โลกธาตุ
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
![]() |
โลกธาตุ ในทางพระพุทธศาสนานั้น มีแสนโกฏิจักรวาล หรือ 1 ล้านล้านจักรวาล
จักรวาลในศาสนาพุทธแบ่งออกเป็น 3 ขนาด
- จักรวาลขนาดเล็ก ( น่าจะหมายถึงสุริยจักรวาล )
- จักรวาลขนาดกลาง ( น่าจะหมายถึงกาแล็คซี่ )
- จักรวาลขนาดใหญ่ ( น่าจะเป็นกลุ่มกาแล็คซีจำนวนมากที่หมุนวนอยู่ในรูปดาราจักร เช่นเดียวกับสุริยจักรวาลและกาแล็คซี่ )
ตามหลักอภิธรรมได้อธิบายไว้ว่า
- หนึ่งพันจักรวาลขนาดเล็ก รวมกันเป็น หนึ่งจักรวาลขนาดกลาง
- หนึ่งพันจักรวาลขนาดกลาง รวมกันเป็น หนึ่งจักรวาลขนาดใหญ่
และ
- หนึ่งพันโลกธาตุขนาดเล็ก เป็น หนึ่งโลกธาตุขนาดกลาง
- หนึ่งพันโลกธาตุขนาดกลาง เป็น หนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่
หรือ
- โลกธาตุขนาดเล็ก จะเท่ากับ จักรวาลขนาดกลาง
- โลกธาตุขนาดกลาง จะเท่ากับ จักรวาลขนาดใหญ่
ดังนั้น
- หนึ่งพันจักรวาลขนาดเล็ก เป็น หนึ่งโลกธาตุขนาดเล็ก
- หนึ่งพันจักรวาลขนาดกลาง เป็น หนึ่งโลกธาตุขนาดกลาง
- หนึ่งพันจักรวาลขนาดใหญ่ เป็น หนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่
- โลกธาตุขนาดใหญ่มีจำนวนหนึ่งพันโลกธาตุ
- โลกธาตุขนาดเล็กชื่อว่าสหัสสีจูฬนิกาโลกธาตุ มีพันจักรวาล
- โลกธาตุขนาดกลางชื่อว่าทวิสหัสสีมัชฌิมิกาโลกธาตุ มีล้านจักรวาล
- โลกธาตุขนาดใหญ่ชื่อว่าติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ มีพันล้านจักรวาล
โลกธาตุขนาดใหญ่มีจำนวนหนึ่งพันโลกธาตุ เมื่อนับรวมจักรวาลขนาดเล็กทั้งสิ้น ก็จะได้หนึ่งล้านล้านจักรวาล หรือแสนโกฏิจักรวาล ( หนึ่งพัน หรือ สหัสส ในภาษาบาลี ไม่ใช่จำนวนจริง แต่เป็นจำนวนภาษา หรือจำนวนประมาณ ในความหมายว่ามีจำนวนมากมายเป็นพันหรือหลายพัน )
เวลาถือกำเนิดจนสิ้นสลายไปของจักรวาลรอบหนึ่งเรียกว่ากัป
- จักรวาลขนาดเล็กแตกเรียกว่า 1 จุลกัป
- จักรวาลขนาดเล็กแตก 7 ครั้งในครั้งที่ 8 จักรวาลขนาดกลางจะแตกเรียกมัชฌิมกัป ( ซึ่งจักรวาลขนาดเล็กในจักรวาลขนาดกลางย่อมแตกตามไปด้วย )
- จักรวาลขนาดกลางแตก 7 ครั้งในครั้งที่ 8 จักรวาลขนาดใหญ่จะแตกเรียกมหากัป ( ซึ่งจักรวาลขนาดเล็กและจักรวาลขนาดกลางในจักรวาลขนาดใหญ่ย่อมแตกตามไปด้วย )
รวมเป็นแตกดับ 64 รอบในหนึ่งมหากัป
- จักรวาลขนาดเล็กแตกด้วยธาตุไฟ
- จักรวาลขนาดกลางแตกด้วยธาตุน้ำ
- จักรวาลขนาดใหญ่แตกด้วยธาตุลม
ซึ่งจักรวาลขนาดใหญ่นั้น ต่างเกิดขึ้นและแตกดับไม่พร้อมกัน ดุจฟองพรายน้ำ
ในวันสิ้นโลกในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนากล่าวว่าดวงอาทิตย์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น 7 เท่า หรืออาจมี 7 ดวง ( ในคัมภีร์ สัตต แปลว่า 7 อาจ 7 เท่า หรือ 7 ดวงก็ได้ ) หมายถึงลักษณะการแตกสลายไปของจักรวาลขนาดเล็กเท่านั้น
พระพุทธองค์ตรัสแสดงบอกลักษณะของโลกนี้ ว่า มหาปฐพีนี้ตั้งอยู่บนน้ำ ( แผ่นดินและมหาสมุทร ) น้ำตั้งอยู่บนลม ( มหาสมุทรและชั้นบรรยากาศ ) ลมตั้งอยู่บนอากาศ ( ชั้นบรรยากาศและอวกาศ ) สมัยที่ลมใหญ่พัด เมื่อลมใหญ่พัดอยู่ย่อมยังน้ำให้ไหว น้ำไหวแล้ว ย่อมยังแผ่นดินให้ไหว
อ้างอิง
[แก้]จูฬนีสูตร สุตตันตะปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม 1 ภาค 3 หน้า 431
สุริยสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 214
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพาน