ข้ามไปเนื้อหา

ซีอิ๊ว

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก โชยุ)
ซีอิ๊ว
ถ้วยซีอิ๊ว
ชื่ออื่นโชยุ, เจี้ยงโหยว, soya sauce
ประเภทเครื่องปรุงรส
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนผสมหลักถั่วเหลือง
ซีอิ๊ว
ชื่อภาษาจีน
อักษรจีนตัวเต็ม醬油 / 豆油 / 豉油
อักษรจีนตัวย่อ酱油 / 豆油 / 豉油
ความหมายตามตัวอักษร"น้ำมันซอส" / "น้ำมันถั่ว" / "น้ำมันถั่วหมัก"
ชื่อภาษาพม่า
ภาษาพม่าပဲငံပြာရည်
IPA[pɛ́ ŋàɰ̃ bjà ]
ชื่อภาษาเวียดนาม
จื๋อโกว๊กหงือxì dầu / nước tương / tàu vị yểu
จื๋อโนม豉油 / 渃醬 / 豆味油
ชื่อภาษาไทย
อักษรไทยซีอิ๊ว
อักษรโรมันsi-io
ชื่อภาษาเกาหลี
ฮันกึล
간장
ฮันจา
간醬
ความหมายตามตัวอักษร"ซอสปรุงรส"
ชื่อภาษาญี่ปุ่น
คันจิ醤油
ฮิรางานะしょうゆ
การถอดเสียง
เฮ็ปเบิร์นปรับปรุงshōyu
คุนเรชิกิsyôyu
ชื่อมลายู
มลายูkicap
ชื่ออินโดนีเซีย
อินโดนีเซียkecap
ชื่อภาษาฟิลิปีโน
ตากาล็อกtoyo
ชื่อลาว
ลาวເຕົ້າຈ້ຽວ (tao chiāu)
ชื่อเขมร
เขมรស៊ីអ៊ីវ (sii 'iiv)

ซีอิ๊ว เป็นเครื่องปรุงรสที่ทำจากถั่วเหลืองหมัก, เมล็ดข้าวย่าง, น้ำเกลือ และเชื้อรา Aspergillus oryzae หรือ Aspergillus sojae[1]

ซีอิ๊วในรูปแบบปัจจุบันมีการคิดค้นมาราว 2,200 ปีก่อนในช่วงราชวงศ์ฮั่นตะวันตกของจีน[2][3][4][5] และแพร่ขยายไปทั่วเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เป็นเครื่องปรุงอาหาร[6]

คำว่า "ซีอิ๊ว" ในภาษาไทยมีที่มาจากภาษาแต้จิ๋ว คำว่า 豉油 (เพ็งอิม: si7 iu5, IPA: /si¹¹ iu⁵⁵/) อ่านว่า "สี่อิ๊ว"

ซีอิ๊วแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

  1. ซีอิ๊วชนิดใส เรียกว่า ซีอิ๊วขาว[7]
  2. ซีอิ๊วชนิดข้น เรียกว่า ซีอิ๊วดำ
  3. ซีอิ๊วชนิดใส่น้ำตาลแดง เรียกว่า ซีอิ๊วหวาน

การใช้งานและการจัดเก็บ

[แก้]

ซีอิ๊วสามารถใส่ในอาหารโดยตรง และใช้เป็นน้ำจิ้มหรือใช้เป็นเกลือในการทำอาหาร[8] ขวดซีอิ๊วสำหรับปรุงรสเค็มของอาหารต่าง ๆ มักพบเห็นบนโต๊ะอาหารในร้านอาหารหลายประเทศ[8] ซีอิ๊วสามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้[8]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Leboffe, Michael; Pierce, Burton (30 July 2006). Microbiology Laboratory Theory and Application (2nd ed.). Morton Publishing Company. p. 317. ISBN 9780895827081.
  2. "Soy Sauce, China's Liquid Spice". www.flavorandfortune.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2016. สืบค้นเมื่อ 7 November 2016.
  3. "調料文化:醬油的由來". 30 January 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 January 2012.
  4. Hsing-Tsung, Huang (2000). Joseph Needham: Science and Civilisation in China, Vol.6, Part 5. Cambridge University Press. p. 346. ISBN 978-0521652704.
  5. Hsing-Tsung, Huang (2000). Joseph Needham: Science and Civilisation in China, Vol.6, Part 5. Cambridge University Press. pp. 358–359. ISBN 978-0521652704.
  6. Tanaka, Norio. "Shōyu: The Flavor of Japan," เก็บถาวร 26 กุมภาพันธ์ 2009 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน The Japan Foundation Newsletter Vol. XXVII, No. 2 (January 2000), p. 2.
  7. น้ำสีดำ แต่ทำไมเราจึงเรียก ซีอิ๊วขาว
  8. 1 2 3 Ohyama, Takuji; Takahashi, Yoshihiko; Joh, Toshio; C. Whitaker, Andrew; Nishiwaki, Toshikazu; Morohashi, Keiko; Watanabe, Satoshi; Shimojo, Sayaka (14 May 2014). Traditional and modern Japanese soy foods : manufacturing, nutrition and cuisine of a variety of soy foods for health and joy of taste. Hauppauge, New York: Nova Science Publishers. ISBN 9781626186071. OCLC 858282101.