ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Fist of the North Star)
ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ
ไฟล์:Fist of the North Star.jpg
北斗の拳
ชื่อภาษาอังกฤษFist of the North Star
แนวต่อสู้, ผจญภัย, ดราม่า, ไซไฟ
มังงะ
เขียนโดยบุรอนซอน (เรื่อง)
เท็ตสึโอะ ฮาร่า (ภาพ)
สำนักพิมพ์ญี่ปุ่น ชูเอฉะ
ไทย วิบูลย์กิจ
อนิเมะ
กำกับโดยโทโยโอะ อาชิดะ
สตูดิโอโตเอแอนิเมชัน

ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ (ญี่ปุ่น: 北斗の拳โรมาจิHokuto no Ken; อังกฤษ: Fist of the North Star) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวต่อสู้ แต่งเนื้อเรื่องโดย บุรอนซอน และวาดภาพโดย เท็ตสึโอะ ฮาร่า ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ปี พ.ศ. 2526-2531 ฉบับรวมเล่มมีทั้งหมด 27 เล่มจบ ต่อมาได้ถูกสร้างเป็นอนิเมะ เกม โอวีเอ รวมถึงภาพยนตร์จอเงิน (ทั้งแบบใช้คนแสดง และแบบอนิเมะ) เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่ 3 ในปี ค.ศ. 199X ซึ่งทำให้โลกกลับคืนสู่ยุคเข็ญและความป่าเถื่อน มีเพียง เคนชิโร่ บุรุษผู้มีรอยแผลเป็นรูปดาวเหนือ 7 แห่งบนหน้าอกเท่านั้นที่จะสามารถกอบกู้โลกได้ ด้วย "หมัดอุดรเทวะ" เพลงหมัดที่สามารถทะลวงจุดตายของคู่ต่อสู้ ส่งผลให้อวัยวะภายในแหลกเหลว และร่างกายระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ได้ในพริบตา

ในปี พ.ศ. 2538 ทางฮอลลีวู้ดได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง "Fist of the Northern Star" โดยนำเค้าโครงมาจากการ์ตูนเรื่องนี้ด้วย[1]

การตีพิมพ์ในประเทศไทย[แก้]

สมัยที่ยังไม่มีลิขสิทธิ์ การ์ตูนเรื่องนี้เคยได้รับการจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์หลายเจ้าด้วยกัน จึงมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป คือ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ กับ ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ แต่ในภายหลัง สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ ก็เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ตีพิมพ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และใช้ชื่อเรื่องภาษาไทยว่า "ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ" โดยในช่วงแรก สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ เคยตีพิมพ์ ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ ในรูปแบบของหนังสือการ์ตูนปกแข็ง ซึ่งมีความหนามากกว่าหนังสือการ์ตูนทั่วไป (กำหนดไว้ 15 เล่มจบ) และมีราคาค่อนข้างสูง ทว่าเมื่อได้ตีพิมพ์ออกมาถึงเล่มที่ 9 เศรษฐกิจภายในประเทศก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ทางสำนักพิมพ์ต้องหยุดตีพิมพ์ไปชั่วคราว ต่อมาเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ทางสำนักพิมพ์ก็คิดจะตีพิมพ์ต่อ แต่เนื่องจากต้นทุนในการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ตัวหนังสือมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ทางสำนักพิมพ์จึงตัดสินใจไม่ตีพิมพ์ต่อ เนื่องจากเกรงว่านักอ่านจะไม่มีกำลังซื้อพอ และเปลี่ยนมาตีพิมพ์แบบหนังสือการ์ตูนขนาดปกติ 27 เล่มจบในที่สุด[2]

โครงเรื่อง[แก้]

สงครามนิวเคลียร์ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกในช่วงทศวรรษ 1990 ได้ทำลายล้างอารยธรรมส่วนใหญ่ไปเกือบหมดสิ้นและเปลี่ยนโลกให้อยู่ในสภาพทะเลทรายอันรกร้าง มนุษย์ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงอาหารและน้ำเท่าที่จะหามาประทังชีวิตได้ คนอ่อนแอตกเป็นเหยื่อของคนเข้มแข็ง โลกได้กลับไปสู่ยุคแห่งความป่าเถื่อนอีกครั้ง บุคคลผู้เป็นศูนย์กลางของเรื่องนี้คือ "เค็นชิโร่" ผู้สืบทอดเพลงหมัดอุดรเทวะ วิทยายุทธ์ลอบสังหารจากประเทศจีนยุคโบราณซึ่งฝึกฝนให้ผู้ใช้วิชาสามารถทำลายชีวิตของคู่ต่อสู้จากภายในร่างกายด้วยการสกัดจุดชีพจรลับ เค็นชิโร่ปรารถนาจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเท่าที่จะทำได้ แต่เมื่อยูเรีย คู่รักของเขาถูกเพื่อนผู้เป็นคู่แข่งคนหนึ่งช่วงชิงไป ซ้ำตัวเค็นชิโร่เองยังถูกทำร้ายถึงปางตายด้วยการสกัดจุดให้เป็นรอยแผลรูปเจ็ดดาวเหนือบนหน้าอก เขาจึงออกเดินทางเพื่อชิงตัวคนรักกลับคืนมา การเดินทางดังกล่าวได้ทำให้เขากลายเป็นผู้ปลดปล่อยแห่งยุคหลังวันสิ้นโลก เพราะตลอดการเดินทางนั้นเขาคอยช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์และปกป้องคนอ่อนแอจากบรรดาคนชั่วกลุ่มต่างๆ เขาได้พบกับแบต หัวขโมยรุ่นเด็ก และริน เด็กหญิงกำพร้าในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเลือกจะติดตามเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับเค็นชิโร่ และจะได้เป็นพยานในการต่อสู้ครั้งสำคัญของเขาหลายต่อหลายครั้ง

เค็นชิโร่ได้ประมือกับจอมยุทธ์มากมาย ซึ่งรวมถึงหกผู้สืบทอดแห่งเพลงหมัดศักดิ์สิทธิ์ดาวใต้และบรรดาศิษย์พี่ร่วมสำนักเดียวกันซึ่งเข้ามาท้าประลองเพื่อช่วงชิงความเป็นผู้สืบทอดเพลงหมัดอุดรเทวะไปจากเขา ฝันร้ายของเขาลงเอยด้วยการปะทะกับราโอ ศิษย์พี่ใหญ่ผู้ทำลายกฏของเพลงหมัดอุดรเทวะด้วยการสังหารอาจารย์ริวเค็น ผู้ซึ่งเป็นทั้งอาจารย์และพ่อบุญธรรม รวมทั้งปฏิเสธที่จะยอมรับเค็นชิโร่ในฐานะผู้สืบทอดเพลงหมัดอุดรเทวะอีกด้วย ราโอได้ตั้งตนเป็นขุนศึกภายใต้สมญานาม "เจ้าแห่งหมัด" และพยายามยึดครองโลกโดยการท้าประลองกับบรรดาจอมยุทธ์ทุกคนที่เขาเห็นว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อตนเอง หลังจากการต่อสู้อันยืดเยื้อยาวนาน เคนชิโร่สามารถเอาชนะราโอได้ สันติสุขดูเหมือนว่าจะกลับคืนมาสู่โลกอีกครั้ง

หลายปีต่อมา จักรวรรดิอันชั่วร้ายในนามจักรวรรดิสวรรค์ได้ก้าวขึ้นมามีอำนาจปกครองผู้คน และใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงบรรดาผู้ต่อต้านอย่างเหี้ยมโหด เค็นชิโร่ได้ร่วมมือกับแบ็ตและรินซึ่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเข้าต่อสู้ปลดปล่อยผู้คนจากจักรวรรดิดังกล่าวในนามกองทัพดาวเหนือ ท่ามกลางการต่อสู้เพื่อมุ่งสู่นครหลวงของจักรวรรดิ พวกเขาได้พบว่าแท้จริงแล้วอำนาจของจักรพรรดิตกอยู่ในมือของผู้สำเร็จราชการจาโค ซึ่งได้กักขังจักรพรรดิตัวจริงไว้ในคุกใต้ดินและแอบอ้างอำนาจของจักรพรรดิเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนมาโดยตลอด กองทัพดาวเหนือปลดปล่อยจักรพรรดิได้สำเร็จ ทั้งยังได้ทราบความจริงว่าองค์จักรพรรดินั้นเป็นพี่สาวฝาแฝดแท้ๆ ของริน ซึ่งพลัดพรากจากกันไปตั้งแต่ครั้งยังเป็นทารก หลังจากนั้นไม่นานผู้สำเร็จราชการจาโคจึงถูกสำเร็จโทษตามความผิดที่ก่อไว้

ทว่า รินกลับถูกคนของจาโคที่ยังเหลืออยู่ลักพาตัวไปยังอาณาจักรอสุรา ดินแดนลึกลับซึ่งปกครองด้วยระบอบนักรบอันเหี้ยมโหดโดยสามเจ้าขุนพลผู้สำเร็จวิชาเพลงหมัดไพฑูรย์ดาวเหนือ วิทยายุทธ์ร่วมรากเหง้าเดียวกับเพลงหมัดอุดรเทวะซึ่งแตกแขนงออกไปในวิถีแห่งความมืด ไคโอ ประมุขของสามเจ้าขุนพลแห่งแดนอสุรา ได้วางแผนจะยึดครองโลกในนามของความชั่วร้ายโดยการลบล้างบรรดาผู้สืบทอดเพลงหมัดอุดรเทวะออกไปให้หมดสิ้น เคนชิโร่ได้ค้นพบพินัยกรรมที่ถูกปิดผนึกไว้ของชูเคน ผู้ให้กำเนิดเพลงหมัดอุดรเทวะ ซึ่งบรรจุเคล็ดวิชาลับที่ทำให้ผู้สืบทอดเพลงหมัดนี้สามารถก้าวข้ามท่าไม้ตายของไคโอได้ เคนชิโร่เอาชนะไคโอและช่วยรินออกมาได้สำเร็จ เขาฝากให้แบ็ตเป็นผู้ดูแลรินและออกเดินทางอีกครั้งเพื่อฝึกฝนริว ลูกชายคนเดียวของราโอ ให้เตรียมตัวเข้าสู่วิถีของผู้สืบทอดเพลงหมัดอุดรเทวะ ก่อนจะกลับมาปกป้องแบ็ตและรินจากศัตรูในอดีตเป็นครั้งสุดท้าย และออกเดินทางเยี่ยงคนพเนจรเพื่อช่วยเหลือผู้อ่อนแอต่อไป

อนิเมะ[แก้]

ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ ได้รับการสร้างเป็นอนิเมะ ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 19.00-19.30 น. ทางสถานีฟูจิทีวี โดยแบ่งเป็น 2 ภาคด้วยกัน ภาคแรกเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2527 ถึง 5 มีนาคม พ.ศ. 2530 (ความยาว 109 ตอน) ส่วนภาคสอง เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2530 ถึง 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 (ความยาว 43 ตอน)

ในประเทศไทย ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ เคยออกอากาศทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เมื่อราวๆ ปี พ.ศ. 2530 โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า "หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ" แต่จากภาพและเนื้อหาที่โหดร้ายปรากฏในเรื่อง ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า รุนแรงเกินไป สำหรับเด็กและเยาวชน ทางช่อง 9 จึงต้องถอนการ์ตูนชุดนี้ออกไป ต่อมาช่อง 9 ได้นำมาฉายจนจบประมาณปี 2538

และภายหลังใด้ทำเป็นภาคเรคเมค และ อีกเรื่องคือ souten no ken ใช้ชื่ออังกฤษคือ fist of blue sky ใช้ชื่อไทยว่า ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ เพลงหมัดฟ้าคำราม เป็นเรื่องราวของคาซุมิ เคนชิโร่ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดคนที่ 62 คนละคนกับเคนชิโร่ในภาคหลัก ซึ่งเป็นผู้สืบทอดคนที่ 66 โดยมีเนื้อเรื่องว่า เคนชิโร่ ใด้ถูกช่วยโดยมาเฟียจีน จากนั้นในเวลาต่อมา เขาใด้กลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่แล้วเขาใด้รู้ข่าวว่า แก็งมาเฟียที่เคยช่วยเขาไว้ใด้ถูกโค่นลง เขาจึงต้องกลับไปช่วย

รายชื่อตอน[แก้]

เพลงประกอบ[แก้]

ภาคแรก
  • เพลงเปิด (OP)
    • "ไอ โอะ โทริโมโดเซะ!!" (愛をとりもどせ!!) ขับร้องโดย คริสตัลคิง (ตอนที่ 1-82)
    • "SILENT SURVIVOR" ขับร้องโดย KODOMO BAND (ตอนที่ 83-109)
  • เพลงปิด (ED)
    • "ยูเรีย...เอเอ็น นิ" (ユリア…永遠に) ขับร้องโดย คริสตัลคิง (ตอนที่ 1-82)
    • "DRY YOUR TEARS" ขับร้องโดย KODOMO BAND (ตอนที่ 83-109)
ภาคสอง
  • เพลงเปิด (OP)
    • "TOUGH BOY" ขับร้องโดย TOM★CAT
  • เพลงปิด (ED)
    • "LOVE SONG" ขับร้องโดย TOM★CAT

K (เค)[แก้]

ในประเทศไทย ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ ถือเป็นจุดกำเนิดศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกประเภทของโดจินชิแบบเป็นภาษาพูดว่า K (บ้างก็เรียก พลัง K) โดยมาจากอักษรคำแรกของชื่อเคนชิโร่ในภาษาอังกฤษ (Kenshiro) ซึ่งเป็นแนวที่เอาตัวละครในเรื่องมาเขียนล้อเลียนโดยให้มีกล้ามและหน้าตาเหมือนกับตัวละครในเรื่องฤทธิ์หมัดดาวเหนือ (รวมถึงการล้อเลียนฉากต่อสู้และแผลเป็นรูปดาวเหนือ 7 แห่ง) ถ้าเป็นแนวการ์ตูนปกติ K จะมาจากคำว่า "คินนิคุ" (Kinniku) ที่แปลว่ากล้ามเนื้อ ซึ่งจะหมายถึงการ์ตูนที่ตัวละครเน้นกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่[ต้องการอ้างอิง]

อ้างอิง[แก้]

  1. Fist of the North Star (1995), imdb.com, เรียกข้อมูลเมื่อ 12 มี.ค. 2551
  2. คำบอกกล่าวจากคณะผู้จัดทำ, ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ ฉบับที่ 1, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, กุมภาพันธ์ 2542

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]