR)