โอโอซีแอล
โอโอซีแอล ปานามา เข้าสู่ท่าจอดเรือฟรีแมนเทิลในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2015 | |
| ประเภท | บริษัทสาขา |
|---|---|
| อุตสาหกรรม | การขนส่งสินค้าทางเรือและโลจิสติกส์ |
| ก่อตั้ง | 1969 |
| สำนักงานใหญ่ | |
| พื้นที่ให้บริการ | ทั่วโลก |
| บุคลากรหลัก | ซี. วาย. ต่ง (ผู้ก่อตั้ง) |
| บริษัทแม่ | โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์ (อินเตอร์เนชันแนล) ลิมิเต็ด |
| เว็บไซต์ | www |
โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์ (อังกฤษ: Orient Overseas Container Line) หรือที่รู้จักทั่วไปในชื่อ โอโอซีแอล (OOCL) เป็นบริษัทให้บริการขนส่งตู้สินค้าทางเรือและโลจิสติกส์ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกง บริษัทได้จดทะเบียนในฮ่องกงในชื่อ โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์ลิมิเต็ด (Orient Overseas Container Line Limited) และจดทะเบียนแยกต่างหากในประเทศไลบีเรียในชื่อ โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์ อิงก์ (Orient Overseas Container Line Inc.) โดยบริษัทหลังนี้ได้ย้ายที่ตั้งสำนักงานไปยังหมู่เกาะมาร์แชลล์ในภายหลัง[1]
ภาพรวม
[แก้]OOCL เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรทั้งการขนส่งตู้สินค้าระหว่างประเทศ โลจิสติกส์ และการบริหารจัดการท่าเรือ[2] โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ใน 70 ประเทศทั่วโลก OOCL มีเรือ 59 ลำในหลายชั้น ซึ่งมีความจุตั้งแต่ 2,992 TEU ไปจนถึง 21,413 TEU และมีเรือชั้นไอซ์สำหรับลมฟ้าอากาศรุนแรงอีกสองลำ
OOCL ยังเป็นสมาชิกของแกรนด์อัลไลแอนซ์[3] ซึ่งก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1998 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้งได้แก่ ฮาพัค-ล็อยท์ (Hapag-Lloyd) จากเยอรมนี เอ็นวายเค (NYK) จากญี่ปุ่น และ OOCL จากฮ่องกง
ประวัติศาสตร์
[แก้]ช่วงต้น
[แก้]OOCL ก่อตั้งขึ้นโดยซี.วาย. ต่ง (C. Y. Tung) ใน ค.ศ. 1947 โดยใช้ชื่อว่าโอเรียนต์โอเวอร์ซีส์ไลน์ (Orient Overseas Line) OOCL เป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือแห่งแรกในเอเชียที่ทำการขนส่งสินค้าโดยใช้ตู้โลหะข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกใน ค.ศ. 1969 และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นโอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์ตามมา ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2003 OOCL ได้รับมอบเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในขณะนั้น โอโอซีแอล เชินเจิ้น (OOCL Shenzhen) ชั้น SX[4] ซึ่งมีความจุ 8,063 TEU ก่อนจะเสียตำแหน่งนี้ให้กับเอ็มมา เมอส์ก (Emma Mærsk) ใน ค.ศ. 2006 ในช่วงรุ่งเรืองที่สุด OOCL มีกองเรือบรรทุกกว่า 150 ลำ รวมความจุสินค้าทั้งหมดเกิน 10 ล้านตัน และเคยเป็นหนึ่งในเจ็ดบริษัทเดินเรือชั้นนำของโลก[ต้องการอ้างอิง] ครั้งหนึ่งบริษัทเคยเป็นเจ้าของเรือซีไวส์ไจแอนต์ (Seawise Giant) ซึ่งเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา หลังซื้อมาจากอู่ต่อเรือเมื่อเจ้าของเดิมปฏิเสธการรับมอบเรือ

หลังซี.วาย. ต่งเสียชีวิตใน ค.ศ. 1982 ซี.เอช. ต่ง (C. H. Tung) ก็เข้ารับตำแหน่งผู้นำของโอเรียนต์โอเวอร์ซีส์ (อินเตอร์เนชันแนล) ลิมิเต็ด (OOIL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ OOCL[5]
การล้มละลายและการฟื้นตัว
[แก้]บริษัทประกาศล้มละลายในช่วงกลางทศวรรษ 1980 และธนาคารแห่งประเทศจีนซึ่งตั้งอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้มอบเงินสนับสนุน 50 ล้านดอลลาร์ จากยอดเงินช่วยเหลือทั้งหมด 120 ล้านดอลลาร์ที่เฮนรี ฟอก[6] รวบรวมมาได้ อีกหนึ่งผู้สนับสนุนรายใหญ่ในการกอบกู้ OOCL คือไชนาเมอร์แชนส์ (China Merchants) บริษัทในเครือของกระทรวงคมนาคมของจีนที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง
ใน ค.ศ. 1996 ซี.ซี. ต่ง ได้ขึ้นมาบริหารงานต่อจาก ซี.เอช. ต่ง เนื่องจากซี.เอช. ต่งได้รับเลือกเป็นผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
OOCL เคยให้บริการเดินเรือโดยสารในช่วงสั้น ๆ โดยเข้าซื้อเรือ Ruahine, Rangitoto และ Rangitane จากนิวซีแลนด์ชิปปิงคอมพานี (New Zealand Shipping Company) และเปลี่ยนชื่อเป็น Oriental Rio, Oriental Carnival และ Oriental Esmeralda เพื่อให้บริการเดินเรือรอบโลก แต่บริการดังกล่าวได้ยุติลงใน ค.ศ. 1976[7][8]
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1970 ต่งได้ซื้อเรือเดินสมุทร อาร์เอ็มเอส ควีนเอลิซาเบธ เพื่อดัดแปลงให้เป็นมหาวิทยาลัยลอยน้ำในชื่อซีไวส์ยูนิเวอร์ซิตี (Seawise University) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิทยาเขตโลกลอยน้ำ (World Campus Afloat) แต่ในวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1972 เรือได้เกิดเพลิงไหม้ระหว่างการปรับปรุงและอับปางลงในอ่าววิกตอเรียของฮ่องกง และซากเรือต้องถูกรื้อถอนในอีกสามปีต่อมา
การดำเนินงานปัจจุบัน
[แก้]ใน ค.ศ. 1979 โอโอซีแอลโลจิสติกส์ลิมิเต็ด (OOCL Logistics Litd. หรือ OLL) หน่วยงานบริการรวบรวมสินค้าและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศของกลุ่ม OOIL ได้เริ่มดำเนินการ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา OOCL ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทเดินเรือหลายแห่ง เช่น เฟอร์เนสวิที (Furness Withy), ฮาวเดอร์บราเทอส์ (Houlder Brothers), แมนเชสเตอร์ไลเนอส์ (Manchester Liners), ชอว์ ซาวิล (Shaw Savill), พีเอสเอ็นซี (PSNC), พรินซ์ไลน์ (Prince Line) และอเล็กซานเดอร์ชิปปิงคอมพานี (Alexander Shipping Company)[5]
ใน ค.ศ. 2015 OOCL ได้สั่งต่อเรือคอนเทนเนอร์ชั้น G จำนวน 6 ลำ[9] ลำแรกในจำนวนนี้คือโอโอซีแอล ฮ่องกง (OOCL Hong Kong) ได้รับการตั้งชื่อเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2017[10] เรือลำนี้เป็นเรือเทนเนอร์ลำแรกของโลกที่สามารถบรรทุกได้เกิน 21,000 TEU และได้รับการบันทึกสถิติโลกโดยบันทึกสถิติโลกกินเนสส์[11]
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2017 บริษัทแม่ OOIL ได้รับข้อเสนอเข้าซื้อกิจการมูลค่า 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากคอสโกชิปปิง (COSCO Shipping) ซึ่งข้อเสนอนี้ได้รับอนุมัติภายใต้เงื่อนไขการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและหน่วยงานกำกับดูแล การเข้าซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์ใน ค.ศ. 2018[12][5]
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 โอโอซีแอล ฮ่องกง ซึ่งเป็นเรือลำแรกในบรรดาเรือชั้น G ทั้งหก และเคยเป็นเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เดินทางมายังฮ่องกงเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของโอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์[13]
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2023 โอโอซีแอล สเปน (OOCL Spain) ซึ่งมีความจุ 24,188 TEU และเป็นหนึ่งในเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เดินทางเข้าเทียบท่าเรือฮัมบวร์คเป็นครั้งแรก[14]
การดำเนินงาน
[แก้]พื้นที่ดำเนินงาน
[แก้]OOCL มีบริการเดินเรือเฉลี่ย 78 เที่ยวต่อสัปดาห์ ครอบคลุมเส้นทางในยูเรเชีย แอฟริกา โอเชียเนีย และอเมริกาเหนือ
ท่าเรือคอนเทนเนอร์
[แก้]บริษัทในเครือของ OOCL เป็นเจ้าของหรือบริหารจัดการท่าเรือคอนเทนเนอร์โดยเฉพาะ ได้แก่ท่าเรือคอนเทนเนอร์ลองบีช (Long Beach Container Terminal) ในแคลิฟอร์เนีย และ KAOCT ในเกาสง ประเทศไต้หวัน
เทคโนโลยีสารสนเทศ
[แก้]ตั้งแต่ ค.ศ. 1993 เป็นต้นมา กลุ่มบริษัทได้นำระบบสารสนเทศระดับภูมิภาคแบบบูรณาการ (IRIS-2) มาใช้ ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งตู้สินค้าโดยเฉพาะ[15] โดย IRIS-2 ได้รวมกระบวนการทางธุรกิจของสำนักงาน OOCL ทั้งหมด ข้อมูลการขนส่งสินค้าของลูกค้า และข้อมูลทางการเงินเข้าไว้ในระบบเดียว และด้วยความสำเร็จนี้เอง ทำให้ OOCL ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนวัตกรรมจากสถาบันสมิธโซเนียนใน ค.ศ. 1999
วันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2018 OOCL ได้ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์รีเสิร์ชเอเชีย (Microsoft Research Asia หรือ MSRA) เพื่อศึกษาศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ในการปรับปรุงการดำเนินงานของเครือข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางเรือ[16]
ด้านสิ่งแวดล้อม
[แก้]OOCL เป็นบริษัทเดินเรือคอนเทนเนอร์รายแรกที่ได้รับการรับรองระบบการจัดการความปลอดภัย คุณภาพ และสิ่งแวดล้อม (SQE) ซึ่งเป็นการรวมข้อกำหนดของ ISM, ISO9001.2000 และ ISO14001 เข้าไว้ด้วยกัน[17]
ใน ค.ศ. 1992 OOCL ได้เปลี่ยนการออกแบบเครื่องทำความเย็นสำหรับตู้คอนเทนเนอร์เพื่อกำจัดการใช้สาร CFC
OOCL ยังปฏิบัติตามโครงการกรีนแฟล็กของท่าเรือลองบีชใน ค.ศ. 2006 และ 2007 โดยได้บริจาคเงินส่วนลดที่ได้รับคืนทั้งหมด 140,000 ดอลลาร์สหรัฐให้แก่โครงการและองค์กรการกุศลในชุมชนของลองบีช ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2006 OOCL ได้หยุดใช้รถบรรทุกที่ผลิตก่อน ค.ศ. 1989 สำหรับการขนส่งทั้งหมดระหว่างท่าเรือในแคลิฟอร์เนียตอนใต้และลานรถไฟนอกท่าเรือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการรถบรรทุกสะอาด" (Clean Truck Program) ของท่าเรือ และยังได้ปฏิบัติตามโครงการควอลชิป 21 ซึ่งเป็นโครงการที่ประเมินคุณภาพการดำเนินงานของเรือที่ไม่ได้ติดธงชาติสหรัฐ
OOCL มีโครงการประหยัดเชื้อเพลิงมาตั้งแต่ ค.ศ. 2001)เพื่อลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก โดยมีมาตรการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงให้เหลือน้อยที่สุด ได้แก่:
- ระบบกำหนดเส้นทางตามสภาพอากาศ เพื่อให้ได้เส้นทางที่สั้นลงอย่างปลอดภัย
- การปรับสมดุลเรือที่เหมาะสมและใช้น้ำอับเฉาให้น้อยที่สุด
- การควบคุมการฉีดเชื้อเพลิงและลิ้นไอเสีย เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
- การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากเพลา และการนำความร้อนจากไอเสียมาใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
- การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เรือสะอาดและปราศจากสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น เพรียง สาหร่าย และมอลลัสกา ซึ่งการบำรุงรักษานี้รวมถึงการขัดใบจักรและตัวเรือ และการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องยนต์
นอกจากนี้ OOCL ยังได้ทำการศึกษาเรื่องพลังงานชายฝั่งใน ค.ศ. 2003 และการศึกษาเครื่องขัดน้ำทะเลใน ค.ศ. 2005 เพื่อหาวิธีลดการปล่อยมลพิษต่าง ๆ ทั้งในขณะที่อยู่ในท่าเรือและขณะเดินเรือ
ชุมชนสัมพันธ์
[แก้]ทุนการศึกษาต่ง โอโอซีแอล (Tung OOCL Scholarship) ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1995 เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเยาวชน ปัจจุบันทุนการศึกษานี้มี 2 โครงการ ได้แก่ โครงการทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย (สำหรับประเทศจีน) และ โครงการทุนการศึกษาสำหรับบุตรพนักงาน โครงการทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ได้จัดตั้งขึ้นใน 6 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยชิงหฺวา, มหาวิทยาลัยปักกิ่ง, มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น, มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง, มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง และมหาวิทยาลัยหนานจิง ตั้งแต่มีการจัดตั้งทุนการศึกษา มีนักศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรีมากกว่า 2,500 คนที่ได้รับทุน โดยมีเงินทุนสนับสนุนมากกว่า 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในแต่ละปี คณะกรรมการคัดเลือกจะถูกจัดตั้งขึ้นในแต่ละมหาวิทยาลัยเพื่อคัดเลือกผู้สมัครที่มีศักยภาพ โดยพิจารณาจากผลการเรียนและผลงานทางวิชาการ รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตร ทุนการศึกษาสำหรับบุตรพนักงาน มอบให้แก่บุตรของพนักงานในทุกสำนักงานของ OOCL เป็นประจำทุกปี โดยใช้เกณฑ์การคัดเลือกเดียวกันกับทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
OOCL ยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมสนับสนุนชุมชนประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย โดยหนึ่งในโครงการหลักและต่อเนื่องคือ โครงการ HOPE (Health Opportunities for People Everywhere) ซึ่ง OOCL ได้ให้ความช่วยเหลือในการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์วินิจฉัยโรคที่ทันสมัยที่สุดจากสหรัฐ (ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกบริจาคให้) ไปยังโรงพยาบาลเด็กในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
OOCL ยังเป็นผู้สนับสนุนการแสดงดนตรีและละครเวทีหลายเรื่องที่เดินทางมาแสดงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น Cats, Phantom of the Opera, We Will Rock You, Swan Lake on Ice, Musical Moments และ Chitty Chitty Bang Bang.
ความปลอดภัย
[แก้]
OOCL มีส่วนร่วมในโครงการ C-TPAT (การเป็นหุ้นส่วนทางการค้าร่วมกับศุลกากรเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย)
OOCL ยังปฏิบัติตาม ISPS (International Ship and Port Facility Security Code) ซึ่งเป็นระบบที่อ้างอิงจากระบบการควบคุมที่ขยายขอบเขตออกไปอย่างมากตามที่ระบุไว้ในอนุสัญญาความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล (SOLAS) ค.ศ. 1974
บริษัทยังปฏิบัติตามโครงการริเริ่มด้านความปลอดภัยตู้สินค้า (Container Security Initiative หรือ CSI) และกฎการสำแดงใบขนสินค้าล่วงหน้า 24 ชั่วโมงของศุลกากรสหรัฐ[18]
กองเรือ
[แก้]| ชั้นเรือ | สร้าง | ความจุ (TEU) | จำนวน | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|
| S | 1995–2000 | 5,344–5,770 | 6 | |
| Ice | 1998–2000 | 2,992–4,402 | 2 | |
| SX | 2004–2015 | 8,063–8,888 | 19 | |
| P | 2006–2010 | 4,500 | 18 | |
| M | 2013–2014 | 13,208 | 10 | |
| G | 2017–2018 | 21,413 | 6 | โอโอซีแอล ฮ่องกง เป็นเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อส่งมอบในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017[19] |
| TBD | 2023–เป็นต้นไป | 16,000 | 10 | จะถูกสร้างที่อู่ต่อเรือต้าเหลียนคอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง และหนานทงคอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง[20] |
| TBD | 2023–เป็นต้นไป | 23,000 | 12 | จะถูกสร้าง 6 ลำที่อู่ต่อเรือหนานทงคอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง และ 6 ลำที่อู่ต่อเรือต้าเหลียน คอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง[21][22] |
| TBD | 2026–2028 | 13,600 | 6 | เช่าระยะยาวจากซีสแปนคอร์ปอเรชัน[23] |
| TBD | 2027–2028 | 24,000 | 7 | จะถูกสร้างที่อู่ต่อเรือหนานทงคอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง[24] |
| TBD | 2028–2029 | 18,500 | 14 | จะถูกสร้างที่อู่ต่อเรือต้าเหลียนคอสโกเคเอชไอ ชิปเอนจิเนียริง และหนานทง คอสโกเคเอชไอชิปเอนจิเนียริง[25] |
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "2013 Annual Report" (PDF). www.ooilgroup.com. Orient Overseas (International) Limited. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2023.
- ↑ OOCL Career Opportunities
- ↑ Grand Alliance - Google Search
- ↑ OOCL Shenzhen เก็บถาวร 1 เมษายน 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - OOCL.com
- 1 2 3 History of OOCL - OOCL.com
- ↑ "CHINA BANK LINKED TO OOCL BAILOUT".
- ↑ 58 years since Ruahine delivery Otago Daily Times 4 May 2009
- ↑ OOCL Marks Half a Century of Operations Ships Monthly September 2019 page 8
- ↑ Stensvold, Tore (10 เมษายน 2015). "Samsung setter ny rekord for containerskip - igjen" [Samsung sets new record - again]. Teknisk Ukeblad. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 สิงหาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2015.
- ↑ "OOCL reaches milestone with the christening of the OOCL Hong Kong" (Press release). OOCL. 15 พฤษภาคม 2017.
- ↑ "OOCL Hong Kong Achieves Guinness World Record". The Maritime Executive (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม 2018.
- ↑ "China shipping firm Cosco to buy HK rival OOIL for $6.3bn". BBC News. 10 กรกฎาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2017.
- ↑ "OOCL Boxship Giant Hong Kong on Maiden Visit to Namesake City". Offshore Energy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 25 กรกฎาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 1 พฤษภาคม 2021.
- ↑ Bahtić, Fatima (12 ตุลาคม 2021). "VIDEO: 24,188 TEU behemoth OOCL Spain makes debut call in Hamburg". offshore-energy.biz. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2023.
- ↑ Information Technology - OOCL.com
- ↑ "OOCL teams with Microsoft to develop AI shipping solutions -". Splash 247 (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 24 เมษายน 2018. สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน 2018.
- ↑ "Sustainability Report 2014" (PDF). static.globalreporting.org. Orient Overseas (International) Limited. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 มกราคม 2018.
- ↑ Customer Advisories - OOCL.com
- ↑ "OOCL Hong Kong takes the world's largest containership crown". www.seatrade-maritime.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2025.
- ↑ "COSCO could surpass CMA CGM as third largest container line". Container News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 8 กันยายน 2021. สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน 2021.
- ↑ "OOCL Orders Five 23,000 TEU Giants in China". Offshore Energy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 11 มีนาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2021.
- ↑ "OOCL orders 7 more 23,000 TEU boxships in China". Offshore Energy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2 พฤศจิกายน 2020. สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2021.
- ↑ Ajdin, Adis (23 ตุลาคม 2024). "OOCL signs up for Seaspan newbuilds". Splash247 (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2 มีนาคม 2025.
- ↑ "COSCO places orders for 12 methanol-powered giant ships". Container News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 31 ตุลาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2022.
- ↑ Ajdin, Adis (30 เมษายน 2025). "OOCL signs $3bn boxship order". Splash247 (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2025.