ข้ามไปเนื้อหา

โอโอซีแอล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์
ประเภทบริษัทสาขา
อุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางเรือและโลจิสติกส์
ก่อตั้ง1969; 56 ปีที่แล้ว (1969)
สำนักงานใหญ่
พื้นที่ให้บริการทั่วโลก
บุคลากรหลักซี. วาย. ต่ง (ผู้ก่อตั้ง)
บริษัทแม่โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์ (อินเตอร์เนชันแนล) ลิมิเต็ด
เว็บไซต์www.oocl.com

โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์ (อังกฤษ: Orient Overseas Container Line) หรือที่รู้จักทั่วไปในชื่อ โอโอซีแอล (OOCL) เป็นบริษัทให้บริการขนส่งตู้สินค้าทางเรือและโลจิสติกส์ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกง บริษัทได้จดทะเบียนในฮ่องกงในชื่อ โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์ลิมิเต็ด (Orient Overseas Container Line Limited) และจดทะเบียนแยกต่างหากในประเทศไลบีเรียในชื่อ โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์ อิงก์ (Orient Overseas Container Line Inc.) โดยบริษัทหลังนี้ได้ย้ายที่ตั้งสำนักงานไปยังหมู่เกาะมาร์แชลล์ในภายหลัง[1]

ภาพรวม

[แก้]

OOCL เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรทั้งการขนส่งตู้สินค้าระหว่างประเทศ โลจิสติกส์ และการบริหารจัดการท่าเรือ[2] โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ใน 70 ประเทศทั่วโลก OOCL มีเรือ 59 ลำในหลายชั้น ซึ่งมีความจุตั้งแต่ 2,992 TEU ไปจนถึง 21,413 TEU และมีเรือชั้นไอซ์สำหรับลมฟ้าอากาศรุนแรงอีกสองลำ

OOCL ยังเป็นสมาชิกของแกรนด์อัลไลแอนซ์[3] ซึ่งก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1998 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้งได้แก่ ฮาพัค-ล็อยท์ (Hapag-Lloyd) จากเยอรมนี เอ็นวายเค (NYK) จากญี่ปุ่น และ OOCL จากฮ่องกง

ประวัติศาสตร์

[แก้]

ช่วงต้น

[แก้]

OOCL ก่อตั้งขึ้นโดยซี.วาย. ต่ง (C. Y. Tung) ใน ค.ศ. 1947 โดยใช้ชื่อว่าโอเรียนต์โอเวอร์ซีส์ไลน์ (Orient Overseas Line) OOCL เป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือแห่งแรกในเอเชียที่ทำการขนส่งสินค้าโดยใช้ตู้โลหะข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกใน ค.ศ. 1969 และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นโอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์ตามมา ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2003 OOCL ได้รับมอบเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในขณะนั้น โอโอซีแอล เชินเจิ้น (OOCL Shenzhen) ชั้น SX[4] ซึ่งมีความจุ 8,063 TEU ก่อนจะเสียตำแหน่งนี้ให้กับเอ็มมา เมอส์ก (Emma Mærsk) ใน ค.ศ. 2006 ในช่วงรุ่งเรืองที่สุด OOCL มีกองเรือบรรทุกกว่า 150 ลำ รวมความจุสินค้าทั้งหมดเกิน 10 ล้านตัน และเคยเป็นหนึ่งในเจ็ดบริษัทเดินเรือชั้นนำของโลก[ต้องการอ้างอิง] ครั้งหนึ่งบริษัทเคยเป็นเจ้าของเรือซีไวส์ไจแอนต์ (Seawise Giant) ซึ่งเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา หลังซื้อมาจากอู่ต่อเรือเมื่อเจ้าของเดิมปฏิเสธการรับมอบเรือ

เรือของ OOCL กำลังแล่นผ่านท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ 9 (CT9) ในฮ่องกง
โอโอซีแอล ยุโรป บนแม่น้ำเอ็ลเบอ ในฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนี

หลังซี.วาย. ต่งเสียชีวิตใน ค.ศ. 1982 ซี.เอช. ต่ง (C. H. Tung) ก็เข้ารับตำแหน่งผู้นำของโอเรียนต์โอเวอร์ซีส์ (อินเตอร์เนชันแนล) ลิมิเต็ด (OOIL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ OOCL[5]

การล้มละลายและการฟื้นตัว

[แก้]

บริษัทประกาศล้มละลายในช่วงกลางทศวรรษ 1980 และธนาคารแห่งประเทศจีนซึ่งตั้งอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้มอบเงินสนับสนุน 50 ล้านดอลลาร์ จากยอดเงินช่วยเหลือทั้งหมด 120 ล้านดอลลาร์ที่เฮนรี ฟอก[6] รวบรวมมาได้ อีกหนึ่งผู้สนับสนุนรายใหญ่ในการกอบกู้ OOCL คือไชนาเมอร์แชนส์ (China Merchants) บริษัทในเครือของกระทรวงคมนาคมของจีนที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง

ใน ค.ศ. 1996 ซี.ซี. ต่ง ได้ขึ้นมาบริหารงานต่อจาก ซี.เอช. ต่ง เนื่องจากซี.เอช. ต่งได้รับเลือกเป็นผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

OOCL เคยให้บริการเดินเรือโดยสารในช่วงสั้น ๆ โดยเข้าซื้อเรือ Ruahine, Rangitoto และ Rangitane จากนิวซีแลนด์ชิปปิงคอมพานี (New Zealand Shipping Company) และเปลี่ยนชื่อเป็น Oriental Rio, Oriental Carnival และ Oriental Esmeralda เพื่อให้บริการเดินเรือรอบโลก แต่บริการดังกล่าวได้ยุติลงใน ค.ศ. 1976[7][8]

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1970 ต่งได้ซื้อเรือเดินสมุทร อาร์เอ็มเอส ควีนเอลิซาเบธ เพื่อดัดแปลงให้เป็นมหาวิทยาลัยลอยน้ำในชื่อซีไวส์ยูนิเวอร์ซิตี (Seawise University) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิทยาเขตโลกลอยน้ำ (World Campus Afloat) แต่ในวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1972 เรือได้เกิดเพลิงไหม้ระหว่างการปรับปรุงและอับปางลงในอ่าววิกตอเรียของฮ่องกง และซากเรือต้องถูกรื้อถอนในอีกสามปีต่อมา

การดำเนินงานปัจจุบัน

[แก้]

ใน ค.ศ. 1979 โอโอซีแอลโลจิสติกส์ลิมิเต็ด (OOCL Logistics Litd. หรือ OLL) หน่วยงานบริการรวบรวมสินค้าและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศของกลุ่ม OOIL ได้เริ่มดำเนินการ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา OOCL ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทเดินเรือหลายแห่ง เช่น เฟอร์เนสวิที (Furness Withy), ฮาวเดอร์บราเทอส์ (Houlder Brothers), แมนเชสเตอร์ไลเนอส์ (Manchester Liners), ชอว์ ซาวิล (Shaw Savill), พีเอสเอ็นซี (PSNC), พรินซ์ไลน์ (Prince Line) และอเล็กซานเดอร์ชิปปิงคอมพานี (Alexander Shipping Company)[5]

ใน ค.ศ. 2015 OOCL ได้สั่งต่อเรือคอนเทนเนอร์ชั้น G จำนวน 6 ลำ[9] ลำแรกในจำนวนนี้คือโอโอซีแอล ฮ่องกง (OOCL Hong Kong) ได้รับการตั้งชื่อเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2017[10] เรือลำนี้เป็นเรือเทนเนอร์ลำแรกของโลกที่สามารถบรรทุกได้เกิน 21,000 TEU และได้รับการบันทึกสถิติโลกโดยบันทึกสถิติโลกกินเนสส์[11]

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2017 บริษัทแม่ OOIL ได้รับข้อเสนอเข้าซื้อกิจการมูลค่า 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากคอสโกชิปปิง (COSCO Shipping) ซึ่งข้อเสนอนี้ได้รับอนุมัติภายใต้เงื่อนไขการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและหน่วยงานกำกับดูแล การเข้าซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์ใน ค.ศ. 2018[12][5]

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 โอโอซีแอล ฮ่องกง ซึ่งเป็นเรือลำแรกในบรรดาเรือชั้น G ทั้งหก และเคยเป็นเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เดินทางมายังฮ่องกงเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของโอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์[13]

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2023 โอโอซีแอล สเปน (OOCL Spain) ซึ่งมีความจุ 24,188 TEU และเป็นหนึ่งในเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เดินทางเข้าเทียบท่าเรือฮัมบวร์คเป็นครั้งแรก[14]

การดำเนินงาน

[แก้]

พื้นที่ดำเนินงาน

[แก้]

OOCL มีบริการเดินเรือเฉลี่ย 78 เที่ยวต่อสัปดาห์ ครอบคลุมเส้นทางในยูเรเชีย แอฟริกา โอเชียเนีย และอเมริกาเหนือ

ท่าเรือคอนเทนเนอร์

[แก้]

บริษัทในเครือของ OOCL เป็นเจ้าของหรือบริหารจัดการท่าเรือคอนเทนเนอร์โดยเฉพาะ ได้แก่ท่าเรือคอนเทนเนอร์ลองบีช (Long Beach Container Terminal) ในแคลิฟอร์เนีย และ KAOCT ในเกาสง ประเทศไต้หวัน

เทคโนโลยีสารสนเทศ

[แก้]

ตั้งแต่ ค.ศ. 1993 เป็นต้นมา กลุ่มบริษัทได้นำระบบสารสนเทศระดับภูมิภาคแบบบูรณาการ (IRIS-2) มาใช้ ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งตู้สินค้าโดยเฉพาะ[15] โดย IRIS-2 ได้รวมกระบวนการทางธุรกิจของสำนักงาน OOCL ทั้งหมด ข้อมูลการขนส่งสินค้าของลูกค้า และข้อมูลทางการเงินเข้าไว้ในระบบเดียว และด้วยความสำเร็จนี้เอง ทำให้ OOCL ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนวัตกรรมจากสถาบันสมิธโซเนียนใน ค.ศ. 1999

วันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2018 OOCL ได้ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์รีเสิร์ชเอเชีย (Microsoft Research Asia หรือ MSRA) เพื่อศึกษาศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ในการปรับปรุงการดำเนินงานของเครือข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางเรือ[16]

ด้านสิ่งแวดล้อม

[แก้]

OOCL เป็นบริษัทเดินเรือคอนเทนเนอร์รายแรกที่ได้รับการรับรองระบบการจัดการความปลอดภัย คุณภาพ และสิ่งแวดล้อม (SQE) ซึ่งเป็นการรวมข้อกำหนดของ ISM, ISO9001.2000 และ ISO14001 เข้าไว้ด้วยกัน[17]

ใน ค.ศ. 1992 OOCL ได้เปลี่ยนการออกแบบเครื่องทำความเย็นสำหรับตู้คอนเทนเนอร์เพื่อกำจัดการใช้สาร CFC

OOCL ยังปฏิบัติตามโครงการกรีนแฟล็กของท่าเรือลองบีชใน ค.ศ. 2006 และ 2007 โดยได้บริจาคเงินส่วนลดที่ได้รับคืนทั้งหมด 140,000 ดอลลาร์สหรัฐให้แก่โครงการและองค์กรการกุศลในชุมชนของลองบีช ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2006 OOCL ได้หยุดใช้รถบรรทุกที่ผลิตก่อน ค.ศ. 1989 สำหรับการขนส่งทั้งหมดระหว่างท่าเรือในแคลิฟอร์เนียตอนใต้และลานรถไฟนอกท่าเรือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการรถบรรทุกสะอาด" (Clean Truck Program) ของท่าเรือ และยังได้ปฏิบัติตามโครงการควอลชิป 21 ซึ่งเป็นโครงการที่ประเมินคุณภาพการดำเนินงานของเรือที่ไม่ได้ติดธงชาติสหรัฐ

OOCL มีโครงการประหยัดเชื้อเพลิงมาตั้งแต่ ค.ศ. 2001)เพื่อลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก โดยมีมาตรการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงให้เหลือน้อยที่สุด ได้แก่:

  • ระบบกำหนดเส้นทางตามสภาพอากาศ เพื่อให้ได้เส้นทางที่สั้นลงอย่างปลอดภัย
  • การปรับสมดุลเรือที่เหมาะสมและใช้น้ำอับเฉาให้น้อยที่สุด
  • การควบคุมการฉีดเชื้อเพลิงและลิ้นไอเสีย เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
  • การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากเพลา และการนำความร้อนจากไอเสียมาใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
  • การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เรือสะอาดและปราศจากสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น เพรียง สาหร่าย และมอลลัสกา ซึ่งการบำรุงรักษานี้รวมถึงการขัดใบจักรและตัวเรือ และการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องยนต์

นอกจากนี้ OOCL ยังได้ทำการศึกษาเรื่องพลังงานชายฝั่งใน ค.ศ. 2003 และการศึกษาเครื่องขัดน้ำทะเลใน ค.ศ. 2005 เพื่อหาวิธีลดการปล่อยมลพิษต่าง ๆ ทั้งในขณะที่อยู่ในท่าเรือและขณะเดินเรือ

ชุมชนสัมพันธ์

[แก้]

ทุนการศึกษาต่ง โอโอซีแอล (Tung OOCL Scholarship) ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1995 เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเยาวชน ปัจจุบันทุนการศึกษานี้มี 2 โครงการ ได้แก่ โครงการทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย (สำหรับประเทศจีน) และ โครงการทุนการศึกษาสำหรับบุตรพนักงาน โครงการทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ได้จัดตั้งขึ้นใน 6 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยชิงหฺวา, มหาวิทยาลัยปักกิ่ง, มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น, มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง, มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง และมหาวิทยาลัยหนานจิง ตั้งแต่มีการจัดตั้งทุนการศึกษา มีนักศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรีมากกว่า 2,500 คนที่ได้รับทุน โดยมีเงินทุนสนับสนุนมากกว่า 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในแต่ละปี คณะกรรมการคัดเลือกจะถูกจัดตั้งขึ้นในแต่ละมหาวิทยาลัยเพื่อคัดเลือกผู้สมัครที่มีศักยภาพ โดยพิจารณาจากผลการเรียนและผลงานทางวิชาการ รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตร ทุนการศึกษาสำหรับบุตรพนักงาน มอบให้แก่บุตรของพนักงานในทุกสำนักงานของ OOCL เป็นประจำทุกปี โดยใช้เกณฑ์การคัดเลือกเดียวกันกับทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย

OOCL ยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมสนับสนุนชุมชนประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย โดยหนึ่งในโครงการหลักและต่อเนื่องคือ โครงการ HOPE (Health Opportunities for People Everywhere) ซึ่ง OOCL ได้ให้ความช่วยเหลือในการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์วินิจฉัยโรคที่ทันสมัยที่สุดจากสหรัฐ (ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกบริจาคให้) ไปยังโรงพยาบาลเด็กในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

OOCL ยังเป็นผู้สนับสนุนการแสดงดนตรีและละครเวทีหลายเรื่องที่เดินทางมาแสดงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น Cats, Phantom of the Opera, We Will Rock You, Swan Lake on Ice, Musical Moments และ Chitty Chitty Bang Bang.

ความปลอดภัย

[แก้]
โอโอซีแอล ฉงชิ่ง เข้าสู่เซาแทมป์ตันพร้อมเรือลากจูงสามลำ

OOCL มีส่วนร่วมในโครงการ C-TPAT (การเป็นหุ้นส่วนทางการค้าร่วมกับศุลกากรเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย)

OOCL ยังปฏิบัติตาม ISPS (International Ship and Port Facility Security Code) ซึ่งเป็นระบบที่อ้างอิงจากระบบการควบคุมที่ขยายขอบเขตออกไปอย่างมากตามที่ระบุไว้ในอนุสัญญาความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล (SOLAS) ค.ศ. 1974

บริษัทยังปฏิบัติตามโครงการริเริ่มด้านความปลอดภัยตู้สินค้า (Container Security Initiative หรือ CSI) และกฎการสำแดงใบขนสินค้าล่วงหน้า 24 ชั่วโมงของศุลกากรสหรัฐ[18]

กองเรือ

[แก้]
ตารางชั้นเรือคอนเทนเนอร์ของ OOCL
ชั้นเรือ สร้าง ความจุ (TEU) จำนวน หมายเหตุ
S 1995–2000 5,344–5,770 6
Ice 1998–2000 2,992–4,402 2
SX 2004–2015 8,063–8,888 19
P 2006–2010 4,500 18
M 2013–2014 13,208 10
G 2017–2018 21,413 6 โอโอซีแอล ฮ่องกง เป็นเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อส่งมอบในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017[19]
TBD 2023–เป็นต้นไป 16,000 10 จะถูกสร้างที่อู่ต่อเรือต้าเหลียนคอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง และหนานทงคอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง[20]
TBD 2023–เป็นต้นไป 23,000 12 จะถูกสร้าง 6 ลำที่อู่ต่อเรือหนานทงคอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง และ 6 ลำที่อู่ต่อเรือต้าเหลียน คอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง[21][22]
TBD 2026–2028 13,600 6 เช่าระยะยาวจากซีสแปนคอร์ปอเรชัน[23]
TBD 2027–2028 24,000 7 จะถูกสร้างที่อู่ต่อเรือหนานทงคอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง[24]
TBD 2028–2029 18,500 14 จะถูกสร้างที่อู่ต่อเรือต้าเหลียนคอสโกเคเอชไอ ชิปเอนจิเนียริง และหนานทง คอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง[25]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "2013 Annual Report" (PDF). www.ooilgroup.com. Orient Overseas (International) Limited. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2023.
  2. OOCL Career Opportunities
  3. Grand Alliance - Google Search
  4. OOCL Shenzhen เก็บถาวร 1 เมษายน 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - OOCL.com
  5. 1 2 3 History of OOCL - OOCL.com
  6. "CHINA BANK LINKED TO OOCL BAILOUT".
  7. 58 years since Ruahine delivery Otago Daily Times 4 May 2009
  8. OOCL Marks Half a Century of Operations Ships Monthly September 2019 page 8
  9. Stensvold, Tore (10 เมษายน 2015). "Samsung setter ny rekord for containerskip - igjen" [Samsung sets new record - again]. Teknisk Ukeblad. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 สิงหาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2015.
  10. "OOCL reaches milestone with the christening of the OOCL Hong Kong" (Press release). OOCL. 15 พฤษภาคม 2017.
  11. "OOCL Hong Kong Achieves Guinness World Record". The Maritime Executive (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม 2018.
  12. "China shipping firm Cosco to buy HK rival OOIL for $6.3bn". BBC News. 10 กรกฎาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2017.
  13. "OOCL Boxship Giant Hong Kong on Maiden Visit to Namesake City". Offshore Energy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 25 กรกฎาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 1 พฤษภาคม 2021.
  14. Bahtić, Fatima (12 ตุลาคม 2021). "VIDEO: 24,188 TEU behemoth OOCL Spain makes debut call in Hamburg". offshore-energy.biz. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2023.
  15. Information Technology - OOCL.com
  16. "OOCL teams with Microsoft to develop AI shipping solutions -". Splash 247 (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 24 เมษายน 2018. สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน 2018.
  17. "Sustainability Report 2014" (PDF). static.globalreporting.org. Orient Overseas (International) Limited. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 มกราคม 2018.
  18. Customer Advisories - OOCL.com
  19. "OOCL Hong Kong takes the world's largest containership crown". www.seatrade-maritime.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2025.
  20. "COSCO could surpass CMA CGM as third largest container line". Container News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 8 กันยายน 2021. สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน 2021.
  21. "OOCL Orders Five 23,000 TEU Giants in China". Offshore Energy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 11 มีนาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2021.
  22. "OOCL orders 7 more 23,000 TEU boxships in China". Offshore Energy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2 พฤศจิกายน 2020. สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2021.
  23. Ajdin, Adis (23 ตุลาคม 2024). "OOCL signs up for Seaspan newbuilds". Splash247 (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2 มีนาคม 2025.
  24. "COSCO places orders for 12 methanol-powered giant ships". Container News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 31 ตุลาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2022.
  25. Ajdin, Adis (30 เมษายน 2025). "OOCL signs $3bn boxship order". Splash247 (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2025.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]