โป่มะยุง่วน
โป่มะยุง่วน | |
---|---|
เจ้าเมืองเชียงใหม่ | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2311 – พ.ศ. 2317 | |
กษัตริย์ | พระเจ้ามังระ |
ก่อนหน้า | โป่อภัยคามินี |
ถัดไป | พระยาวิเชียรปราการ (บุญมา) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ไม่ปรากฏ |
เสียชีวิต | ไม่ปรากฏ |
โปมะยุง่วน (ဗိုလ်မြို့ဝန်) มังมะยุง่วน (မင်းမြို့ဝန်) หรือสะโตมังถาง (သတိုးမင်းထင်) เป็นชาวพม่าที่ได้รับแต่งตั้งจากพระเจ้ามังระแห่งกรุงอังวะให้ไปครองเมืองเชียงใหม่ ก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะเสียแก่พม่าครั้งที่สองไม่นานนัก ในเอกสารล้านนาเรียกโป่หัวขาว
เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงยกกองทัพไปปราบชุมนุมเจ้าพระฝางที่เมืองสวางคบุรี พวกเจ้าพระฝางหนีไปพึ่งพม่าที่เมืองเชียงใหม่ โปมะยุง่วนเห็นเป็นโอกาส จึงยกกองทัพลงมาตีเมืองสวรรคโลก เมื่อปี พ.ศ. 2313[1] ฝ่ายไทยรักษาเมืองไว้ได้ และตีกระหนาบกองทัพพม่าแตกพ่ายกลับไป
สมเด็จพระเจ้าตากสิน เมื่อทรงทราบข่าวศึกก็ยกทัพขึ้นไปช่วย แต่เมื่อเสด็จไปถึงกลางทางทรงทราบว่า พวกเจ้าเมืองภาคเหนือช่วยกันตีพม่าแตกกลับไปแล้ว[2] จึงทรงตัดสินพระทัยยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่เสียเลย เมื่อตอนต้นปี พ.ศ. 2314 พวกเมืองเหนือในอาณาจักรล้านนาได้มาสวามิภักดิ์ต่อฝ่ายไทย โปมะยุง่วนตั้งรับอยู่ในเมืองเชียงใหม่ กองทัพไทยมีกำลัง และเสบียงไม่เพียงพอต้องถอยทัพกลับพระนครหลังจากล้อมเชียงใหม่อยู่เก้าวัน โปมะยุง่วนถือโอกาสส่งกองทัพเข้าตามตีแต่ถูกทัพไทยตีกอบหนีไป
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้ทรงยกทัพไปตีเชียงใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2317 กองทัพไทยตีค่ายพม่าด้านใต้ ด้านตะวันตกและด้านตะวันออกได้ โปมะยุง่วนและโปสุพลาต้องทิ้งเมืองเชียงใหม่ออกไปทางประตูช้างเผือกทางด้านเหนือ กรุงธนบุรีจึงได้เมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองลำปาง เมืองแพร่และเมืองน่าน เข้ามาอยู่ในพระราชอาณาเขตไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2317 เป็นต้นมา
ในปี พ.ศ. 2318 อะแซหวุ่นกี้มีคำสั่งให้โปมะยุง่วน และโปสุพลาที่คอยหนีไปตั้งอยู่ที่เมืองเชียงแสน ให้ยกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่ให้ได้ในฤดูฝน เพื่อเตรียมเรือรบ เรือลำเลียง รวมทั้งเสบียงอาหารส่งมายังกองทัพอะแซหวุ่นกี้ที่จะเข้ามาตีเมืองไทยในต้นฤดูแล้ง แต่ต้องถอยกลับไปเชียงแสน เมื่อทราบว่ากองทัพไทยยกขึ้นไปป้องกันเมืองเชียงใหม่
ในปี พ.ศ. 2318 พระเจ้าจิงกูจา ราชโอรสพระเจ้ามังระขึ้นครองราชย์ต้องการได้แว่นแคว้นล้านนาไทย 57 หัวเมืองไว้ในอำนาจ[3] จึงแต่งกองทัพมาสมทบ กับกองทัพของโปมะยุง่วนที่เมืองเชียงแสน เข้าตีเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2319 เจ้าเมืองเชียงใหม่ต้องทิ้งเมืองอพยพผู้คนมายังเมืองสวรรคโลก เจ้าพระยาสุรสีห์คุมกองทัพเมืองเหนือ ไปสมทบกับพระยากาวิละ เจ้าเมืองลำปาง ยกไปตีเมืองเชียงใหม่คืนจากพม่า โปมะยุง่วนต้องถอยทัพกลับไปเมืองเชียงแสนอีก
ในปี พ.ศ. 2347 สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ พร้อมด้วยพระยายมราช นายทัพนายกองไทยและลาว (ทั้งฝ่ายล้านนาและล้านช้าง) ได้ยกทัพขึ้นไปตีเมืองเชียงแสน ต่อมากองทัพของสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ถอยกลับไป กองทัพที่เหลือตีเมืองเชียงแสนแตก โปมะยุง่วนผู้เป็นแม่ทัพถูกปืนตายในที่รบ[4]
โป่มะยุง่วนครองเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่ พ.ศ. 2311 - พ.ศ. 2317[5] รวมระยะเวลาได้ 5 ปี แต่นั้นมาพม่าก็สิ้นอำนาจในล้านนาโดยสิ้นเชิง
อ้างอิง
[แก้]- ↑ _________________. (ม.ป.ป.). พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ระหว่างจลาจล จุลศักราช ๑๑๒๙-๑๑๓๐ เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. กรุงเทพฯ : (ม.ป.ท.).
- ↑ พม่าตีเมืองสวรรคโลก (หอมมรดกไทย)[ลิงก์เสีย] จากบล็อก โอเคเนชั่น
- ↑ สงครามเก้าทัพ ศึกชี้ชะตาแห่งสยามประเทศ | KomKid.com
- ↑ โปมะยุง่วนผู้เป็นแม่ทัพถูกปืนตายในที่รบ
- ↑ Thailand's World Thai :อาณาจักรล้านนา อาณาจักรล้านนาในภาคเหนือของประเทศไทย เก็บถาวร 2014-11-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สืบค้นเมื่อ 06-06-57.
ก่อนหน้า | โป่มะยุง่วน | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
โป่อภัยคามินี | เจ้าเมืองเชียงใหม่ภายใต้การปกครองของพม่า (พ.ศ. 2311 - พ.ศ. 2317) |
พระยาวิเชียรปราการ (บุญมา) |