ข้ามไปเนื้อหา

โอลด์ ทิคโก้

พิกัด: 61°38′22″N 12°40′35″E / 61.63931°N 12.67633°E / 61.63931; 12.67633
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โอลด์ ทิคโก้
ต้นโอลด์ ทิคโก้ บนภูเขาฟูลูฟเยลเลต
แผนที่
แผนที่ที่ตั้งของต้นโอลด์ ทิคโก้
ชนิดNorway spruce (Picea abies)
ตำแหน่งภูเขาฟูลูฟเยลเลต (Fulufjället), จังหวัดดาลาร์นา (Dalarna), ประเทศสวีเดน
พิกัด61°38′22″N 12°40′35″E / 61.63931°N 12.67633°E / 61.63931; 12.67633
ความสูง5 m (16 ft 5 in)
วันที่เพาะเมล็ดประมาณ 7550 ปีก่อนคริสต์ศักราช

โอลด์ ทิคโก้[a] เป็นต้นสนพันธุ์ พีเซีย อาบีส์ (Norway spruce) อายุประมาณ 9,566 ปี ตั้งอยู่ในจังหวัดดาลาร์นา ประเทศสวีเดน โอลด์ ทิคโก้มีชื่อเสียงในฐานะ "ต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก"[1] อย่างไรก็ตาม โอลด์ ทิคโก้เป็นต้นไม้ชนิดโคลนัล ที่สามารถงอกลำต้น กิ่งก้าน และรากใหม่ได้ตลอดระยะเวลานับพันปี แทนที่จะเป็นต้นเดี่ยวที่มีอายุมาก โอลด์ ทิคโก้ได้รับการยอมรับว่าเป็น Picea abies ที่มีอายุยืนที่สุดที่ยังคงมีชีวิตอยู่ และเป็นหนึ่งในต้นไม้ชนิดโคลนัลที่เก่าแก่ที่สุดที่มีการบันทึก[2]

อายุของต้นไม้ต้นนี้ถูกกำหนดโดยการตรวจสอบอายุด้วยคาร์บอนจากชิ้นส่วนที่มีพันธุกรรมตรงกันซึ่งเก็บได้จากใต้ต้น เนื่องจากการตรวจสอบอายุต้นไม้โดยใช้วิธีเดนโดรโครโนโลยีไม่สามารถใช้กับต้นไม้ชนิดโคลนัลได้ ตัวลำต้นของต้นนี้คาดว่ามีอายุเพียงไม่กี่ศตวรรษ แต่ต้นไม้ยังคงมีชีวิตอยู่มาได้เป็นเวลายาวนานผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การเลเยอร์ริ่ง (layering) (เมื่อกิ่งสัมผัสดินและเกิดรากใหม่) หรือการโคลนทางพืช (เมื่อส่วนลำต้นตายแต่ระบบรากยังคงมีชีวิตและสามารถงอกลำต้นใหม่)[3]

การค้นพบและรายละเอียด

[แก้]
ตัวอย่างของต้นไม้ที่มีการเติบโตแบบ ครุมโฮลซ์ (krummholz)

ระบบรากของต้นโอลด์ ทิคโก้ คาดว่ามีอายุประมาณ 9,567 ปี[1][4] ทำให้เป็นต้น นอร์เวย์สปรูซ ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันต้นนี้สูงประมาณ 5 เมตร (16 ฟุต)[5] และตั้งอยู่บนภูเขาฟูลูฟเยลเลต (Fulufjället) ในจังหวัดดาลาร์นา ประเทศสวีเดน[6] ตลอดเวลาหลายพันปี ต้นโอลด์ ทิคโก้ มีลักษณะเป็นพุ่มที่เติบโตแบบเตี้ยๆ หรือแบบ ครุมโฮลซ์ (krummholz) ซึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ในศตวรรษที่ 20 ภาวะโลกร้อนทำให้ต้นโอลด์ ทิคโก้เจริญเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้น ผู้ค้นพบต้นไม้คู่นี้ ได้แก่ เลย์ฟ คุลมันน์ (ศาสตราจารย์ด้านภูมิศาสตร์กายภาพที่มหาวิทยาลัยอูเมโอ) และลิซ่า โอแบร์ก (นักวิทยาศาสตร์ด้านต้นไม้) ซึ่งตั้งชื่อเล่นให้ต้นไม้นี้ว่า "โอลด์ ทิคโก้" ตามชื่อสุนัขของพวกเขา[5]

ต้นโอลด์ ทิคโก้รอดชีวิตมาได้ยาวนานด้วยการ โคลนนิงแบบไม่อาศัยเพศ ต้นไม้ที่เห็นในปัจจุบันยังคงเยาว์วัยเมื่อเทียบกับระบบรากที่เก่าแก่หลายพันปี โครงสร้างลำต้นที่มองเห็นอาจตายและงอกใหม่หลายครั้ง แต่ระบบรากยังคงอยู่และงอกลำต้นขึ้นใหม่ได้อีก ลำต้นมีอายุขัยประมาณหกร้อยปี และเมื่อลำต้นตาย จะมีลำต้นใหม่ขึ้นมาแทนที่ในที่สุด[7] นอกจากนี้ ในช่วงฤดูหนาว กิ่งที่อยู่ใกล้พื้นดินอาจสัมผัสกับพื้นดินและงอกรากเพื่อเจริญเติบโตใหม่ในกระบวนการที่เรียกว่า การเลเยอร์ริ่ง (layering) หรือการงอกรากจากจุดที่กิ่งสัมผัสพื้น กระบวนการนี้ยังพบในต้นเรดวูด (Sequoia sempervirens) และซีดาร์ตะวันตก (Thuja plicata) ด้วย[8] นักวิจัยกำหนดอายุของต้นโอลด์ ทิคโก้โดยใช้วิธี การตรวจหาอายุด้วยคาร์บอน-14 ซึ่งพบว่ารากบางส่วนมีอายุประมาณ 375, 5,660, 9,000 และ 9,550 ปี กระบวนการคาร์บอนเดทติ้งไม่สามารถบอกปีที่แน่นอนที่ต้นไม้เริ่มงอกได้ แต่จากการคำนวณแล้ว คาดว่าต้นโอลด์ ทิคโก้เริ่มงอกในช่วงประมาณ 7,550 ปีก่อนคริสต์ศักราช ทั้งนี้ อารยธรรมโบราณเริ่มมีการบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งแรกในช่วงประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช นักวิจัยพบกลุ่มต้นสปรูซอีกประมาณยี่สิบต้นที่มีอายุมากกว่าแปดพันปีในบริเวณเดียวกันนี้[9][10]

การประมาณอายุของต้นโอลด์ ทิคโก้เกือบใกล้เคียงกับอายุสูงสุดของพื้นที่นี้ เนื่องจากธารน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นที่แถบฟูลูฟเยลเลตได้ละลายไปในช่วงประมาณหนึ่งหมื่นปีก่อน[11]

หน่วยงานอนุรักษ์ธรรมชาติเคยพิจารณาว่าจะสร้างรั้วรอบต้นโอลด์ ทิคโก้เพื่อป้องกันจากการบุกรุกของคนหรือการตัดไม้เพื่อเป็นที่ระลึก[12]

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2024 มีรายงานว่า สตูดิโอศิลปะจากสตอกโฮล์ม Goldin+Senneby ได้สร้างห้องควบคุมอุณหภูมิในโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่เมืองมาลเมอ ประเทศสวีเดน เพื่อเป็นที่จัดแสดงต้นอ่อนของโอลด์ ทิคโก้ โดยใช้กิ่งเล็ก ๆ จากยอดของต้นโอลด์ ทิคโก้ที่ถูกปลูกบนก้านของต้นสปรูซอื่น ทำให้เกิดต้นอ่อนที่มีดีเอ็นเอเหมือนกับโอลด์ ทิคโก้[13][14]

ดูเพิ่มเติม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. ชื่อเดียวกันในภาษาสวีเดน: ไม่มีชื่อภาษาอื่น
  1. 1.0 1.1 "Swedes find 'world's oldest tree'". BBC News. April 17, 2008. สืบค้นเมื่อ May 6, 2008.
  2. Kullman, Leif (2003). "Ancient Upheaval at the Tree Line: The Rediscovery of a "Lost World"". Quaternary Research. 59 (2): 229–232. doi:10.1016/S0033-5894(03)00018-0.
  3. Lanner, Ronald M. (2007). The Bristlecone Book: A Natural History of the World's Oldest Trees. Mountain Press Publishing Company. ISBN 978-0-87842-538-3. {{cite book}}: ตรวจสอบค่า |isbn=: checksum (help)
  4. "The world's oldest tree". National Parks of Sweden. สืบค้นเมื่อ March 2, 2017.
  5. 5.0 5.1 Landau, Elizabeth. "World's oldest tree points to global warming impact". CNN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 22, 2014. สืบค้นเมื่อ May 6, 2008.
  6. "Världens äldsta träd". สืบค้นเมื่อ May 11, 2022.
  7. Owen, James. "Oldest Living Tree Found in Sweden". National Geographic. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-24. สืบค้นเมื่อ May 6, 2008.
  8. "World's Oldest Tree Discovered?". Western Institute for Study of the Environment. April 20, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 22, 2009. สืบค้นเมื่อ April 12, 2009.
  9. "World's oldest living tree discovered in Sweden". Umeå University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 20, 2008. สืบค้นเมื่อ May 6, 2008.
  10. Kirkebøen, Stein Erik (April 24, 2010). "Verdens eldste tre". Aftenposten (ภาษานอร์เวย์). p. 14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 27, 2010. สืบค้นเมื่อ April 30, 2010.
  11. Stroeven, Arjen P; Hättestrand, Clas; Kleman, Johan; Heyman, Jakob; Fabel, Derek; Fredin, Ola; Goodfellow, Bradley W; Harbor, Jonathan M; Jansen, John D; Olsen, Lars; Caffee, Marc W; Fink, David; Lundqvist, Jan; Rosqvist, Gunhild C; Strömberg, Bo; Jansson, Krister N (2016). "Deglaciation of Fennoscandia". Quaternary Science Reviews. 147: 91–121. Bibcode:2016QSRv..147...91S. doi:10.1016/j.quascirev.2015.09.016. hdl:1956/11701.
  12. Highfield, Roger (April 17, 2008). "World's oldest tree discovered in Sweden". Telegraph. London. สืบค้นเมื่อ May 6, 2008.
  13. Charles, Starr (July 1, 2024). "Goldin+Senneby designs climate-controlled chamber for "oldest spruce in the world"". Dezeen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-08-01.
  14. "Konst på sjukhusområdet i Malmö". skane.se (ภาษาสวีเดน). สืบค้นเมื่อ 2024-08-01.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
  • วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Old Tjikko
  • Parkar, Linda (December 8, 2018). "10 Oldest Trees in the World". TripYoda – Travel Guide. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 3, 2020. สืบค้นเมื่อ December 7, 2018.