ข้ามไปเนื้อหา

ไวเอต

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไวเอต
ประเภทมหาชน ( NYSE: AHP (ถึง 2002)
NYSE: WYE (2002–2009))
ISINUS9830241009 Edit this on Wikidata
อุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์
ก่อตั้งค.ศ. 1860 (ฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา)
ผู้ก่อตั้งจอห์น ไวเอต
เลิกกิจการค.ศ. 2009 (รวมกิจการกับไฟเซอร์)
ค.ศ. 2012 (รวมกิจการกับเนสท์เล่)
สาเหตุถูกควบกิจการกับไฟเซอร์
กิจการโภชนาการเด็กถูกควบรวมโดยเนสท์เล่
สำนักงานใหญ่คอลเลจวิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย
เมดิสัน รัฐนิวเจอร์ซีย์
บุคลากรหลักเบอร์นาร์ด เจ. พุสซอต (CEO, ประธานบริหารและรองประธานบริษัท)
รอเบิร์ต เอสเนอร์ (ประธานบริษัท)
รายได้เพิ่มขึ้น 22.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2008)
พนักงาน
49,732 คน (2005)
บริษัทแม่ไฟเซอร์

ไวเอต (อังกฤษ: Wyeth) เดิมรู้จักกันในชื่อ อเมริกัน โฮมโปรดักต์ (American Home Products) เป็นหนึ่งในบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงได้แก่

ประวัติ

[แก้]
  • ปี ค.ศ. 1860 เภสัชกร จอห์น และ แฟรงค์ ไวเอต (John and Frank Wyeth) เปิดร้านขายยาที่มีห้องทดลองขนาดเล็กอยู่ด้วย
  • ปี ค.ศ. 1862 เริ่มผลิตยาสามัญทั่วไปจำนวนมากตามคำแนะนำของแพทย์
  • ปี ค.ศ. 1872 เฮนรี่ โบเวอร์ (Henry Bower) พนักงานของ ไวเอต ผลิตเครื่องตอกยาเม็ดแบบหมุน (rotary compressed tablet machines) ได้สำเร็จเป็นคนแรก ซึ่งสามารถผลิตยาเม็ดคุณภาพสูงได้ในปริมาณที่มากและเร็ว
  • ปี ค.ศ. 1883 ไวเอต เปิดโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศที่ มอนทรีออล แคนาดา
  • ปี ค.ศ. 1907 จอห์น ไวเอต เสียชีวิต และลูกชายคนเดียวของเขาชื่อ สจ๊วต ไวเอต ได้เป็นประธานบริษัทต่อจากเขา
  • ปี ค.ศ. 1926 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ จัดตั้งบริษัทในเครือ (holding company) ชื่อ ไวเอต (Wyeth) มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน อาคารไวท์ฮอลล์ ดาวน์ทาวน์ แมนฮัตตัน ยอดขายทั่วโลกดีมากจากการขายยาสีฟันยี่ห้อ โกลีนอส ของ ไวเอต
  • ปี ค.ศ. 1943 ไวเอต ควบรวมกิจการกับ อะเยอร์ต แมคเคนน่า และ ฮาร์ริสัน จำกัด ของ แคนาดา ในการควบรวมครั้งนี้ไวเอต ได้ยาพรีมาริน เป็นยาเม็ด เอสโตรเจน ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัททีเดียวปี ค.ศ. 1944 ไวเอต ผลิตยาเพนนิซิลิน เพื่อการทหารและหน่วยงานสาธารณะทั่วไป
  • ปี ค.ศ. 1945 ไวเอต ซื้อบริษัท ฟอร์ต ดอดจ์ ซีรัม เป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าสุขภาพสัตว์
  • ปี ค.ศ. 1951 ไวเอต วางตลาดยาดังต่อไปนี้
  • ปี ค.ศ. 1954 ไวเอต วางตลาดยาดังต่อไปนี้
    • Mysoline anticonvulsant
    • Isordil vasodilator for treatment of angina
    • Dryvax, a freeze-dried smallpox vaccine
    • Ovral, an oral contraceptive
  • ปี ค.ศ. 1980 ไวเอต ซื้อธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพสัตว์ จาก บริสตอล-ไมเยอร์ และ ปาร์ค-เดวิส (Bristol-Myers and Parke-Davis)

และซื้อ เอ.เอช. รอบบินส์ ผู้ผลิต โรบิทูสซิน (Robitussin) แชปสติก (ChapStick) และ ไดมีแทปป์ (Dimetapp)

  • ปี ค.ศ. 1994 ไวเอต ซื้ออเมริกันไซยานามิด และ เลเดอร์เล่ แล็บฯ ทำให้ได้สิทธิใน เลเดอร์เล่ ปราซิส วัคซีน (Lederle Praxis vaccines) และ เซนทรัม (Centrum) ผลิตภัณฑ์ ไวตามินรวม (multivitamin)
  • ปี ค.ศ. 2009 บริษัทไฟเซอร์เข้าซื้อกิจการไวเอตด้วยเงิน 68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและบรรลุข้อตกลงในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน[1]
  • ปี ค.ศ. 2012 บริษัทเนสท์เล่ซื้อส่วนกิจการโภชนาการเด็กจากไฟเซอร์และเปลี่ยนชื่อเป็น ไวเอต นูทริชัน (Wyeth Nutrition) ส่วนเครื่องหมายการค้าไวเอตยังคงอยู่กับไฟเซอร์[2]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Pfizer in talks to acquire Wyeth in $60 billion deal: WSJ". MarketWatch. สืบค้นเมื่อ 2012-08-11.
  2. "Nestle close to buying Wyeth", Global Times, 2012-04-18, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-16, สืบค้นเมื่อ 2016-06-22