โรคของหลอดเลือดส่วนปลาย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรคของหลอดเลือดส่วนปลาย
(Peripheral vascular disease)
ชื่ออื่นPeripheral vascular disease (PVD), peripheral artery occlusive disease, peripheral obliterative arteriopathy
An arterial insufficiency ulcer in a person with severe peripheral artery disease[1]
สาขาวิชาInterventional radiology, vascular surgery
อาการLeg pain when walking that resolves with rest, skin ulcers, bluish skin, cold skin[2][3]
ภาวะแทรกซ้อนInfection, amputation[4]
สาเหตุAtherosclerosis, artery spasm[5][6]
ปัจจัยเสี่ยงCigarette smoking, diabetes, high blood pressure, high blood cholesterol.[4][7]
วิธีวินิจฉัยAnkle-brachial index < 0.90, duplex ultrasonography, angiography[8][9]
การรักษาStopping smoking, supervised exercise therapy, surgery[10][11][12]
ยาStatins, ACE inhibitors, cilostazol[12]
ความชุก155 million (2015)[13]
การเสียชีวิต52,500 (2015)[14]

โรคของหลอดเลือดส่วนปลาย (อังกฤษ: peripheral vascular disease - PVD) หรือ โรคของหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (อังกฤษ: peripheral artery disease - PAD) หมายถึงโรคทั้งหมดที่เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ในแขนขา โรคของหลอดเลือดส่วนปลายอาจเกิดจากโรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง เกิดจากการอักเสบที่ทำให้เกิดการตีบตัน เกิดจากมีสิ่งหลุดอุดหลอดเลือดหรือมีลิ่มเลือด โรคนี้อาจทำให้เกิดการขาดเลือดเฉียบพลันหรือเรื้อรัง โดยมักเป็นที่ขา

ระบาดวิทยา[แก้]

สหรัฐอเมริกา[แก้]

ชาวตะวันตกอายุเกิน 65 ปี ถึง 10% เป็นโรคหลอดเลือดแดงแข็ง เมื่อพิจารณาว่าประชากรสูงอายุมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ถึง 22% ในปี ค.ศ. 2040 ทำให้คาดได้ว่าโรคหลอดเลือดแดงแข็งจะมีผลกระทบสำคัญทางค่ารักษาพยาบาลของประเทศ เมื่อพิจารณาถึงอาการปวดขาเป็นระยะเหตุขาดเลือด (intermittent claudication) แล้วจะพบว่าประชากรอายุ 40-60 ปี 2% มีอาการนี้ และประชากรอายุมากกว่า 70 ปี 6% มีอาการนี้

อัตราตายและอัตราเป็นโรค[แก้]

ผลกระทบที่น่ากลัวที่สุดของโรคคืออาการขาดเลือดรุนแรงจนเสี่ยงต่อการสูญเสียอวัยวะที่นำไปสู่การต้องตัดแขนหรือขา อย่างไรก็ดีมีการศึกษาในประชากรกลุ่มใหญ่ที่มีอาการปวดขาเป็นระยะเหตุขาดเลือดนาน 10 ปี พบว่ามีเพียง 12.2% ที่ต้องตัดขา[15] ในขณะที่การศึกษาฟรามิงแฮมพบว่าผู้ป่วยที่มีอาการปวดขาเป็นระยะเหตุขาดเลือด 1.6% จะดำเนินโรคไปถึงขั้นที่ต้องตัดขาที่ระยะเวลา 8.3 ปี

การตัดขาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับจำนวนและความรุนแรงของความเสี่ยงโรคหัวใจหลอดเลือด (เช่น การสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน) การสูบบุหรี่ต่อเนื่องได้รับการระบุแล้วว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ชัดเจนสำหรับการก้าวหน้าของโรคหลอดเลือดส่วนปลาย ปัจจัยอื่นคือความรุนแรงของโรคเมื่อแรกวินิจฉัย และในบางการศึกษาก็พบว่าการเป็นโรคเบาหวานก็มีส่วนด้วย

เช่นเดียวกันกับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดอื่นๆ อายุขัยของผู้ป่วยโรคนี้น้อยกว่าคนปกติในกลุ่มควบคุมที่มีอายุเท่ากัน โรคหลอดเลือดหัวใจซึ่งเป็นผลตามทางด้านกล้ามเนื้อหัวใจมีส่วนอย่างมากต่อผลของโรค อัตราการตายทำนายในผู้ป่วยที่มีอาการปวดขาเป็นระยะเหตุขาดเลือดที่เวลา 5, 10 และ 15 ปีอยู่ที่ประมาณ 30%, 50% และ 70% ตามลำดับ

เชื้อชาติ[แก้]

โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายไม่เกิดขึ้นในประชากรเชื้อชาติใดเป็นพิเศษ

เพศ[แก้]

อาการปวดขาเป็นระยะเหตุขาดเลือดส่วนใหญ่พบในชายอายุมากกว่า 50 ปี ในขณะที่หากเป็นผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่าที่มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดขาเป็นระยะเหตุขาดเลือดนี้ก็ควรต้องนึกถึงสาเหตุอื่นของอาการปวดขาและอาการปวดขาเป็นระยะเหตุขาดเลือด (เช่น กลุ่มอาการกดทับหลอดเลือดข้อพับขา)

อ้างอิง[แก้]

  1. Moore, Jonathan (1 September 2008). "Creating the Ideal Microcosm for Rapid Incorporation of Bioengineered Alternative Tissues Using An Advanced Hydrogel Impregnated Gauze Dressing: A Case Series". The Foot & Ankle Journal. doi:10.3827/faoj.2008.0109.0002.
  2. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Vio2012
  3. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ NIH2015Sym
  4. 4.0 4.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ HLB2011W
  5. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Heart2012
  6. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ NIH2015Ca
  7. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Lancet2013
  8. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ NIH2011Diag
  9. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Ru2014
  10. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ NIH2015Tx
  11. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Fok2018
  12. 12.0 12.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ JAMA2006
  13. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ GBD2015Pre
  14. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ GBD2015De
  15. Boyd AM. The natural course of arteriosclerosis of the lower extremities. Angiology. 1960;11:10.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

การจำแนกโรค
ทรัพยากรภายนอก