ข้ามไปเนื้อหา

โช ยง-พิล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โช ยง-พิล
โช ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2013
เกิด (1950-03-21) 21 มีนาคม ค.ศ. 1950 (75 ปี)
ฮวาซ็อง, จังหวัดคย็องกี, เกาหลีใต้
อาชีพ
  • นักร้อง
  • นักแต่งเพลง
ปีปฏิบัติงาน1968–present
คู่สมรสพัค จี-ซุก (1984–1988) อัน จิน-ฮย็อน (1994–2003)
รางวัล เครื่องอิสริยาภรณ์วัฒนธรรม อึนกวัน (2013)
อาชีพทางดนตรี
แนวเพลง
เครื่องดนตรี
  • ขับร้อง
  • กีตาร์
ค่ายเพลง
ชื่อเกาหลี
ฮันกึล
조용필
ฮันจา
趙容弼
อาร์อาร์Jo Yongpil
เอ็มอาร์Cho Yongp'il
เว็บไซต์choyongpil.com

โช ยง-พิล ( เกาหลี조용필  ; เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2493) เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงชาวเกาหลีใต้ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงยอดนิยมของเกาหลีใต้ ( เค-ป็อป ) เขาเปิดตัวในฐานะสมาชิกวงดนตรีร็อค Atkins ในปี พ.ศ. 2511 และเปิดตัวในฐานะศิลปินเดี่ยวด้วยซิงเกิลฮิต "Come Back to Busan Port" ในปี พ.ศ. 2519 โชได้ออกอัลบั้มเดี่ยว 19 อัลบั้มและยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตลอดอาชีพการงาน 50 ปีของเขา [1] [2] ได้รับฉายาว่า "ราชาเพลงป็อป" ของเกาหลีใต้ [3] [4] เพลงของเขาติดอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงเกาหลีใต้ในช่วงทศวรรษ 1970 1980 1990 และ 2010 [5] เขาได้รับการยกย่องด้วย เครื่องอิสริยาภรณ์วัฒนธรรม ชั้นอึนกวัน สำหรับอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ของเขาต่อวงการเพลงป็อปเกาหลีใต้ [6] เขาได้รับเลือกให้เป็น นักร้องแห่งปี และเพลง "Bounce" ของเขาได้รับเลือกให้เป็น เพลงแห่งปี ในการสำรวจที่ดำเนินการโดย Gallup Korea ในปี 2013 [7]

ประวัติ

[แก้]

1950–1967: ปฐมวัย

[แก้]

โช ยง-พิล เกิดที่ ซังจ็อง-รี ซงซาน-มย็อน เมืองฮวาซ็อง จังหวัดคย็องกี เกาหลีใต้ ในวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ.1950[8][9] และใช้ชีวิตวัยเด็กในกรุงโซลเป็นส่วนใหญ่. เขา และนักแสดง อัน ซ็อง-กี เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนกันในโรงเรียนมัธยมต้นคยองดง ในโซล ซึ่งตอนนี้โรงเรียนดังกล่าวปิดตัวไปแล้ว และยังคงเป็นเพื่อนกัน แม้ว่าจะแยกย้ายไปเรียนชั้นมัธยมปลายต่างโรงเรียนกัน[10][11] เมื่อโช อายุ 7 ขวบ, เขาบังเอิญไปฟัง เรย์ ชาลส์ เล่นฮาร์โมนิก้า และได้เป็นแรงจุดประกาย ที่ทำให้โช ยง-พิลในวัยเด็ก ได้กลายมาเป็นนักดนตรี[ต้องการอ้างอิง]

1968–1975: ยุคแอทคินส์ ไฟฟ์ ฟิงเกอร์ส์ และคิม ทริโอ

[แก้]

โช ยง-พิล เริ่มเส้นทางสายดนตรีด้วยการเป็นมือกีตาร์ในวงต่าง ๆ ในปี 1968 เขาได้รวมวงดนตรีร็อกในชื่อ แอทคินส์ และเล่นดนตรีให้กับกองทัพสหรัฐอเมริกา[3][12] หลังจากนั้น เขาได้ก่อตั้งวงไฟฟ์ ฟิงเกอร์ที่เล่นดนตรีโดยศิลปินผิวดำ ต่อมาในปี 1971 โช ได้เข้าร่วมวงคิม ทริโอ[5] ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เล่นเพลงร็อก สมาชิกวงคิม ทริโอ ประกอบด้วย พา คิม (กีตาร์), แดน คิม (กลอง) และ ซ็อน คิม (คีย์บอร์ด)

1976–1992: การเป็นศิลปินเดี่ยว

[แก้]

โช ยง-พิล เปิดตัวในฐานะศิลปินเดี่ยว ด้วยซิงเกิลแรกคือ "Come Back to Busan Port [ja]", ซึ่งทำให้เขาได้รับความนิยมจากทั่วประเทศในปีค.ศ.1976 และหลังจากนั้นก็จะโด่งดังไปถึงประเทศญี่ปุ่นด้วย[5][13] โช จึงออกซิงเกิลของเพลงนี้ในรูปแบบภาษาญี่ปุ่น และได้ไปแสดงสดที่ญี่ปุ่นอีกด้วย ในปีเดียวกันเขาถูกกล่าวโทษเรื่องการเสพกัญชา และถูกห้ามแสดงจนถึงปี 1979[5] ในปี 1980 เขาได้ออกอัลบั้มแรก "Woman Outside the Window (창 밖의 여자)" และได้จัดคอนเสิร์ตที่ คาร์เนกี้ ฮอลล์ ใน นครนิวยอร์ก ถือเป็นศิลปินเกาหลีคนแรกที่ได้แสดงที่นั่น[5] ในปี 1988 เขาได้กลายเป็นศิลปินเกาหลีคนแรกที่ได้จัดแสงที่ประเทศจีน ก่อนที่จะมีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศเสียอีก[5]

1992–2012: การเสื่อมถอยทางการค้า และการจัดคอนเสิร์ต

[แก้]

ความสำเร็จทางการค้าของเขาเริ่มเสื่อมถอยลงหลังจากการเกิดขึ้นของซอแทจีแอนด์บอยส์ และ ศิลปินวัยหนุ่มสาวอีกมากมาย อัลบั้มของโช ยง-พิลช่วงหลังปี 1992 ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนัก สังเกตได้จากการที่เขาประกาศว่าจะหยุดออกรายการโทรทัศน์ สรุปว่าเขาไม่อาจทำเพลงฮิตได้สักเพลง[ต้องการอ้างอิง] ในเวลาต่อมา เขามุ่งเน้นการแสดงคอนเสิร์ตมากยิ่งขึ้น ในปี 1993 คอนเสิร์ตของเขาที่ปูซาน มีผู้ชมถึง 1 ล้านคน ถือเป็นสถิติใหม่ของเกาหลีใต้[ต้องการอ้างอิง] ในปีเดียวกัน เขาได้กลายเป็นศิลปินเกาหลีใต้คนแรก ที่มียอดขายเกิน 1 ล้านชุด ในปี 2005 โช ได้ไปจัดแสดงคอนเสิร์ตที่กรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นำปได้ยากสำหรับนักร้องชาวเกาหลีใต้.[5]

2013–2021: Hello และ 50th anniversary

[แก้]

เมษายน ค.ศ.2013 โช ยง-พิล ปล่อยอัลบั้มชุดที่ 19 Hello, ซึ่งเปิดตัวในอันดับที่ 1 บนชาร์ตเพลงของเกาหลีใต้ แทบบดบังเพลงเจนเทิลแมนของไซ[14] ในวันที่ 25 เมษายน 2013 โชกลับเข้าสู่วงการโทรทัศน์ในรายการ Hello ซึ่งรายการนี้ได้มีการถ่ายทอดสดบนยูทูบเช่นกัน.[15]

2022: Road to 20-Prelude 1

[แก้]

โช ยง-พิลปล่อยซิงเกิลอัลบั้ม Road to 20-Prelude 1 ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ.2022 ber 18, 2022. เพื่อโปรโมทอัลบั้มของเขา เขาได้ปล่อยตัวอย่าง ความยาว 30 วินาทีลงบนช่องยูทูปของเขา ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ในวีดีโอดังกล่าวปนะกอบด้วบเพลงใหม่คือ "Moment" และ "Like Serengeti"และจะจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวในปี 2022 คือ Cho Yong-pil and the Great Birth ที่ Olympic Gymnastics Arena กรุงโซล ตั้งแต่ 26-27 พฤศจิกายน และ 3-4 ธันวาคม[16]

2024: 20

[แก้]

โช ยง-พิลปล่อยอัลบั้มชุดที่ 20 คือ 20 ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ.2024 เป็นเวลา 11 ปีหลังจากออกอัลบั้มก่อนหน้า[17]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Pop legend Cho Yong-pil to hold national tour to mark his 50th anniv". Yonhap News Agency (ภาษาอังกฤษ). February 2, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 5, 2018. สืบค้นเมื่อ February 4, 2018.
  2. Baek, Byung-yeul (April 18, 2013). "Cho Yong-pil is still Korean king of pop". The Korea Times (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 29, 2019. สืบค้นเมื่อ February 4, 2018.
  3. 3.0 3.1 Dong, Sung-hwa (November 20, 2022). "Veteran singers return to stage amid high expectations". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 21, 2022. สืบค้นเมื่อ November 20, 2022.
  4. Yoon, Min-sik (April 18, 2018). "Korean 'King of Pop' lives on after half a century". The Korea Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 21, 2022. สืบค้นเมื่อ November 20, 2022.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 5.6 Yoon, Min-sik (May 18, 2018). "[Eye] Cho Yong-pil, king of Korean pop music". The Korea Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 21, 2022. สืบค้นเมื่อ November 20, 2022.
  6. "Veteran entertainers win cultural order". The Korea Herald. November 10, 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 23, 2021. สืบค้นเมื่อ December 31, 2020.
  7. Park, Ji-hoon (December 19, 2013). "올해의 가수는 조용필, 올해의 노래는 '바운스'" ["Singer of the Year is Cho Yong-pil, Song of the Year is 'Bounce'"]. Kookmin Ilbo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2021. สืบค้นเมื่อ June 13, 2021 – โดยทาง Naver.
  8. 조용필 소개 [Cho Yong Pil Profile]. Mnet (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 29, 2019. สืบค้นเมื่อ February 4, 2018.
  9. "What Brought Singer Cho Yong-pil and Soccer Star Park Ji-seong to Jeongok Port? – Gyeonggi Global". Gyeonggi Global. March 12, 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 1, 2023. สืบค้นเมื่อ August 19, 2023.
  10. 안성기 "가수 조용필은 진짜 거인...창작 의지 귀감된다". The Chosun Ilbo (ภาษาเกาหลี). March 13, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 14, 2021. สืบค้นเมื่อ August 14, 2021.
  11. 안성기 "경동중 동창 조용필, 나보다 공부 잘해". The Chosun Ilbo (ภาษาเกาหลี). September 12, 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 14, 2021. สืบค้นเมื่อ August 14, 2021.
  12. Kim, Ji-soo (April 13, 2018). "Legendary singer marks five decades". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 21, 2022. สืบค้นเมื่อ November 20, 2022.
  13. Park, Jin-hai (September 29, 2013). "Cho Yong-pil unveils album JM/V Japan". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 21, 2022. สืบค้นเมื่อ November 20, 2022.
  14. Kim, Tong-hyung (April 29, 2013). "Cho, Psy clean out K-pop from charts". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 21, 2022. สืบค้นเมื่อ November 20, 2022.
  15. 조용필 쇼케이스 인터넷 생중계 25만명 시청...대학축제 섭외 봇물. 헤럴드경제. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 22, 2023. สืบค้นเมื่อ April 24, 2013.
  16. Yoon, Ki-baek (November 15, 2022). 가왕' 조용필, 신곡 '찰나' '세렝게티처럼' 18일 발매 ['King of Singer' Cho Yong-pil, new songs 'Instant' and 'Like Serengeti' released on the 18th]. Edaily [ko] (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 15, 2022. สืบค้นเมื่อ November 15, 2022 – โดยทาง Naver.
  17. Lee, Min-kyung (October 22, 2024). 조용필, 정규 20집 '20'으로 오늘(22일) 컴백…"자신 믿는다면 늦어도 괜찮아" [Cho Yong-pil, comeback today (22nd (Oct)) with the 20th studio album '20'... "it's okay to be late as long as you believe in yourself"]. Tenasia (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ October 22, 2024 – โดยทาง Naver.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]