อาณาจักรอังวะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Ava Kingdom)
อาณาจักรอังวะ

အင်းဝခေတ်
ค.ศ. 1364–ค.ศ. 1555
อาณาจักรอังวะ ประมาณ ค.ศ. 1450
อาณาจักรอังวะ ประมาณ ค.ศ. 1450
สถานะอาณาจักร
รัฐบรรณาการของ รัฐฉาน (ค.ศ. 1527 – 1555)
เมืองหลวงซะไกง์, ปี้นยะ, อังวะ
ภาษาทั่วไปพม่า
ฉาน
ศาสนา
พุทธเถรวาท
การปกครองราชาธิปไตย
กษัตริย์ 
• ค.ศ. 1364–1367
พระเจ้าตะโดมินพญา
• ค.ศ. 1367–1400
พระเจ้าฝรั่งมังศรีชวา
• ค.ศ. 1400–1422
พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง
• ค.ศ. 1426–1439
พระเจ้าโม่ญี่นตะโด้
• ค.ศ. 1527–1542
พระเจ้าโตฮาน-บว่า
สภานิติบัญญัติลุตตอ
ประวัติศาสตร์ 
• สถาปนา
เมษายน ค.ศ. 1364
ค.ศ. 1385–1424
• ราชวงศ์โม่ญี่น
ค.ศ. 1426
• แยกตัวจากรัฐบรรณาการ
ค.ศ. 1480–1527
• ส่วนหนึ่งของรัฐฉาน
ค.ศ. 1527–1555
• ล่มสลาย
22 มกราคม ค.ศ. 1555
สกุลเงินจ๊าด
ก่อนหน้า
ถัดไป
อาณาจักรปี้นยะ
อาณาจักรซะไกง์
อาณาจักรตองอู
อาณาจักรแปร

อาณาจักรอังวะ (พม่า: အင်းဝခေတ်, ออกเสียง: [ʔɪ́ɰ̃.wa̰ kʰɪʔ]) อาณาจักรอิสระที่ปกครอง พม่าตอนบน ระหว่าง ค.ศ. 1364 ถึง 1555 สถาปนาเมื่อ ค.ศ. 1364 เป็นอาณาจักรที่สืบทอดจาก อาณาจักรมยีนไซ่ง์ อาณาจักรปี้นยะ และอาณาจักรซะไกง์ ที่ปกครองพม่าตอนกลางภายหลังจากการล่มสลายของ อาณาจักรพุกาม ในช่วงปลาย คริสต์ศตวรรษที่ 13

เช่นเดียวกันกับอาณาจักรเล็กๆ ก่อนหน้าบริเวณนั้น กษัตริย์อังวะซึ่งเป็นชาวพม่าและฉาน ล้วนกล่าวว่าตนสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์พุกาม[1][2]

ประวัติ[แก้]

อาณาจักรอังวะสถาปนาโดยพระเจ้าตะโดมินพญาในปี ค.ศ. 1364[3]: 227  หลังการล่มสลายของ อาณาจักรซะไกง์ และอาณาจักรปี้นยะ ในการรุกรานของรัฐฉานจากทางเหนือ ในปีแรกของการดำรงอยู่อังวะซึ่งมองตนเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากอาณาจักรพุกาม ได้พยายามที่จะรวบรวมดินแดนเมื่อครั้งที่สมัยอาณาจักรพุกามพิชิตได้ โดยการทำสงครามต่อเนื่องยาวนานกับอาณาจักรหงสาวดีของชาวมอญทางภาคใต้ รัฐฉานในภาคเหนือและภาคตะวันออก และรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตก[1]

ในขณะที่สามารถยึดครองตองอูและบางส่วนของรัฐฉาน (กะเล่, โม่ญี่น, โมกองและตี่บอ) ช่วงจุดสูงสุดของการยึดครองดินแดนของอาณาจักรอังวะได้หยุดลงในช่วง สงครามสี่สิบปี กับอาณาจักรหงสาวดี (ค.ศ. 1385-1424) หลังจากนั้นในช่วงจากยุค ค.ศ. 1420 ถึงต้นยุค ค.ศ. 1480 อาณาจักรอังวะต้องเผชิญหน้ากับการกบฏกษัตริย์องค์ใหม่เข้ามามีอำนาจแทน ในยุค ค.ศ. 1480 และยุค ค.ศ. 1490 อาณาจักรแปรทางตอนใต้และรัฐฉานภายใต้อิทธิพลของอังวะในภาคเหนือประกาศอิสรภาพ และตองอูซึ่งเริ่มมีอำนาจเหนือกว่าอังวะ ในปี ค.ศ. 1510 ตองอูก็แยกตัวออกไป[1]

อังวะตกอยู่ภายใต้การรุกรานอย่างรุนแรงจากรัฐฉานในช่วงแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในปี ค.ศ. 1527 รัฐฉานนำโดยเมืองโม่ญี่นซึ่งเป็นพันธมิตรกับแปร ได้เข้ายึดครองอังวะและปกครองพม่าตอนบน ในฐานะที่อาณาจักรแปรเป็นพันธมิตรกับรัฐฉาน จึงมีเพียงตองอูอาณาจักรเล็ก ๆ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอังวะ หรือบริเวณทิศตะวันออกของทิวเขาพะโค ยังคงเป็นเมืองอิสระสุดท้ายของชาวพม่า

ความล้มเหลวในการยับยั้งอาณาจักรตองอูพิสูจน์แล้วว่ามีบทเรียนราคาแพง ทำให้อาณาจักรอังวะถูกล้อมรอบด้วยอาณาจักรที่เป็นศัตรู อาณาจักรตองอูที่แข็งแกร่งมากขึ้นเริ่มมีความคิดที่จะรวบรวมดินแดน หลังได้รับชัยชนะในการรุกรานอาณาจักรหงสาวดีของชาวมอญในปี ค.ศ. 1534-1541 อาณาจักรตองอูหันหลังให้กับอาณาจักรแปรและรัฐฉาน และส่งกองทัพไปเข้าโจมตีแปรในปี ค.ศ. 1542 และพุกามเมืองตอนใต้ของอาณาจักรอังวะในปี ค.ศ. 1544[4] ในเดือนมกราคมปี ค.ศ. 1555 พระเจ้าบุเรงนอง แห่งตองอูก็สามารถพิชิตอาณาจักรอังวะได้สำเร็จ อันเป็นการสิ้นสุดอาณาจักรอังวะที่มีมานานเกือบสองร้อยปี

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 Htin Aung 1967: 84–103
  2. Phayre 1883: 63–75
  3. Coedès, George (1968). Walter F. Vella (บ.ก.). The Indianized States of Southeast Asia. trans.Susan Brown Cowing. University of Hawaii Press. ISBN 978-0-8248-0368-1.
  4. Phayre 1883: 100–101

บรรณานุกรม[แก้]

  • Harvey, G. E. (1925). History of Burma: From the Earliest Times to 10 March 1824. London: Frank Cass & Co. Ltd.
  • Htin Aung, Maung (1967). A History of Burma. New York and London: Cambridge University Press.
  • Phayre, Lt. Gen. Sir Arthur P. (1883). History of Burma (1967 ed.). London: Susil Gupta.