ข้ามไปเนื้อหา

โคบานี

พิกัด: 36°53′28″N 38°21′13″E / 36.8910278°N 38.3536111°E / 36.8910278; 38.3536111
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โคบานี
นคร
อัยนุลอะร็อบ
โคบานีในช่วงการปิดล้อมใน ค.ศ. 2014
โคบานีในช่วงการปิดล้อมใน ค.ศ. 2014
โคบานีตั้งอยู่ในประเทศซีเรีย
โคบานี
โคบานี
ที่ตั้งในประเทศซีเรีย
พิกัด: 36°53′28″N 38°21′13″E / 36.8910278°N 38.3536111°E / 36.8910278; 38.3536111
ประเทศ ซีเรีย
เขตผู้ว่าการอะเลปโป
อำเภออัยนุลอะร็อบ
ตำบลอัยนุลอะร็อบ
ก่อตั้งค.ศ. 1915
ควบคุมโดย ฝ่ายปกครองตนเองซีเรียเหนือและตะวันออก
พื้นที่
 • นคร7 ตร.กม. (3 ตร.ไมล์)
ความสูง520 เมตร (1,710 ฟุต)
ประชากร
 (สำมะโน 2004, เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น)[1]
 • นคร44,821 คน
 • ประมาณ 
(2015)[2]
40,000 คน
 • นาฮิยะฮ์78,130
เขตเวลาUTC+3 (เวลายุโรปตะวันออก)
 • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)+3
รหัสไปรษณีย์C1946
รหัสภูมิศาสตร์SY020600

โคบานี[a][3] หรือ โคบาเน มีชื่อทางการว่า อัยนุลอะร็อบ[b] เป็นนครชาวเคิร์ดส่วนใหญ่ในอำเภออัยนุลอะร็อบ ประเทศซีเรียตอนเหนือ ตั้งอยู่ทางใต้ชายแดนซีเรีย–ตุรกี เนื่องด้วยผลของสงครามกลางเมืองซีเรีย ทำให้นครนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของทหารกองหนุน People's Protection Units (YPG) ชาวเคิร์ดส่วนใหญ่ใน ค.ศ. 2012 และกลายเป็นเมืองหลักของโคบานีแคนทอน[4] ภายหลังกลายเป็นภูมิภาคยูเฟรติสของฝ่ายปกครองตนเองซีเรียเหนือและตะวันออก

ในช่วงกันยายน ค.ศ. 2014 ถึงมกราคม ค.ศ. 2015 นครนี้ถูกล้อมโดยรัฐอิสลาม พื้นที่ตะวันออกของนครส่วนใหญ่ถูกทำลาย และประชากรส่วนใหญ่อพยพไปยังประเทศตุรกี[5] ใน ค.ศ. 2015 ประชากรหลายคนกลับมาและเริ่มการก่อสร้างบูรณะ[6]

ในช่วงกลางตุลาคม ค.ศ. 2019 กองกำลังเคิร์ดรับรองการเข้ามาของกองทัพซีเรียและตำรวจทหารรัสเซีย เพื่อหยุดยั้งตุรกีไม่ให้รุกรานเมืองนี้[7]

ก่อนหน้าสงครามกลางเมืองซีเรีย โคบานีได้รับการบันทึกว่ามีประชากรเกือบ 45,000 คน[1] ตามจำนวนใน ค.ศ. 2013 พลเมืองส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ด ส่วนชาวอาหรับ, เติร์กเมน และอาร์มีเนียเป็นชนกลุ่มน้อย[8]

ชื่อ

[แก้]

ทฤษฎีหนึ่งเกี่ยวกับที่มาของชื่อในภาษาเคิร์ดว่า Kobanî (كوباني) คือคำว่า company สื่อถึงบริษัทการรถไฟเยอรมัน[9][10] ที่สร้างในส่วนทางรถไฟคอนยา-แบกแดดที่เมืองนี้ตั้งอยู่ด้วยใน ค.ศ. 1911[11][12][13][14] อย่างไรก็ตาม บางคนตั้งข้อสงสัยเนื่องจากคำว่าบริษัทในภาษาเยอรมันคือ “Gesellschaft” ส่วน "Kompanie" (หมายถึง company) สื่อถึงหน่วยทหาร คนอื่นตั้งข้อเสนอแนะว่าที่มาของคำว่า Kobanî อาจมาจากคำว่า "Bahn" ในภาษาเยอรมันที่แปลว่าถนน เนื่องจากทางรถไฟนี้มีชื่อเรียกว่า "Anatolische Eisenbahn"[10]

ชื่อภาษาตุรกีออตโตมันของหมู่บ้านตะวันออกคือ อารับพือนารือ (ตุรกีออตโตมัน: عرب پیناری, ตุรกี: Arap Pınar, แปลตรงตัว'ตาน้ำชาวอาหรับ')[15] และอัยนุลอะร็อบ (عين العرب) ชื่อโคบานีในภาษาอาหรับ เป็นรูปแปลจากชื่อนี้ คำว่า "ตาน้ำ" สื่อถึงลำธารที่เคยไหลไปทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน และในช่วงฤดูร้อน ชาวอาหรับเร่ร่อนจะนำฝูงสัตว์มายังสถานที่นี้ หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ทางใต้ของทะเลสาบขนาดเล็กที่แห้งขอดในคริสต์ทศวรรษ 1960 ชื่อมือร์ชิทพีนาร์ (Mürşitpinar) ยังคงใช้งานในบริเวณตะวันตกของหมู่บ้านและสถานีรถไฟฝั่งประเทศตุรกี[16]

ภูมิอากาศ

[แก้]

โคบานีมีสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนเขตร้อนในฤดูร้อน (การแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิพเพิน Csa)

ข้อมูลภูมิอากาศของโคบานี
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 7.7
(45.9)
9.7
(49.5)
14.6
(58.3)
22.3
(72.1)
26.8
(80.2)
32.5
(90.5)
36.4
(97.5)
36.1
(97)
31.7
(89.1)
24.8
(76.6)
16.4
(61.5)
9.9
(49.8)
22.41
(72.34)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) -1.1
(30)
0.8
(33.4)
2.8
(37)
6.5
(43.7)
11.2
(52.2)
16.0
(60.8)
19.4
(66.9)
18.9
(66)
14.3
(57.7)
9.2
(48.6)
4.1
(39.4)
0.7
(33.3)
8.57
(47.42)
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) 78
(3.07)
58
(2.28)
52
(2.05)
39
(1.54)
25
(0.98)
3
(0.12)
0
(0)
0
(0)
2
(0.08)
23
(0.91)
37
(1.46)
72
(2.83)
389
(15.31)
ความชื้นร้อยละ 75 67 60 56 42 40 34 34 44 47 55 75 52.4
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย 11 7 5 5 4 2 0 0 2 4 6 10 56
วันที่มีหิมะตกโดยเฉลี่ย 2.5 1.5 0 0 0 0 0 0 0 0 0 2 6
แหล่งที่มา: [17]

อ้างอิง

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. เคิร์ด: کۆبانی, อักษรโรมัน: Kobanî, Kobanê, ออกเสียง: [koˈbaːniː]; อาหรับ: كُوبَانِي, อักษรโรมัน: Kūbānī
  2. อาหรับ: عَيْن الْعَرَب, อักษรโรมัน: ʿAyn al-ʿArab, แปลตรงตัว'ตาน้ำชาวอาหรับ', เสียงอ่านภาษาอาหรับ: [ʕeːn elˈʕɑrɑb]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "General Census of Population and Housing 2004: Ain al-Arab nahiyah" (ภาษาอาหรับ). Syrian Central Bureau of Statistics. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 November 2015. สืบค้นเมื่อ 15 October 2015. Also available in English: "Syria: 2004 census data". UN OCHA. สืบค้นเมื่อ 15 October 2015.
  2. "40 thousand have returned to Kobanê so far". BestaNûçe. 17 March 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 July 2018. สืบค้นเมื่อ 12 October 2015.
  3. Ehmed, Raman (March 12, 2020). "Kobanî yan Kobanê?". ZIMANNAS.
  4. Abboud 2018, Table 4.1 Cantons of the Rojava Administration.
  5. "Syrian Kurds 'drive Islamic State out of Kobane'". BBC News. 26 January 2015. สืบค้นเมื่อ 26 January 2015.
  6. Graham-Harrison, Emma (31 January 2015). "Kobani: destroyed and riddled with unexploded bombs, but its residents dare to dream of a new start". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 2 November 2023.
  7. "Syrian government forces set to enter Kobani and Manbij after SDF deal". The Defense Post (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2019-10-13. สืบค้นเมื่อ 2019-10-28.
  8. according to a 2013 estimate, about 90% Kurds, close to 5% Arab and Turkmen, and 1% Armenians."The Second Report: Ayn al-Arab/Kobani, Etana Billetin-First issue". Etana Files. 1 December 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-28. สืบค้นเมื่อ 28 April 2014.
  9. Sociéte Impériale du Chemin de fer de Bagdad, founded on 13 April 1903 with 40% ownership of Deutsche Bank, 30% Imperial Ottoman Bank, 10% Anatolische Eisenbahn-Gesellschaft, 7.5% Wiener Bankverein, 7.5% Schweizerische Kreditanstalt, 5% Banca Commerciale Italiana.
  10. 10.0 10.1 "Explained: Kobane or Ayn al-Arab?". Daily News. 28 August 2014. สืบค้นเมื่อ 21 June 2015.
  11. Other sources that refer to this subject include Nedal Yousef, 'Interview with Hussein Amin Hussein about [his book] 'Ayn al-Arab – One Hundred Years "حسين أمين حسين"...يتحدث عن مدينة "عين العرب" في مئة عام.. (esyria.sy) 9 April 2009. Hussein Ali Hussein, "Ayn Al-Arab over a century" (عين العرب في مئة عام), Dar Al-Aqsa, Damascus (2007); the book is a history of the town compiled for its centennial from accounts in living memory (notably from one Mohamed Abdi, who according to Hussein died in 1998 aged 118, as well as "other centenarians from the region").
  12. Patrick Cockburn, Isis in Kobani: Turkey's act of abandonment may mark an 'irrevocable breach' with Kurds across the region Independent 7 October 2014.
  13. Tastekin, Fehim (28 October 2014). "Erdogan plays 'Arab card' in Kobani". Al-Monitor.
  14. Movsesian, Mark (27 October 2014). "Kobani, Then and Now". First Things.
  15. "Explained: Kobane or Ayn al-Arab? - World News". Hürriyet Daily News. 28 October 2014.
  16. The district of Kobani comprises about 170 villages: Gérard Chaliand, A People Without a Country: The Kurds and Kurdistan, 1993, p. 195. name of the station: Office International de Renseignements sur les Sauterelles de Damas, 1930, p. 43.
  17. Weather Online, Weather Base, BBC Weather and My Weather 2, accessed 10 November 2012

ผลงานอ้างอิง

[แก้]

อ่านเพิ่ม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]