โปเกมอน โกลด์และซิลเวอร์
โปเกมอน โกลด์ โปเกมอน ซิลเวอร์ | |
---|---|
![]() | |
ผู้พัฒนา | เกมฟรีก |
ผู้จัดจำหน่าย | นินเท็นโด |
กำกับ | ซาโตชิ ทาจิริ |
อำนวยการผลิต | ทาเกฮิโระ อิซุซิ ทาเคชิ คาวากุจิ สึเนคาซึ อิชิฮาระ |
ศิลปิน | เค็น ซุงิโมริ |
เขียนบท | โทชิโนบุ มัตสึมิยะ เค็นจิ มัตสึชิมะ |
แต่งเพลง | จุนอิจิ มาสึดะ โก อิจิโนเซะ โมริคาซุ อาโอกิ(ภาคคริสตัล) |
ชุด | โปเกมอน |
เครื่องเล่น | เกมบอย, เกมบอยคัลเลอร์ (รองรับซูเปอร์เกมบอย; ไม่รองรับเกมบอยและซูเปอร์เกมบอยในเกาหลีใต้ |
วางจำหน่าย | |
แนว | วิดีโอเกมเล่นตามบทบาท |
รูปแบบ | ผู้เล่นคนเดียว, ผู้เล่นหลายคน |
โปเกมอนภาคโกลด์และภาคซิลเวอร์ (ญี่ปุ่น: ポケットモンスター 金・銀 โรมาจิ: Poketto Monsutā Kin & Gin; อังกฤษ: Pokémon Gold Version and Silver Version) เป็นเกมโปเกมอนรุ่นที่สองในซีรีส์โปเกมอนพัฒนาโดยบริษัทเกมฟรีก และจำหน่ายโดยนินเท็นโด สำหรับเครื่องเล่นเกมบอย ต่อมาเกมได้ปรับปรุงและทำการตลาดสำหรับเครื่องเล่นเกมบอยคัลเลอร์ ออกจำหน่ายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1999 ออสเตรเลียและอเมริกาเหนือใน ค.ศ. 2000 และยุโรปใน ค.ศ. 2001 โปเกมอนภาคคริสตัล เกมภาคพิเศษ ออกจำหน่ายสำหรับเครื่องเล่นเกมบอยคัลเลอร์ราว ๆ หนึ่งปีหลังของแต่ละภูมิภาค ใน ค.ศ. 2009 นินเท็นโดนำภาคโกลด์และซิลเวอร์มาทำใหม่สำหรับเครื่องนินเท็นโด ดีเอส ในชื่อ โปเกมอนภาคฮาร์ตโกลด์และโซลซิลเวอร์
เกมนำเสนอโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ 100 ชนิด และผู้เล่นได้ควบคุมตัวละคร โดยที่ผู้เล่นสามารถเลือกตั้งชื่อเองได้ ภารกิจคือเป็นยอดนักต่อสู้โปเกมอน เกมทั้งสองภาคเป็นอิสระต่อกันแต่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เหมือนกัน ขณะที่เกมทั้งสองภาคสามารถเล่นแยกกันได้ แต่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนระหว่างภาคและภาคก่อนหน้าเพื่อเติมเต็มโปเกเดกซ์ เนื้อเรื่องอนิเมะภาคโจโตซากายึดตามภูมิภาคในเกม
โปเกมอนภาคโกลด์และซิลเวอร์ยังคงประสบความสำเร็จมหาศาลต่อจากภาคแรก เนื่องจากโปเกมอนเริ่มทำรายได้ได้ถึงหลักพันล้าน เกมทำรายได้เกือบเท่ากับยอดขายของโปเกมอนภาคเรดและบลู และยังคงขายได้รวมหลายล้านหน่วยทั่วโลก ใน ค.ศ. 2010 ยอดขายภาคโกลด์และซิลเวอร์ที่มีการบันทึกไว้คือ 23 ล้านหน่วย
เกมโปเกมอนภาคนี้เป็นเกมโปเกมอนเกมเดียวที่ออกจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ก่อนก่อตั้งสำนักงานย่อยของนินเท็นโด และบริษัท โปเกมอนโคเรีย จำกัด เมื่อ ค.ศ. 2006 และจำหน่ายเกมโปเกมอนภาคไดมอนด์และเพิร์ลที่นั่น โปเกมอนภาคโกลด์และซิลเวอร์ออกจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2002 สำหรับเครื่องเล่นเกมบอยคัลเลอร์เช่นเดียวกับโปเกมอนภาคคริสตัล
ระบบเกม[แก้]
เช่นเดียวกับโปเกมอนภาคเรด,บลู และเยลโลว์ ตัวโปเกมอน โกลด์และซิลเวอร์ มีมุมมองการเล่นจากด้านบนหรือเรียกว่าบุคคลที่สาม โดยสามารถใช้ผู้เล่นเดินทางไปได้ทั่วโลกของเกม และสามารถสนทนากับวัตถุและตัวละครอื่นได้ ในการสำรวจโลกของเกมก็จะมีภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไป เช่นทุ่งหญ้า,ป่า,ถ้ำและทะเล ซึ่งก็จะมีโปเกมอนที่มีสายพันธุ์แตกต่างกันอยู่ เมื่อเราเดินสุ่มแล้วเจอกับโปเกมอนเหล่านี้หน้าจอจะสลับไปที่"ฉากต่อสู้"ซึ่งจำเป็นต้องใช้โปเกมอนของเราเข้าสู้[3]
ตัวเกมมีเป้าหมายหลักสองประการคือ: ต้องผ่านเนื้อเรื่องหลักของเกม และต้องเอาชนะสี่จตุรเทพ(Elite Four)และแชมป์คนเก่า เพื่อที่เราจะได้เป็นเป็นแชมป์คนใหม่[4] และเอาชนะเรด ซึ่งเราจะต้องเติมเต็มโปเกเด็กซ์ด้วยการจับและพัฒนา ให้ได้โปเกมอนครบ251ชนิด ส่วนสำคัญจะพัฒนาและเพิ่มโปเกมอนของผู้เล่นคือ โดยผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับโปเกมอนตัวอื่นซึ่งสามารถพบได้ในป่า หรือโปเกมอนที่มีเจ้าของฝึกอบรมอื่นๆ ก็จะมีระบบค่าประสบการณ์(EXP) และเลเวล ลักษณะพบได้ทั่วไปในวิดีโอเกมโปเกมอนทุกภาค ซึ่งก็จะทำให้โปเกมอนเกิดการพัฒนาร่างจากการต่อสู้และได้เรียนรู้ท่าต่างๆ[5]
ระบบใหม่[แก้]
โปเกมอน ภาคโกลด์และซิลเวอร์ยังคงรักษากลไกพื้นฐานอย่างการควบคุม,การต่อสู้และการพัฒนาร่าง คุณสมบัติใหม่ที่ถูกเพิ่มขึ้นในเกมนี้คือระบบเวลา ซึ่งใช้ระบบเวลาจริงๆที่เป็นวัน,สัปดาห์ รวมทั้งยังมีการบันทึกเหตุการณ์บางอย่าง เช่นการปรากฏตัวของโปเกมอนใหม่ๆ ซึ่งก็ส่งผลต่อเกมนี้[3] และมีการเพิ่มไอเทมใหม่เพื่อที่ผู้เล่นจะได้นำมาใช้ประโยชน์: มีไอเทมฟื้นฟูสำหรับโปเกมอนดังนี้[6] มีไอเทมใหม่ซึ่งก็คือเบอร์รี่ ซึ่งสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตหรือรักษาผลแทรกซ้อนอื่นๆให้กับโปเกมอนในระหว่างการต่อสู้ ได้มีการเพิ่มเติมชนิดของโปเกบอล และก็ทำให้จับโปเกมอนได้ง่ายขึ้นได้ง่ายในบางสถานการณ์[7] ซึ่งไดมีไอเทมใหม่โปเกเกียร์ (ญี่ปุ่น: Pokégear โรมาจิ: ポケギア ทับศัพท์: Pokegia) ซึ่งมีหน้าที่เป็นนาฬิกา,แผนที่,วิทยุ,โทรศัพท์, ช่วยให้ผู้เล่นสามารถคุยกับตัวละครอื่นๆได้ รวมทั้งยังมีหมายเลขโทรศัพท์ของตนเอง และผู้อื่น และตัวละครอื่นก็สมารถโทรบอกเรื่องที่เกี่ยวกับโปเกมอนหายากที่สามารถจับได้ในบางพื้นที่[8]
เกมนี้ได้แนะนำไรโคว,เอ็นเทย์และซุยคุน โปเกมอนในตำนานชนิดใหม่ ที่จะเดินไปรอบๆเขตโจโตและจะเปลี่ยนสถานที่บ่อย[9] สามารถติดตามได้ด้วยโปเกเด็กซ์ ซึ่งต้องเคยเจอ และมักจะพยายามหนี แต่พลังชีวิตก็ยังถือว่าน้อย นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะพบกับโปเกมอนที่มีสีแตกต่างจากโปเกมอนตามปกติ แต่ก็ปรากฏน้อยมาก[10] มีการเพื่มชนิดของโปเกมอนใหม่สองชนิดคือ ธาตุเหล็กและธาตุความมืด[11] ประเภทเหล็กจะเป็นโปเกมอนที่มีการป้องกันสูงมาก และไม่ก่อการเกิดปฏิกิริยาอื่นๆ ในขณะที่ธาตุความมืดเป็นโปเกมอนประเภทมีภูมิคุ้มกันต่อท่าพลังจิตและชนะทางต่อโปเกมอนประเภทพลังจิต รวมทั้งยังมีจุดอ่อนน้อย[5] ในภาคโกลด์และซิลเวอร์ สามารถที่จะแลกเปลี่ยนโปเกมอนได้ แต่ไม่สามารถที่จะแลกเปลี่ยนโปเกมอนที่อยู่ในเจเนอร์เรชั่นก่อนๆได้ วิธีแก้ปัญหานี้จึงต้องย้ายระบบลบที่รู้จัก จึงจะสามารถลบหรือย้ายโปเกมอนได้ ที่สำคัญอีกคือการเปลี่ยนแปลงสถานะพิเศษในการโจมตีท่าพิเศษและการป้องกันท่าพิเศษที่เพิ่มขึ้นสำหรับต่อสู้[5]
มีการแนะนำเพศของโปเกมอนสายพันธุ์เดียวกันเป็นครั้งแรกในเกม โปเกมอนที่นำไปเก็บไว้ในโปเกมอนเดย์แคร์ พวกมันอาจจะฟักไข่ออกมาเป็นโปเกมอนตัวใหม่[12] โปเกมอนตัวลูกจะสืบสายพันธุ์ทางฝั่งแม่ แต่ย้ายมาจากพ่อ อย่างไรก็ตาม โปเกมอนในตำนานบางชนิดก็ไม่สามารถที่จะผสมพันธุ์ได้[13]
โครงเรื่อง[แก้]
ฉากท้องเรื่อง[แก้]

โปเกมอน ภาคโกลด์และซิลเวอร์ตั้งอยู่ในภูมิภาคโจโตซึ่งอยู่ติดทางตะวันตกของเขตคันโตซึ่งตั้งอยู่ในภาคเรดและบลู สามปีหลังจากบทสรุปของเกมภาคก่อน การออกแบบโจโตได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิภาคคันไซ, โทไกและเกาะชิโกกุตะวันออกที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น วัดจากภูมิภาคนี้มีความงดงามอย่างมาก จึงได้ถูกใส่ไว้ในเขตโจโต[ต้องการอ้างอิง]
เนื้อเรื่อง[แก้]
เช่นเดียวกับเกมภาคก่อนๆ ตัวละครของผู้เล่น(เฉพาะเด็กผู้ชายในภาคโกลด์และซิลเวอร์,สามารถเลือกเล่นตัวละครเด็กผู้หญิงได้ในภาคคริสตัล) และจะต้องเลือกโปเกมอนเริ่มต้น ต้องเลือกชิโคริตา,ฮิโนอาราชิ และวานิโนโกะซึ่งเป็นโปเกมอนเขตท้องถิ่นตัวใดตัวหนึ่ง จากศาสตราจารย์อุสึกิ หลังจากนั้นก็เริ่มต้นเดินทาง และต้องเอาชนะโรงยิมแปดยิมในเขตโจโต และเอาชนะสี่จตุรเทพเพื่อเป็นโปเกมอนมาสเตอร์[11] ฝ่ายคู่แข่งของเรา จะเป็นคู่แข่งลึกลับ ที่จะขโมยโปเกมอนจากศูนย์วิจัยของศาสตราจารย์อุสึกิ และจะเป็นผู้ท้าแข่งเรา[8] ผู้เล่นยังได้พบกับแก็งค์ร็อกเก็ตผู้ชั่วร้าย ได้รวมตัวกันขึ้นมาใหม่เพื่อค้นหาหัวหน้าแก็งก์ซาคากิ และจะได้ก่อตั้งแก็งก์ใหม่อีกรอบ[7] หลังจากผู้เล่นเอาชนะแก็งก์ร็อคเก็ตได้ทั้งหมด,สี่จตุรเทพและแชมป์ของโปเกมอนคันโตลีก ผู้เล่นจะสามารถเดินทางไปยังเขตคันโตจากเกมภาคก่อน และสมารถท้าประลองผู้นำยิมได้ มีการเปลี่ยนแปลงในเขต ซึ่งเกิดขึ้น3ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคเรด และ ภาคบลู หลังจากเอาชนะผู้นำยิมในเขตคันโต ผู้เล่นจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังภูเขาซิลเวอร์ได้ ในเขตนี้จะมีโปเกมอนที่แข็งแกร่งมากกว่าปกติ และลึกเข้าไปภายในถ้ำภูเขาซิลเวอร์ จะได้พบกับเรดตัวเอกของภาคเรดและภาคบลูที่ผู้เล่นสามารถท้าแข่งได้ ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกม[14]
การพัฒนา[แก้]
ข้อมูลของภาคโกลด์และซิลเวอร์ออกแสดงครั้งแรก ในงานนินเท็นโด สเปซเวิลด์ เอ็กซ์โปในญี่ปุ่นปีค.ศ.1997 ซึ่งเป็นงานจัดแสดงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของทั้งหมด และแตกต่างจากเกมภาคก่อนหน้านี้อย่างโปเกมอน ภาคเยลโลว์ มีการตั้งชื่อภาคใหม่ให้ดูดีกว่า"โปเกมอน ภาคเรดและบลู" และทางทีมงานก็ได้แต่งเนื้อเรื่องในเกมขึ้นใหม่ ในทวีปใหม่ และโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ ภาคโกลด์และซิลเวอร์ได้รับการออกแบบมาสำหรับเล่นในเครื่องเกมบอยคัลเลอร์ ทำให้พวกเขาให้การสนับสนุนในการใส่สีลงในเกมอย่างเต็มรูปแบบ และรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆเพิ่มเติมในสไปรต์ ซึ่งรวมถึงสีของโปเกมอนแต่ละสายพันธุ์ ไอเทมใหม่ของเกมได้ใช้ระบบเกมแกดเจ็ต มีชื่อว่าโปเกเกียร์ ซึ่งได้เลียนแบบระบบจริงๆของนาฬิกาและสามารถใช้ได้ร่วมกันกับระบบของภาคก่อนๆได้[15]
ในระหว่างการสัมภาษณ์สึเนะคาสุ อิชิฮาระประธานบริษัทเครียเจอร์ จำกัดโดยเอบีซี นิวส์ เขาได้ให้ข้อมูลเชิงลึกในการกพัฒนาโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ๆเขาอธิบายว่า" ความคิดของมอนสเตอร์แต่ละตัวนี้ล้วนมาจากจินตนาการของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในเกมฟรีก พวกเขานำความคิดนี้มาจากประสบการณ์ในวัยเด็กของพวกเขา ทั้งจากการอ่านมังงะ,ชื่อหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น,ประสบการณ์ที่ไม่ดอนพวกเขายังเป็นเด็ก,การจับแมลง และอื่นๆ ดังนั้น จากประสบการณ์เหล่านี้ในวัยเด็ก ความคิดเหล่านี้จึงได้สร้างสรรค์โปเกมอนชนิดต่างๆออกมา"[16] ในขณะเดียวกันโปเกมอน ภาคเรดและบลูจะมีมิว และมีโปเกมอนเซเลบีในภาคโกลด์และซิลเวอร์ แต่ก็จะได้มาจากการเข้าโปรโมทเกมในงาน เหตุการณ์แรกอย่างเป็นทางการในการได้เซเลบีมา ในงานนินเท็นโด สเปซเวิลด์ ปีค.ศ.2000 ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุม100,000คนจะได้รับโปเกมอนตัวนี้ ในการที่จะได้มา ผู้เล่นต้องส่งโปสการ์ดใส่สลาก100,000ใบรับรองเซเลบี ช่วยให้สามารถเข้าร่วมการแข่งขันและได้รับมัน[17]
ดนตรี[แก้]
จุนอิจิ มาสึดะแต่งเพลงของเขาด้วยอะมิกา คอมพิวเตอร์ ซึ่งสันนิษฐานว่าเพลงนี้แก้ไขให้ใช้กับMIDI ซึ่งข้อมูลนี้ก็ถูกนำไปใช้กับเกมบอยคัลเลอร์[18]
การตอบรับ[แก้]
การตอบรับ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
โปเกมอน โกลด์ และ ซิลเวอร์ ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องต่อจากเกมรุ่นแรก โดยเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนโปเกมอนให้เป็นแฟรนไซส์มูลค่าหลายพ้นล้านดอลลาร์[21] ในวันเดือน เมษายน ปี ค.ศ. 2000 ประมาณ 6.5 ล้านตลับของเกมได้ถูกขายในประเทศญี่ปุ่น ซิลเวอร์ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นภาคที่ได้รับความนิยมมากกว่า โกลด์ กว่า 100,000 ตลับ[22] ในสัปดาห์แรกของการวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเกมบดบังยอดการขายของ โปเกมอน เยลโลว์ ยอดขายในสัปดาห์แรกของภาคเยลโยว์มีกว่า 600,000 ตลับ ยอดขายรวมของภาคโกลด์และซิลเวอร์มีมากกว่า 1.4 ล้านตลับทำให้เป็นเกมที่ขายเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา[23][24]
เชิงอรรถ[แก้]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Game Boy Color Games on Official Nintendo Co., Ltd. Website". Nintendo Co., Ltd. สืบค้นเมื่อ 2014-08-25.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "Pokemon Gold for Game Boy". GameSpot. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2009-08-25. สืบค้นเมื่อ 2009-08-09. Unknown parameter
|deadurl=
ignored (help) - ↑ 3.0 3.1 3.2 Harris, Craig (2000-10-16). "Pokemon Gold Version Review". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-06-28.
- ↑ "Pokemon Gold and Silver Strategy Guide (page 10)". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-06-28.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 "Pokemon Gold and Silver Strategy Guide basics". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-06-28.
- ↑ "Pokemon Gold and Silver Strategy Guide items". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-06-30.
- ↑ 7.0 7.1 "Pokemon Gold and Silver Strategy Guide (page 3)". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-06-30.
- ↑ 8.0 8.1 "Pokemon Gold and Silver Strategy Guide (page 1)". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-07-06.
- ↑ "Pokemon Gold and Silver Strategy Guide (page 5)". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-06-30.
- ↑ Gudmundson, Carolyn. "Shiny Pokemon Guide". GamesRadar. สืบค้นเมื่อ 2008-06-30.
- ↑ 11.0 11.1 11.2 Povo, Frank (2000-02-03). "Pokemon Gold for Game Boy Color Review (page 1)". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-06-28.
- ↑ Povo, Frank (2000-02-03). "Pokemon Gold for Game Boy Color Review (page 2)". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-06-30.
- ↑ "Pokemon Gold and Silver Strategy Guide breeding". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-07-06.
- ↑ "Pokemon Gold and Silver Strategy Guide (page 14)". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-06-28.
- ↑ IGN Staff (1999-08-27). "Eye on Pokemon Gold and Silver". IGN. สืบค้นเมื่อ 2009-07-25.
- ↑ IGN Staff (2000-02-09). "ABC News Pokémon Chat Transcript". IGN. สืบค้นเมื่อ 2009-07-26.
- ↑ IGN Staff (2000-06-16). "Serebii, I Choose You!". IGN. สืบค้นเมื่อ 2009-08-02.
- ↑ http://www.gamefreak.co.jp/blog/dir_english/?p=185
- ↑ 19.0 19.1 "Pokemon Gold Reviews". Game Rankings. สืบค้นเมื่อ 2008-07-05.
- ↑ ゲームボーイ - ポケットモンスター 金・銀. Weekly Famitsu. No.915 Pt.2. Pg.109. 30 June 2006.
- ↑ "Pokemon Franchise Approaches 150 Million Games Sold". Nintendo. PR Newswire. 4 October 2005.
- ↑ IGN Staff (2000-04-03). "The Poke-Phenomenon Continues". IGN. สืบค้นเมื่อ 2009-08-02.
- ↑ IGN Staff (2000-10-23). "Pokémon Goes Platinum". IGN. สืบค้นเมื่อ 2009-08-08.
- ↑ "Latest Pokemon Games Surpass One Million Sales in First Week; Pokemon Gold And Silver Sales For Game Boy Color Break U.S. Video Game Sales Record". bNET. 2000-10-23. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2005-12-27. สืบค้นเมื่อ 2008-07-05. Unknown parameter
|deadurl=
ignored (help)
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- โปเกมอน โกลด์และซิลเวอร์ – นินเท็นโดญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น)
- โปเกมอน คริสตัล – นินเท็นโดญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น)
|