ข้ามไปเนื้อหา

โอฟูนาโตะ

พิกัด: 39°4′55″N 141°42′32″E / 39.08194°N 141.70889°E / 39.08194; 141.70889
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โอฟูนาโตะ

大船渡市
ท่าเรือโอฟูนาโตะ
ท่าเรือโอฟูนาโตะ
ธงของโอฟูนาโตะ
ธง
ตราอย่างเป็นทางการของโอฟูนาโตะ
ตรา
ที่ตั้งของนครโอฟูนาโตะ (เน้นสีชมพู) ในจังหวัดอิวาเตะ
ที่ตั้งของนครโอฟูนาโตะ (เน้นสีชมพู) ในจังหวัดอิวาเตะ
แผนที่
โอฟูนาโตะตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
โอฟูนาโตะ
โอฟูนาโตะ
ที่ตั้งในประเทศญี่ปุ่น
พิกัด: 39°4′55″N 141°42′32″E / 39.08194°N 141.70889°E / 39.08194; 141.70889
ประเทศ ญี่ปุ่น
ภูมิภาคโทโฮกุ
จังหวัด อิวาเตะ
การปกครอง
 • ประเภทเทศบาลนคร
 • นายกเทศมนตรีคิโยชิ ฟูจิงามิ (渕上 清)
พื้นที่
 • ทั้งหมด322.51 ตร.กม. (124.52 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (1 มีนาคม ค.ศ. 2025)
 • ทั้งหมด31,414 คน
 • ความหนาแน่น97.4 คน/ตร.กม. (252 คน/ตร.ไมล์)
เขตเวลาUTC+09:00 (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น)
โทรศัพท์0192-27-3111
ที่อยู่ศาลาว่าการ15 อาซะอุตสึโนซาวะ ซาการิโจ นครโอฟูนาโตะ จังหวัดอิวาเตะ 022-8501
รหัสท้องถิ่น03203-4
เว็บไซต์เว็บไซต์ทางการ
สัญลักษณ์
สัตว์ปีกนกนางนวลหางดำ
ดอกไม้แต้ฮวย
ต้นไม้สนเขา

โอฟูนาโตะ (ญี่ปุ่น: 大船渡市โรมาจิŌfunato-shi) เป็นนครที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น มีขนาดพื้นที่ทั้งหมด 322.51 ตารางกิโลเมตร (124.52 ตารางไมล์)[1] มีจำนวนประชากร ณ วันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2025 ประมาณ 31,414 คน และมีความหนาแน่นของประชากร 97.4 คนต่อตารางกิโลเมตร[2]

ภูมิศาสตร์

[แก้]

นครโอฟูนาโตะตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดอิวาเตะ โดยมีมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่ทางทิศตะวันออก นอกตัวอ่าวโอฟูนาโตะมีกระแสน้ำทะเลอุ่นและเย็นมาบรรจบกัน ทำให้การประมงเชิงพาณิชย์ของเมืองนี้มีความเจริญขึ้น และพยายามสร้างตัวเองให้เป็นท่าเรือขนส่งที่สำคัญ เมืองนี้มีคามินาริอิวะ หินบนชายฝั่งโกอิชิ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 100 ภูมิทัศน์แห่งเสียงของญี่ปุ่นที่กำหนดโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่น[3] และพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนี้อยู่ภายในอาณาเขตของอุทยานแห่งชาติซันริกุฟุกโก

เทศบาลข้างเคียง

[แก้]

ภูมิอากาศ

[แก้]

นครโอฟูนาโตะภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นกึ่งเขตร้อน (การแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิพเพิน Cfa) โดยมีฤดูร้อนที่ร้อนและฤดูหนาวที่หนาวเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีในโอฟูนาโตะอยู่ที่ 11.7 °C ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 1,472 มิลลิเมตร โดยเดือนกันยายนเป็นเดือนที่มีฝนตกชุกที่สุด และเดือนมกราคมเป็นเดือนที่แห้งแล้งที่สุด อุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ยอยู่ในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ประมาณ 23.21 °C และต่ำสุดในเดือนมกราคมอยู่ที่ประมาณ 1.11 °C[4]

สถิติประชากร

[แก้]

ตามข้อมูลสำมะโนประชากรของญี่ปุ่น[7] จำนวนประชากรของโอฟูนาโตะมีจำนวนสูงสุดในราว ค.ศ. 1980 และลดลงในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา

ประวัติจำนวนประชากร
ปีประชากร±%
1920 24,175—    
1930 28,608+18.3%
1940 32,767+14.5%
1950 41,589+26.9%
1960 47,363+13.9%
1970 48,816+3.1%
1980 50,132+2.7%
1990 47,219−5.8%
2000 45,160−4.4%
2010 40,737−9.8%
2020 34,728−14.8%

ประวัติศาสตร์

[แก้]

พื้นที่ที่เป็นโอฟูนาโตะในปัจจุบัน เดิมเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นโบราณที่ชื่อแคว้นมุตสึ และมีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่ยุคโจมงเป็นอย่างน้อย และนักโบราณคดีได้ขุดพบกองซากเปลือกหอยจำนวนมากรอบอ่าวโอฟูนาโตะ ในช่วงยุคเซ็นโงกุ พื้นที่ดังกล่าวถูกควบคุมโดยกลุ่มซามูไรหลายกลุ่ม ก่อนที่จะตกอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลดาเตะในช่วงยุคเอโดะ ซึ่งปกครองแคว้นศักดินาเซ็นไดภายใต้รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ

หลังการปฏิรูปเมจิ เมื่อมีการประกาศใช้ระบบเทศบาล ได้มีการจัดตั้งหมู่บ้านโอฟูนาโตะขึ้นภายในอำเภอเคเซ็ง จังหวัดอิวาเตะ เมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1889 ต่อมาเมื่อ ค.ศ. 1896 ได้เกิดแผ่นดินไหวในซันริกุ ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นสึนามิสูง 25 เมตร คร่าชีวิตผู้คนในพื้นที่ไปกว่า 27,000 ราย หมู่บ้านโอฟูนาโตะได้รับการฐานะเป็นเมืองเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1932 และต่อมาได้เกิดแผ่นดินไหวซันริกุใน ค.ศ. 1933 ขนาด 8.4 และก่อให้เกิดคลื่นสึนามิสูง 28 เมตร ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 1,522 ราย

เทศบาลใกล้เคียงได้แก่ เมืองซาการิ หมู่บ้านอากาซากิ หมู่บ้านทักกง หมู่บ้านมัซซากิ หมู่บ้านอิกาวะ และหมู่บ้านฮิโกโรอิจิ ถูกผนวกรวมเข้ากับเมืองโอฟูนาโตะเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1952 และยกฐานะเป็นนครโอฟูนาโตะ เมืองนี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกเมื่อครั้งที่ถูกคลื่นสึนามิถล่มจากแผ่นดินไหวที่บัลดิเบียในประเทศชิลีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1960 และเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001 เมืองซันริกุ (จากอำเภอเคเซ็ง) ได้รวมเข้ากับนครโอฟูนาโตะ

แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮกุ ค.ศ. 2011

[แก้]
พื้นที่ใจกลางเมืองโอฟูนาโตะหลังเกิดคลื่นสึนามิเมื่อ ค.ศ. 2011

โอฟูนาโตะกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งอีกครั้งเนื่องจากได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮกุ ค.ศ. 2011[8] โดยมีคลื่นสึนามิความสูงประมาณ 23.6 เมตร[9] ซัดเข้าสู่อ่าวแคบ ๆ และไหลเข้ามายังแผ่นดินเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร[10] โรงละครของเมืองโอฟูนาโตะซึ่งไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ เป็นหนึ่งในอาคารไม่กี่หลังที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ และเป็นที่หลบภัยให้กับผู้รอดชีวิตประมาณ 250 คน[11][12] จากการประมาณการเบื้องต้นระบุว่ามีบ้านเรือนในเมือง 3,498 หลัง จากทั้งหมด 15,138 หลัง ที่ถูกทำลายจากคลื่นสึนามิ และมีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้ว 305 คน[13][14] สถานที่อพยพที่กำหนดไว้ 58 แห่งของเมือง มีอย่างน้อย 6 แห่งที่ถูกคลื่นสึนามิซัดท่วม[15] ผลกระทบจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นในนครโอฟูนาโตะ รวมถึงความพยายามในการช่วยเหลือที่เกิดขึ้นภายหลังนั้น ได้รับการนำเสนออย่างแพร่หลายผ่านสารคดีของอังกฤษเรื่อง "Japan's Tsunami Caught on Camera" (สึนามิญี่ปุ่นที่ถูกจับภาพผ่านกล้อง) ซึ่งออกอากาศทางแชนแนลโฟร์ในสหราชอาณาจักร

ไฟป่าโอฟูนาโตะ ค.ศ. 2025

[แก้]
ภาพถ่ายดาวเทียมของไฟป่า

ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2025 ไฟป่าได้เกิดขึ้นทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง และลุกลามกลายเป็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น[16]

การเมืองการปกครอง

[แก้]
ศาลาว่าการนครโอฟูนาโตะ

นครโอฟูนาโตะมีการบริหารในรูปแบบนายกเทศมนตรี-สภา โดยมีนายกเทศมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง และมีสภานครเป็นฝ่ายนิติบัญญัติระบบสภาเดียวซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 25 คน ในแง่ของการเมืองระดับจังหวัด นครโอฟูนาโตะเป็นเขตเลือกตั้งที่ให้สมาชิกสภาจังหวัดอิวาเตะจำนวน 1 ที่นั่ง และในแง่ของการเมืองระดับชาติ นครโอฟูนาโตะเป็นส่วนหนึ่งของเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดอิวาเตะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสภาล่างของรัฐสภาญี่ปุ่น

เศรษฐกิจ

[แก้]

เศรษฐกิจในท้องถิ่นส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการประมงเชิงพาณิชย์ โดยมีการผลิตซีเมนต์และการแปรรูปไม้เป็นอุตสาหกรรมรอง[ต้องการอ้างอิง]

การศึกษา

[แก้]
  • มหาวิทยาลัยคิตาซาโตะ วิทยาเขตซันริกุ
  • นครโอฟูนาโตะมีโรงเรียนประถม 11 แห่ง โรงเรียนมัธยมต้น 5 แห่งที่ดำเนินการโดยเทศบาลนครโอฟูนาโตะ และโรงเรียนมัธยมปลาย 2 แห่งที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการการศึกษาจังหวัดอิวาเตะ นอกจากนี้ นครโอฟูนาโตะยังมีโรงเรียนมัธยมปลายเอกชนอีก 1 แห่ง[ต้องการอ้างอิง]

การขนส่ง

[แก้]

รถไฟ

[แก้]

ทางหลวง

[แก้]

ท่าเรือ

[แก้]
  • ท่าเรือโอฟูนาโตะ

สิ่งที่น่าสนใจในท้องถิ่น

[แก้]
ชายฝั่งโกอิชิ

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

[แก้]

บุคคลที่มีชื่อเสียง

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 詳細データ 岩手県紫波町. 市町村の姿 グラフと統計でみる農林水産業 (ภาษาJapanese). Ministry of Agriculture, Forestry and Fisheries. 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 August 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2017.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  2. สถิติทางการของนครโอฟูนาโตะ เก็บถาวร 15 มีนาคม 2024 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ในภาษาญี่ปุ่น)
  3. "100 Soundscapes of Japan". Ministry of the Environment. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 June 2021. สืบค้นเมื่อ 8 December 2015.
  4. ข้อมูลภูมิภาคโอฟูนาโตะ
  5. 大船渡 平年値(年・月ごとの値) 主な要素 (ภาษาญี่ปุ่น). Japan Meteorological Agency. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2020. สืบค้นเมื่อ 16 December 2019.
  6. 観測史上1~10位の値(年間を通じての値) (ภาษาญี่ปุ่น). Japan Meteorological Agency. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2020. สืบค้นเมื่อ 16 December 2019.
  7. สถิติประชากรโอฟูนาโตะ
  8. Ofunato devastated by tsunami BBC report, 12 March 2011
  9. "23.6-meter-high tsunami triggered by March 11 quake: survey" Kyodo News, 23 March 2011
  10. "A thousand bodies a day will be recovered every day now". The Age. 22 March 2011. สืบค้นเมื่อ 31 May 2020.
  11. Synopsis of a Channel 4 TV news bulletin on 15 March 2011
  12. Tritten, Travis, J., and T. D. Flack, "U.S. rescue teams find devastation in northern city of Ofunato เก็บถาวร 17 มีนาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน", Stars and Stripes, 15 March 2011, retrieved 16 March 2011.
  13. NOAA tsunami data table
  14. Gilhooly, Rob, "Survivors strive to start picking up the pieces เก็บถาวร 31 มีนาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน", Japan Times, 27 March 2011, p. 7.
  15. Kyodo News, "Tsunami hit more than 100 designated evacuation sites เก็บถาวร 14 เมษายน 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน", Japan Times, 14 April 2011, p. 1.
  16. "Thousands evacuated as Japan's biggest fire in decades continues to burn". www.bbc.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 3 March 2025. สืบค้นเมื่อ 5 March 2025.
  17. 碁石海岸 (ภาษาญี่ปุ่น). Agency for Cultural Affairs. สืบค้นเมื่อ 10 February 2012.
  18. "International Exchange". List of Affiliation Partners within Prefectures. Council of Local Authorities for International Relations (CLAIR). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 December 2015. สืบค้นเมื่อ 21 November 2015.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]