โรงเรียนกำเนิดวิทย์
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง คุณสามารถพัฒนาบทความนี้ได้โดยเพิ่มแหล่งอ้างอิงตามสมควร เนื้อหาที่ขาดแหล่งอ้างอิงอาจถูกลบออก |
บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของวิกิพีเดีย หรือกำลังดำเนินการอยู่ คุณช่วยเราได้ หน้าอภิปรายอาจมีข้อเสนอแนะ |
โรงเรียนกำเนิดวิทย์ KVIS Kamnoetvidya Science Academy | |
---|---|
![]() | |
![]() | |
ที่ตั้ง | |
![]() | |
ข้อมูล | |
ชื่ออื่น | กว. (KVIS) |
ชื่อเดิม | โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง |
ประเภท | โรงเรียนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนเอกชน โรงเรียนประจำ |
คำขวัญ | บาลี: दन्तो सेट्ठो मनुस्सेसु ทนฺโต เสฏฺโฐ มนุสฺเสสุ (ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนได้แล้ว เป็นผู้ประเสริฐสุด) |
สถาปนา | 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 |
ผู้ก่อตั้ง | มูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง RASA |
หน่วยงานกำกับ | สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ระยอง เขต 2 |
ผู้อำนวยการ | ผศ.ดร.บุญโชติ เผ่าสวัสดิ์ยรรยง |
จำนวนนักเรียน | 216 คน (ปีการศึกษา 2562) |
บ้าน |
|
สี | ██ สีม่วง - ██ สีเขียว |
การจัดการศึกษา | มัธยมศึกษาตอนปลาย |
ต้นไม้ประจำโรงเรียน | ไม้พะยูง |
เว็บไซต์ | www |
Genesis of Knowledge |
โรงเรียนกำเนิดวิทย์ หรือ KVIS คือโรงเรียนที่กลุ่ม ปตท. ตั้งอยู่ที่ วังจันทร์ วัลเลย์ โดยมูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง ได้ดำเนินการจัดตั้งเพื่อเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำ สร้างปัญญาเพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน จัดการศึกษาที่มีมาตรฐานคุณภาพระดับโลก ให้กับผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมปลาย บ่มเพาะจิตวิญญาณของการเป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์และนักนวัตกรรมที่มีจิตสาธารณะและเจตคติที่ดีต่อธรรมชาติและเพื่อนร่วมโลก ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ เลขที่ 999 หมู่ 1 ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง 21210
ประวัติ[แก้]
แนวคิดริเริ่ม[แก้]
ประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีล้วนให้ความสำคัญต่อการจัดการศึกษาด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนสำหรับกลุ่มที่ 3 การศึกษาเพื่อการสร้างองค์ความรู้ใหม่ อันเป็นการจัดการเรียนการสอนสำหรับกลุ่มบุคคลที่จะทำหน้าที่ค้นคว้าวิจัย ประดิษฐ์คิดค้น เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นักเรียนกลุ่มนี้มักได้รับการเรียกขานว่า “กลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์” นักเรียนเหล่านี้ควรได้รับการสรรหา ส่งเสริม และบ่มเพาะให้ทำหน้าที่เป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์ และนักนวัตกรรม เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับสังคมและประเทศชาติ บุคคลที่จะทำหน้าที่เป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์ และนักนวัตกรรมที่ได้กล่าวถึงข้างต้นนี้ ส่วนใหญ่ควรต้องมีพื้นฐานการศึกษาระดับปริญญาเอกหรือหลังปริญญาเอก และบุคคลกลุ่มนี้ควรได้รับการสรรหา ส่งเสริม และบ่มเพาะมาตั้งแต่เยาว์วัย อย่างน้อยตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นต้นไป ประเทศที่มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีโครงการสรรหา ส่งเสริม และบ่มเพาะนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เยาว์วัยมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ประเทศไทยเพิ่งเริ่มให้ความสนใจการจัดการศึกษาให้กับผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาเมื่อไม่นานมานี้เอง และยังมีจำนวนนักเรียนอยู่ในโครงการน้อยมาก
ขณะนั้น ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของกลุ่ม ปตท. (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารโรงเรียนกำเนิดวิทย์) ได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมโดยรวบรวมผู้มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ มาร่วมในการก่อตั้งโรงเรียนกำเนิดวิทย์
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ เมื่อ พ.ศ. 2558 ความตอนหนึ่งว่า
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดในการผลักดันประเทศและเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอำนาจมาก เด็กพวกนี้จะเป็นความหวังของประเทศชาติในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราส่งนักเรียนของเราไปต่างประเทศเพื่อเอาปริญญาบัตร เอาความรู้แล้วกลับมาทำงาน คำถามสำคัญถ้าเรายังต้องพึ่งคนอื่นเรื่อยๆแม้กระทั่งในระบบการศึกษา เราจะมีทางเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ที่ก้าวหน้าได้หรือไม่ นอกจากเราสอนนักเรียนให้มีความรู้ ความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นเลิศ เรายังพูดอีกเรื่องหนึ่งคือ ความเป็นผู้นำ เด็กกลุ่มนี้ซึ่งเป็นเด็กที่เก่งที่สุดของประเทศไทย เราเชื่อว่าเขาจะต้องเป็นผู้นำในการพัฒนาประเทศ เขาจะไม่เป็นแค่นักวิทยาศาสตร์อยู่ในห้องแล็บ เขาจะเป็นคนที่กล้าออกมาพูด กล้าคิด กล้าทำ และสามารถนำการพัฒนาประเทศได้ อีกหน่อยเราจะเห็นคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่ยืนอยู่แนวหน้าในการพัฒนาประเทศ และก็นำอนุชนรุ่นถัดๆไป ไปสู่ความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี[1][2]
ดร.ธงชัย ชิวปรีชา เป็นผู้อำนวยการคนแรกและปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการกิตติคุณของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ รับทราบจุดประสงค์ของโครงการ และรับเข้ามาดำเนินการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน นำความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์จากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกที่เคยไปดูงานมา มาปรับใช้กับโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์
การก่อสร้าง[แก้]
กลุ่ม ปตท. ประกอบด้วยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการศึกษาด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่นักเรียนกลุ่มที่ 3 หรือกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จึงได้ร่วมกันจัดตั้ง “มูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง” เพื่อให้มูลนิธิฯ ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนกำเนิดวิทย์ โดย ดร.ธีรเดช ธังสุบุตร ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์และโรงเรียนวิทยาศาสตร์กลุ่ม ปตท. ภาคตะวันออกเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้าง บนพื้นที่กว่า 900 ไร่ ซึ่งเป็นของบริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ในอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ปรับสภาพ ขุดทะเลสาบ สร้างอาคารสถานที่พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อการเรียนการสอนที่ดีที่สุด เครื่องมือทันสมัยที่สุดในประเทศ สภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยม ด้วยมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท
เปิดโรงเรียน[แก้]

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2558 เวลาประมาณ 09.30 โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ได้รับพระราชกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ทรงเปิดป้ายชื่อโรงเรียน โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ ปตท. นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานบริหารโรงเรียนกำเนิดวิทย์ พร้อมคณะเฝ้ารับเสด็จ ในการนี้ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังภายในอาคารเรียน เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการการเรียนการสอนของโรงเรียน
ชื่อพระราชทาน[แก้]
ชื่อโรงเรียนกำเนิดวิทย์ เป็นนามพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อันหมายถึงโรงเรียนที่เป็นแหล่งความรู้ (Genesis of Knowledge) และทางโรงเรียนกำเนิดวิทย์ยังได้รับพระราชกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเข็มติดเสื้อแก่นักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ทุกคน
การเรียนและการสอน[แก้]
นักเรียนที่สอบผ่านการคัดเลือก จะได้รับทุนการศึกษาฟรีเป็นเวลา 3 ปี พร้อมกับแล็ปท็อป อุปกรณ์การเรียนการสอน และชุดนักเรียน
ที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ดำเนินการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ยกเว้นรายวิชาภาษาไทย วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ สังคีตวิจักษ์ และพลศึกษา ครูชาวไทยส่วนหนึ่งและครูต่างชาติส่วนหนึ่ง ทีมครูผู้สอนคุณภาพโดยจบการศึกษาอย่างน้อยระดับ ปริญญาโท ทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์โดยตรง และสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ดีเยี่ยม อีกทั้งยังต้องผ่านการฝึกสอนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในโรงเรียนด้านวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะในต่างประเทศเป็นเวลา 6 เดือน มีเครื่องมือเครื่องไม้ที่ทันสมัย เช่น กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราด มูลค่า 6 ล้านบาท ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ต่างๆ ที่มีความพร้อม รวมถึงห้องสมุดที่ทันสมัย ห้องออกกำลังกาย ห้องซ้อมดนตรี ห้องกิจกรรม
โรงเรียนกำเนิดวิทย์เป็นโรงเรียนที่มีอัตราส่วนระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียนในระดับที่ต่ำที่สุดในประเทศไทย ในอัตรา 1 ต่อ 5 โดยครู 1 คนต่อนักเรียน 5 คน มีครูผู้เชี่ยวชาญชาวต่างประเทศ Visiting teacher มาช่วยสอน โดยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบช่วยกันสอนเป็นทีม Team teaching ใน 1 ห้องเรียนในบางครั้งมีครูผู้สอนถึง 3 คน โดยครูผู้สอนแต่ละคนจะมีรูปแบบการสอน หรือจุดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อดึงดูดความสนใจในการเรียน
โรงเรียนกำเนิดวิทย์เน้นการสอนแบบจุดประกายความคิดให้นักเรียนรู้สึกอยากเรียนรู้ อยากอ่าน อยากถาม เพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากต่อยอดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ด้วยกระบวนการทางความคิดของตัวนักเรียนเอง และมีการสอนในทางลึกกว่าและมากกว่าการสอนแบบปกติในโรงเรียนทั่วไปโดยอิงจาก Advanced Placement(AP Level) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และ GCE Advanced Level(A Level) ของประเทศอังกฤษ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ นอกจากเนื้อหาในบทเรียนที่ลงลึกกว่าโรงเรียนทั่วไปแล้วยังมีการจัดห้องเรียนเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักเรียนเป็นรายบุคคลที่เรียกว่า ห้องเรียนระดับสูง ซึ่งจะนำเนื้อหาสาระเทียบเท่ากับหลักสูตรของมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิควิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.) มาให้นักเรียนเรียนเพิ่มเติมและลงลึกไปในวิชาที่นักเรียนถนัดหรือสนใจเป็นพิเศษ[3]
นอกจากนี้ยังมีการเรียนรวมกันในห้องเรียนรวมทั้งหมด 72 คนในแต่ละรุ่น เพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นเป็นกลุ่มใหญ่ ดังนั้นในห้องนี้จึงมีครูผู้สอนช่วยกันหลายคนรวมไปถึงผู้ทรงคุณวุฒิที่จะเข้ามาช่วยในการเรียนรู้ของนักเรียนอีกด้วย
ก่อนจบการศึกษานักเรียนต้องทำงานวิจัย 1 เรื่อง และต้องเสนอผลงานเป็นภาษาอังกฤษ
ด้านการวิจัยและผลงานทางวิชาการ[แก้]
หลังจากที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ก่อตั้งมาได้เป็นเวลา 3 ปี นักเรียนรุ่นแรกที่จบการศึกษาออกไปก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยการสอบวัดผลความรู้ภาษาอังกฤษเพื่อจบการศึกษา (Exit Examination) ด้วยข้อสอบ TOEFL ITP นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยถึง 555.28 คะแนน ผลการสอบ AP Course ของ College Board สหรัฐอเมริกา นักเรียนของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ที่เข้าสอบร้อยละ 94.3 สามารถทำคะแนนได้ตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป ในขณะที่นักเรียนที่เข้าสอบจากทั่วโลก ได้คะแนนตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป เพียงร้อยละ 60.3 เท่านั้น ในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ นักเรียนของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ก็สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วยการคว้าเหรียญรางวัลได้อย่างมากมาย ทั้งยังมีผลงานวิจัยที่ได้รับตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ และได้รับเชิญให้ไปนำเสนอในที่ประชุมวิชาการระดับนานาชาติอีกด้วย[4]
อาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อม[แก้]
โรงเรียนตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พื้นที่ป่าต้นไม้เขียวขจี มีแนวภูเขาโอบล้อม
หอพักสำหรับนักเรียน[แก้]
เป็นโรงเรียนประจำ นักเรียนต้องพักอาศัยอยู่ภายในหอพัก แยกชาย หญิง บริเวณโรงเรียนปฏิบัติตามกฎของหอพักอย่างเคร่งครัด และอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันเสาร์ อาทิตย์ โดยเป็นไปตามระเบียบของโรงเรียน มีผู้ดูแลหอพักชายและหญิง ผู้ดูและประจำชั้น ห้องพักเป็นห้องเดี่ยวพร้อมเครื่องปรับอากาศ ไวไฟ แต่ละชั้นมีตู้เย็น ตู้น้ำดื่ม โทรทัศน์ อาคารมี 4 ปีก แต่ละปีก มี 6 ห้อง รวมชั้นละ 24 คนต่อชั้น มีระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าออก ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมชั้นละ 4 ห้องพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น โดยห้องพักมีความเป็นส่วนตัว ในบริเวณมีหอพักทั้งหมด 4 หอพัก แบ่งแยกหอพักชายและหอพักหญิง และแต่ละหอพักนักเรียนมีห้อง Common room เป็นห้องที่ใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน นอกเวลาเรียน
มีนักโภชนาการดูแลสุขภาพ และมีข้อตกลงส่งตัวกับโรงพยาบาลวังจันทร์ตลอด 24 ชั่วโมงในกรณีฉุกเฉิน มีครูผู้ดูแลหลายท่านในแต่ละตึกจะมี House master หรือครูใหญ่ประจำแต่ละตึก และครูผู้ดูแลในแต่ละชั้นอย่างใกล้ชิด เช็คชื่อประจำวัน รวมไปถึงการให้คำปรึกษาด้านการศึกษาหรือสอนการบ้าน
ห้องเรียน[แก้]
ในห้องเรียนวิชาเคมี ห้องเรียนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหน้าจะถูกใช้เป็นที่บรรยายและจดบันทึกเรียนรู้ มีไวท์บอร์ด และอุปกรณ์ฉายสไลด์ เหมือนห้องเรียนทั่วๆไป แต่ที่มีความแตกต่างออกไปก็คือ จะมีพื้นที่ทดลองที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์การทดลองในส่วนหลังของห้องเรียนด้วย การจัดทั้ง 2 ส่วนให้อยู่ใกล้กันมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การเรียนรู้ทางด้านทฤษฎีและทางด้านปฏิบัติอยู่ใกล้กันมากที่สุด ซึ่งเมื่อจดบันทึกเสร็จก็สามารถที่จะมาทดลองพิสูจน์ทฤษฎีที่เรียนมาได้เลยโดยที่จะไม่ทำให้การเรียนรู้ขาดตอน และนักเรียนจะได้เห็นปฏิกิริยาทางเคมี[5]
หลักสูตรโรงเรียนกำเนิดวิทย์[แก้]
โรงเรียนกำเนิดวิทย์เป็นโรงเรียนภายใต้สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หลักสูตรการเรียนเป็นไปตามกระทรวงศึกษาธิการประกาศ และทางโรงเรียนจัดสาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับศักยภาพของนักเรียนเป็นรายบุคคล หรือที่เรียกว่าวัดตัวตัดเป็นแห่งแรก มีกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความรู้ ความสามารถ ทักษะชีวิต การอยู่ร่วมกัน เป็นทั้งผู้ที่มีความรู้ความสามารถและ เป็นคนดีของสังคม
หลักสูตรแบบวัดตัวตัด คือนักเรียนมีความถนัด หรืออยากเรียนรู้ทางด้านใดก็ต้องให้นักเรียนได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพในด้านนั้น หลักสูตรจึงแบ่งเป็น 2 ระดับ คือพื้นฐานทั่วไปและขั้นสูง ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนแรก นักเรียนทุกคนจะเรียนขั้นพื้นฐานทั่วไปเหมือนกันทั้งหมด เมื่อพ้นไป 1 ภาคเรียน นักเรียนจะค้นพบตัวเองว่าชอบอะไรมาก ชอบทางด้านชีววิทยา เคมี หรือฟิสิกส์ หากนักเรียนคนใดค้นพบว่าตัวเองชอบหรือถนัดทางด้านใดมาก เมื่อถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาค 2 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็จะไปเรียนขั้นสูงเฉพาะทาง
แนวคิดหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนกำเนิดวิทย์มีการผสมผสานหยิบจับข้อดีของโรงเรียนด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์จากประเทศชั้นนำจากทั่วโลกมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียนกำเนิดวิทย์
การสอบคัดเลือก[แก้]
โรงเรียนกำเนิดวิทย์รับนักเรียนเข้าเรียนในแต่ละปีจำนวน 72 คน โดยจะแบ่งเป็นห้องละ 18 คน จำนวน 4 ห้อง ในจำนวนนี้จะคัดเลือกจากผู้สมัครตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากทุกจังหวัดจำนวน 72 คน และให้โควตานักเรียนที่เรียนในจังหวัดพื้นที่ ภาคตะวันออก 9 จังหวัด จำนวน 11 คน (ในกรณีที่นักเรียนมีสิทธิ์สอบรอบสองทั้ง 300 คน) หลังการสอบรอบแรกจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธ์เข้าสอบรอบ 2 จำนวน 300 คน และเมื่อสิ้นสุดการสอบรอบ 2 จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกตัวจริง 72 คน และตัวสำรองอีก 108 คน รวมเป็น 180 คน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 หรือรุ่นที่ 6 มีการปรับโดยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกตัวจริง 72 คนและที่เหลือทั้งหมดเป็นตัวสำรอง โดยนักเรียนที่จะสมัครสอบต้องมีคุณสมบัติด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดจึงจะสมัครสอบได้
เกณฑ์การรับสมัครนักเรียนระดับชั้น ม. 2 เพื่อสอบคัดเลือกเป็นนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จะใช้เกณฑ์นี้สำหรับนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ 3 รุ่นแรกเท่านั้น และตั้งแต่รุ่นที่ 4 เป็นต้นไป หรือ ปีการศึกษา 2561 ทางโรงเรียนกำเนิดวิทย์เปลี่ยนมารับสมัครนักเรียนระดับชั้น ม. 3 เพื่อสอบคัดเลือกเป็นนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์แทน
วิชาที่ใช้สอบคือวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เป็นอัตนัยทั้งหมดทั้งรอบแรกและรอบ 2 และในการสอบรอบ 2 ผู้สมัตรสอบทุกคนต้องสอบการทดลองวิทยาศาสตร์ภาคปฏิบัติด้วย โดยในการสอบรอบ 2 นี้ ผู้สมัตรจะต้องส่งแฟ้มผลงาน (Portfolio) ของผู้สมัตรให้กับทางโรงเรียนกำเนิดวิทย์ พิจารณาเป็นคะแนนในการสอบเข้า ภายใต้แนวคิดที่ว่า
"ผู้จะประสบความสำเร็จในอนาคตไม่ใช่เป็นเพียงผู้ที่เรียนหนังสือเก่งเท่านั้น แต่จะต้องเป็นผู้สนใจทำกิจกรรมที่หลากหลาย มีจิตสาธารณะ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ได้รับการยอมรับจากเพื่อน มีความเป็นผู้นำ สามารถทำงานเป็นกลุ่มได้ มีความมุมานะไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคต่างๆ"
ครั้งหนึ่งในการสอบรอบ 2 ในวิชาคณิตศาสตร์ มีการสอบแบบ Unseen Mathematics โดยการเชิญอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านคณิตศาสตร์มาบรรยายเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในเรื่องที่เด็กไม่เคยเรียนมาก่อน เมื่อบรรยายเสร็จก็ทำการสอบในเรื่องที่บรรยาย เป็นการวัดการเรียนรู้ว่าเด็กนักเรียนมีศักยภาพในการเรียนรู้หรือไม่
ครั้งหนึ่งการสอบคัดเลือกในภาคปฏิบัติวิชาวิทยาศาสตร์ สอบด้วยการใช้อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ อาทิ สารละลายปริศนา น้ำ ดินน้ำมัน กระดาษชำระ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือต้องการให้นักเรียนหัดวางแผนการทดลอง หรือออกแบบแผนการทดลองจากอุปกรณ์รอบๆตัว เพื่อวัดวิธีคิดของนักเรียน
มีการสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษก่อนเริ่มเรียน โดยนักเรียนทุกคน จะต้องผ่านการสอบ TOEFL-iTP โดยผู้ที่สอบผ่านรอบ 2 ทางโรงเรียนกำเนิดวิทย์จะมอบโปรแกรมสอนภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มเรียน
กระบวนการคัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง
รายนามผู้อำนวยการโรงเรียน[แก้]
รายนามผู้อำนวยการโรงเรียนกำเนิดวิทย์ | |||||
ลำดับ | รูป | ผู้อำนวยการ | ประสบการณ์บริหารทางด้านวิทยาศาสตร์ | เริ่มต้นดำรงตำแหน่ง | สิ้นสุดดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|---|---|---|
1. | ดร.ธงชัย ชิวปรีชา | ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) | พ.ศ. 2558 | พ.ศ. 2561 | |
2. | ดร. ราเชนทร์ โกศัลวิตร | ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี | พ.ศ. 2561 | 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564 | |
รักษาการ | ดร.ธงชัย ชิวปรีชา | ผู้อำนวยการโรงเรียนกำเนิดวิทย์ | 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 | 1 มีนาคม พ.ศ. 2565 | |
3. | ผศ.ดร.บุญโชติ เผ่าสวัสดิ์ยรรยง | หัวหน้าภาควิชาฟิสิกส์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | 1 มีนาคม พ.ศ. 2565 | ปัจจุบัน |
เหตุการณ์สำคัญ[แก้]
- วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558 โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ได้รับพระราชกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียนกำเนิดวิทย์
- วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงบรรยายพิเศษเรื่อง "การพัฒนาการศึกษาของชาติ เพื่อความยั่งยืน" จากนั้นทรงทอดพระเนตรนิทรรศการและห้องปฏิบัติการ ณ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ในวันนักประดิษฐ์
- วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 นักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ระดับชั้น ม. 4 รุ่น 2 เข้าพิธีรับเข็มติดเสื้อพระราชทาน สธ. ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561 ถึง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 The 1st KVIS Invitational Science Fair
- วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2561 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงพระราชทานประกาศนียบัตรแก่ผู้แทนนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ที่สำเร็จการศึกษารุ่นที่ 1
- วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนโดยได้พบปะกับผู้บริหารโรงเรียน พร้อมถ่ายรูปร่วมกับ คณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา[6]
- วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดหอเกียรติภูมิเป็นหอสูง 3 ชั้นสำหรับแสดงพระราชกรณียกิจที่มีต่อโรงเรียนและผลงานของนักเรียน และทรงพระราชทานประกาศนียบัตรแก่ผู้แทนนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ที่สำเร็จการศึกษารุ่นที่ 2
- วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานในพิธีเปิด อาคารปฏิบัติการวิศวกรรม (Fabrication Center) ซึ่งเป็นห้องทดลองสำหรับนักเรียนในการสืบค้นข้อมูลและพัฒนาต้นแบบสิ่งประดิษฐ์ตามแนวคิดของตนเอง พร้อมทรงติดตามความก้าวหน้าและความยั่นยืนของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.บุญโชติ เผ่าสวัสดิ์ยรรยง ผู้อำนวยการโรงเรียนกำเนิดวิทย์ กราบบังคมทูลรายงาน[7]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ [1]กบนอกกะลา : เลาะรั้วกำเนิดวิทย์ ห้องเรียนยุคใหม่ปั้นเด็กสร้างชาติ ช่วงที่ 1/4 (28 ส.ค 58)] จาก กบนอกกะลา
- ↑ [2]กบนอกกะลา : เลาะรั้วกำเนิดวิทย์ ห้องเรียนยุคใหม่ปั้นเด็กสร้างชาติ ช่วงที่ 4/4 (28 ส.ค 58)] จาก กบนอกกะลา
- ↑ [3]กบนอกกะลา : เลาะรั้วกำเนิดวิทย์ ห้องเรียนยุคใหม่ปั้นเด็กสร้างชาติ ช่วงที่ 2/4 (28 ส.ค 58)] จาก กบนอกกะลา
- ↑ [4]ปตท.ร่วมแสดงความยินดี นร.กำเนิดวิทย์รุ่นแรก] จาก ผู้จัดการออนไลน์
- ↑ [5]กบนอกกะลา : เลาะรั้วกำเนิดวิทย์ ห้องเรียนยุคใหม่ปั้นเด็กสร้างชาติ ช่วงที่ 2/4 (28 ส.ค 58)] จาก กบนอกกะลา
- ↑ https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/828162
- ↑ https://www.thebangkokinsight.com/news/politics-general/royal-news/988203/
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- เว็บไซต์โรงเรียนกำเนิดวิทย์
- เพจโรงเรียนกำเนิดวิทย์อย่างเป็นทางการ ที่เฟซบุ๊ก
- เพจสำนักงานบ้านพัก โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ที่เฟซบุ๊ก
- แฟนเพจโดยผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ที่เฟซบุ๊ก
- PTT Public Company Limited เก็บถาวร 2020-09-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- A History of the Petroleum Oil Industry in Thailand from 1946 to 1978
- มูลนิธิพลังแห่งการเรียนรู้ เก็บถาวร 2019-08-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน