ข้ามไปเนื้อหา

โรห์มา อิรามะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรห์มา อิรามะ
โรห์มา อิรามะ ขณะบรรยายธรรมในปาเล็มบัง ค.ศ. 2015
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซีย
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม ค.ศ. 1997 – 1 ตุลาคม ค.ศ. 1999
ประธานาธิบดีซูฮาร์โต
บาคารุดดิน ยูซุฟ ฮาบีบี
กลุ่มรัฐสภาF-KP
เขตเลือกตั้งจาการ์ตา
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด
โอมา อิรามะ

(1946-12-11) 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 (78 ปี)
ตาซิกมาลายา, จังหวัดชวาตะวันตก, อินโดนีเซีย
พรรคการเมืองพรรคสหพัฒนาการ[1]
การเข้าร่วม
พรรคการเมืองอื่น
พรรคอิสลามสงบสันติสุข (2015–2018)
คู่สมรส
บุตร5, รวมถึง เด็บบี อิรามะ, วิคกี อิรามะ, และ ริโดห์ อิรามะ
อาชีพ
  • นักร้อง
  • นักแต่งเพลง
  • มือกีตาร์
  • นักแสดง
  • นักธุรกิจ
ลายมือชื่อ
อาชีพทางดนตรี
ฉายาRaja Dangdut (ราชาแห่งเพลงดังดุต)
แนวเพลงดังดุต
เครื่องดนตรี
  • ร้องเพลง
  • กีตาร์
ช่วงปีค.ศ. 1958 – ปัจจุบัน
ค่ายเพลง
เว็บไซต์rhomairama.info

ระเด่น หัจญี โอมา อิรามะ (อินโดนีเซีย: Raden Haji Oma Irama) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ โรห์มา อิรามะ (อินโดนีเซีย: Rhoma Irama) (เกิดวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946) เป็นนักร้องเพลงดังดุต นักแต่งเพลง และมือกีตาร์ชาวอินโดนีเซียเชื้อสายซุนดา

โรห์มาเริ่มอาชีพนักดนตรีในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ในชื่อ โรห์มา อิรามะ ในฐานะส่วนหนึ่งของวงดนตรีโอร์เกสเมอะลายูปุรนามะ (Orkes Melayu Purnama) โดยเป็นผู้บุกเบิกดนตรีดังดุตหลายรูปแบบ จากนั้นจึงก่อตั้งวงโซเนตากรุป (Soneta Group) และประสบความสำเร็จทางดนตรีมากมายด้วยสไตล์ดังดุตอันล้ำสมัยที่ผสมผสานอิทธิพลของดนตรีตะวันตก มลายู และบอลลีวูด

ตั้งแต่ปลายทศวรรษปี 1970 โรห์มาเริ่มหันเหแนวเพลงตนเองไปเน้นไปทางศาสนาอิสลามมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อวัฒนธรรมดนตรียอดนิยมทางศาสนา [2] ในช่วงที่เขาโด่งดังสูงสุดในยุคทศวรรษ 1970 เขาได้รับการขนานนามว่า "รายา ดังดุต" (Raja Dangdut "ราชาแห่งเพลงดังดุต") พร้อมกับวงของเขา [3] ทั้งยังรับงานแสดงภาพยนตร์อีกด้วย

เขายังมีบทบาททางการเมืองโดยช่วยหาเสียงให้กับพรรคสหพัฒนาการระหว่างยุคระเบียบใหม่ ในปี ค.ศ. 2015 โรห์มาก่อตั้งพรรคอิสลามสงบสันติสุข และดำรงตำแหน่งประธานพรรคไปจนถึง ค.ศ. 2018 เมื่อเขาตัดสินใจยุบรวมพรรคเข้ากับพรรคอาณัติแห่งชาติ

ชีวิตตอนต้น

[แก้]

โรห์มาเกิดในครอบครัวชาวซุนดา โดยเป็นบุตรของระเด่นบุรดะห์ อังกาวีรยะ (Raden Burdah Anggawirya) และระเด่น หัจญ์ญะฮ์ ตุตี จูริยะห์ (R. Hj. Tuti Juariah) [4]

อาชีพ

[แก้]

ทศวรรษ 1960: ก่อนตั้งวง

[แก้]
โรห์มา อิรามะ ในปี ค.ศ. 2010

วงดนตรีแรก ๆ ของโอมา อิรามะ รู้จักกันในชื่อ โตร์นาโด (Tornado) และไกฮันด์ (Gayhand) ซึ่งเล่นเพลงร็อกแอนด์โรลตะวันตกของ พอล แองคา, แอนดี วิลเลียมส์ และเดอะบีเทิลส์ [5]

ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 โอมา อิรามะ เริ่มร้องเพลงชวาและเพลงป็อปอินโดนีเซีย ในปี 1968 เขาเข้าร่วมวงโอร์เกสเมอะลายูปุรนามะ (Orkes Melayu Purnama) วงนี้เป็นผู้บุกเบิกองค์ประกอบต่าง ๆ ของดนตรีดังดุต โดยในดนตรีโอร์เกสเมอะลายูได้เปลี่ยนกลองเป็นกลองคู่ กีตาร์ไฟฟ้าเริ่มมีบทบาทมากขึ้น และยังมีการปล่อยขลุ่ยคล้ายกับทำนองเพลงบอลลีวูดอีกด้วย นอกจากนี้ เขายังบันทึกเพลงป็อปอินโดนีเซียในช่วงเวลานี้กับซาเอนัล คอมโบ (Zaenal Combo) และกาลักซี (Galaksi) ในขณะที่อัลบั้มอิงการ์ จันจี (Ingkar Janji) ได้รับการบันทึกในปี ค.ศ. 1969 กับวงโอร์เกส เมอะลายู จันดราเลกา (Orkes Melayu Chandraleka)

ต้นทศวรรษ 1970: ตั้งวง

[แก้]

หลังจากที่โอมาเลิกบันทึกเสียงกับวงปุรนามะกรุป เขาก็ก่อตั้งวงโอร์เกสเมอะลายูโซเนตา (มาจากคำว่า ซอนเน็ต) ขึ้นมา ซึ่งกลายมาเป็นวงดังดุตวงแรกในปี ค.ส. 1970

กลุ่มนี้มีนักร้องนำคือ โอมา อิรามะ และ เอลวี ซูแกซิห์ ทั้งเพลงร้องเดี่ยวและร้องคู่ อัลบั้มแรกของพวกเขา โวลุมซาตู, เบอะกาดัง (Volume 01, Begadang - "นอนดึก") ออกจำหน่ายในปี ค.ศ. 1973 ประกอบด้วยเพลงของโอมา อิรามะ 4 เพลง เพลงของเอลวี 3 เพลง และร้องคู่ 3 เพลง เพลงนี้โอมาได้เปลือยท่อนบนและสวมกางเกงขายาวรัดรูปถือกีตาร์ไฟฟ้า ท่าโพสของเขาแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลดนตรีตะวันตกที่มีต่อเขา ซึ่งอิทธิพลเหล่านี้ยังส่งผลต่อดนตรีของเขาด้วย ในความเห็นของเขาโอร์เกสดังดุตนุ่มนวลเกินไป มีความเป็นอะคูสติกเกินไปและสุภาพเกินไป และไม่สามารถแข่งขันกับกระแสของดนตรีร็อกได้ ดังนั้นดนตรีของโอมาจึงเต็มไปด้วยกีตาร์ไฟฟ้า, คีย์บอร์ด กีตาร์และเบสไฟฟ้า รวมถึงขลุ่ยและกลองแบบดั้งเดิม เขาเคยกล่าวว่าสไตล์การเล่นกีตาร์ของเขาได้รับอิทธิพลมาจากริตชี แบล็กมอร์ แห่งวงดีปเพอร์เพิล นอกจากอิทธิพลจากดนตรีตะวันตกและมลายูแล้ว ดนตรีบอลลีวูดยังมีอิทธิพลในเพลงบางเพลงของวงด้วย

อัลบั้ม เบอะกาดัง ติดอันดับที่ 11 ในรายการ "150 อัลบั้มอินโดนีเซียที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล" โดยนิตยสารโรลลิงสโตนอินโดนีเซีย [6] ซิงเกิลหลัก เบอะกาดัง อยู่ในอันดับที่ 24 ในรายการ "150 เพลงอินโดนีเซียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล" ของนิตยสารด้วย [7]

เพลง เตอะราจานะ (Terajana) ที่โด่งดังในปี ค.ศ. 1973 ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงดังดุตที่ดังที่สุดตลอดกาล เป็นเพลงแรกที่ใช้คำว่า ดังดุต ซึ่งเป็นศัพท์เรียกแนวเพลงดังดุตอันมีที่มาจากวงโอร์เกสเมอะลายูและดนตรีบอลลีวู้ด

เมื่อโซเนตาก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1970 โอมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรห์มา และออกผลงานเพลงและภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่องยาวนานกว่าทศวรรษ โดยโรห์มาเล่นเป็นตัวเองขณะแสดงเพลงฮิตทั้งหมดของเขา เขาแต่งเพลงคลาสสิกอย่าง เกอะเรอะตา มาลัม (Kereta Malam - "รถไฟกลางคืน") และ กูดา ลุมปิง (Kuda Lumping - "ม้าของเล่น") ซึ่งขับร้องโดยเอลวี ซูแกซิห์

เขาแสดงสดโดยใช้พร็อพประกอบฉากมากมายสำหรับดนตรีร็อกแนวอารีนา ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมจำนวนมาก ระบบเสียงที่ทรงพลัง ฉากที่ซับซ้อน พลุไฟ ไฟกะพริบ และเครื่องสร้างควัน นอกจากนี้ เขายังโดดเด่นด้วยการใช้เครื่องดนตรีที่มีชื่อเสียงบางชิ้น เช่น กีตาร์สแตนเบอร์เกอร์ (Steinberger) รุ่นต่าง ๆ กีตาร์รุ่นนี้ได้รับการจัดแสดงในโปสเตอร์ แผ่นพับ ภาพยนตร์ และภาพพินอัพของเขา

ปลายทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา: แนวเพลงทางศาสนา

[แก้]

หลังจากทำพิธีฮัจญ์ในปี ค.ศ. 1975 เขาใช้ชื่อโรห์มา อิรามะ ซึ่งเป็นคำย่อของ "ระเด่น หัจญี โอมา อิรามะ" หลังจากการเดินทางแสวงบุญครั้งนี้ เขาใช้แนวทางศีลธรรมทางศาสนาอิสลามที่ชัดเจนมากขึ้น โดยสวมชุดอิสลาม ตัดผมสั้น และขับไล่สมาชิกวงดนตรีที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือมีเพศสัมพันธ์นอกการสมรสออกไป นอกจากนี้ เขาตั้งปณิธานว่าดนตรีของเขาควรสอน ไม่ใช่เพียงให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นการอุทิศตนผ่านดนตรีอีกด้วย ดนตรีของเขามีเนื้อหาเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์นอกการสมรส การทุจริตของรัฐบาล ยาเสพติด และการพนัน [5] ตัวอย่างเช่น เพลง ฮะรอม (Haram) เตือนเรื่องยาเสพติดและการพนัน ในขณะที่เพลง เกอะรามัต (Keramat) ก็ตอกย้ำคำสั่งสอนในศาสนาอิสลามที่ให้เกียรติมารดา

ภาพยนตร์ เปอะจูวะงัน ดัน โดอะ (Perjuangan dan Doa - "การต่อสู้และการภาวนา") ของเขาในปี ค.ศ. 1982 ได้รับการขนานนามว่าเป็นภาพยนตร์เพลงร็อกอิสลามเรื่องแรกของโลก

การเมือง

[แก้]

ระหว่างยุคซูฮาร์โต

[แก้]

โรห์มา อิรามะ รณรงค์หาเสียงให้กับพรรคสหพัฒนาการ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 ถึง ค.ศ. 1982 และด้วยเหตุนี้ เขาจึงถูกห้ามไม่ให้ออกอากาศทางโทรทัศน์และวิทยุของรัฐโดยระบอบการปกครองของซูฮาร์โต ซึ่งในขณะนั้นกำลังบังคับใช้การแยกศาสนาและรัฐออกจากกัน และเพลงบางเพลงของเขายังถูกห้ามจำหน่ายอีกด้วย ข้อห้ามดังกล่าวถูกยกเลิกในปี ค.ศ. 1988 และเมื่อซูฮาร์โตเองหันมาทางศาสนาอิสลามมากขึ้นในช่วงทศวรรษ 1990 ดังดุตก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของกระแสสังคม

การเลือกตั้งในประเทศอินโดนีเซีย ค.ศ. 2014

[แก้]

ในช่วงปลายปี ค.ศ. 2012 โรห์มา อิรามะได้ประกาศความตั้งใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 2014 สมาคมวาซิยัต อุลามะ (Wasiat Ulama) และสมาคมนักดนตรีมลายูแห่งอินโดนีเซีย (PAMMI) ได้ประกาศสนับสนุนเขา [8]

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 โรห์มา อิรามะได้รับการเสนอให้เป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคการตื่นตัวแห่งชาติ ร่วมกับยูซุฟ กัลลา และ เอ็มดี มาห์ฟุด [9]

พรรคอิสลามสันติสงบสุข

[แก้]

วันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 2015 โรห์มาประกาศตั้งพรรคอิสลามสงบสันติสุข (อินโดนีเซีย: Partai Islam Damai Aman อักษรย่อ Idaman) [10] ความพยายามของพรรคที่จะเข้าร่วมการเลือกตั้งทั่วไปของอินโดนีเซียในปี ค.ศ. 2019 ล้มเหลว หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งทั่วไป (KPU) ปฏิเสธการลงทะเบียน และความพยายามเบื้องต้นที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงานกำกับดูแลการเลือกตั้งทั่วไป (Bawaslu) ล้มเหลว [11] โดยได้พยายามอุทธรณ์ครั้งที่สองต่อศาลปกครองและถูกตัดสินให้เป็นโมฆะเช่นกัน [12] หลังจากที่พรรคได้ใช้ทุกวิถีทางในการอุทธรณ์และไม่สามารถพลิกคำตัดสินได้ โรห์มาได้ประกาศว่าพรรคได้ควบรวมเข้ากับพรรคอาณัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 [13]

แหล่งอ้างอิง

[แก้]
  1. "Salinan arsip". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-19. สืบค้นเมื่อ 2022-09-04. {{cite web}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |dead-url= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  2. Maribeth Erb, Priyambudi Sulistiyanto (2009). Deepening Democracy in Indonesia?: Direct Elections for Local Leaders (Pilkada). Singapore: Institute of Southeast Asian Studies. p.219.
  3. "Rhoma Irama". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 17, 2010. สืบค้นเมื่อ February 27, 2010.
  4. "Rajadangdut.com". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 13, 2007.
  5. 5.0 5.1 Andrew N. Weintraub, Dangdut Stories: A Social and Musical History of Indonesia's Most Popular Music, Oxford University Press, 2010; ISBN 978-0-19-539567-9
  6. Rolling Stone Special Edition: 150 Greatest Indonesian Albums of All Time (ภาษาอินโดนีเซีย) (32nd ed.). Rolling Stone Indonesia. 2007.
  7. Rolling Stone Special Edition: 150 Greatest Indonesian Songs of All Time (ภาษาอินโดนีเซีย) (56th ed.). Rolling Stone Indonesia. 2009.
  8. "'Dangdut' king ready for presidency". The Jakarta Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 17, 2012. สืบค้นเมื่อ November 14, 2012.
  9. "PKB Proposes Rhoma Irama for President". Tempo English Online. December 16, 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 30, 2014. สืบค้นเมื่อ March 30, 2014.
  10. Nabilla Tashandra (October 14, 2015). "Sambil Dangdutan, Rhoma Irama Sampaikan Visi Misi Partai Idaman" (ภาษาอินโดนีเซีย). Kompas.com.
  11. Alexander Haryanto (January 15, 2018). "Gugatan Partai Idaman Pimpinan Rhoma Irama Ditolak Bawaslu" (ภาษาอินโดนีเซีย). Tirto.id.
  12. Agung DH (April 10, 2018). "Gugatan Partai Idaman Ditolak PTUN, Rhoma Irama Akan Bentuk Koalisi" (ภาษาอินโดนีเซีย). Tirto.id.
  13. Abi Sarwanto (May 12, 2018). "Partai Idaman Gabung PAN, Zulkifli Sebut Rhoma Tetap Ketum" (ภาษาอินโดนีเซีย). CNN Indonesia.