ข้ามไปเนื้อหา

แฮร์ทโซเกินเอารัค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แฮร์ทโซเกินเอารัค
เมืองเก่าแฮร์ทโซเกินเอารัค
เมืองเก่าแฮร์ทโซเกินเอารัค
ตราราชการของแฮร์ทโซเกินเอารัค
ตราอาร์ม
ที่ตั้งของแฮร์ทโซเกินเอารัค ในอำเภอErlangen-Höchstadt
แฮร์ทโซเกินเอารัค ตั้งอยู่ในเยอรมนี
แฮร์ทโซเกินเอารัค
แฮร์ทโซเกินเอารัค
แฮร์ทโซเกินเอารัค ตั้งอยู่ในรัฐบาวาเรีย
แฮร์ทโซเกินเอารัค
แฮร์ทโซเกินเอารัค
พิกัด: 49°34′12″N 10°52′55″E / 49.57000°N 10.88194°E / 49.57000; 10.88194
ประเทศเยอรมนี
รัฐไบเอิร์น
จังหวัดมิทเทิลฟรังเคิน
อำเภอErlangen-Höchstadt
เขตการปกครอง12 เขต
การปกครอง
  นายกเทศมนตรี (202026) แกร์มัน ฮักเคอร์ [de][1] (SPD)
พื้นที่
  ทั้งหมด47.62 ตร.กม. (18.39 ตร.ไมล์)
ความสูง301 เมตร (988 ฟุต)
ประชากร
 (2020-12-31)[2]
  ทั้งหมด23,616 คน
  ความหนาแน่น500 คน/ตร.กม. (1,300 คน/ตร.ไมล์)
เขตเวลาUTC+01:00 (CET)
  ฤดูร้อน
(เวลาออมแสง)
UTC+02:00 (CEST)
รหัสไปรษณีย์91074
รหัสโทรศัพท์09132
ทะเบียนพาหนะERH
เว็บไซต์www.herzogenaurach.de

แฮร์ทโซเกินเอารัค (เยอรมัน: Herzogenaurach; เสียงอ่านภาษาเยอรมัน: [hɛʁtsoːɡn̩ˈʔaʊʁax] ; Mainfränkisch: Herziaura) เป็นเมืองในอำเภอเอร์ลาเงิน-เฮิคชตัท ในรัฐไบเอิร์น ประเทศเยอรมนี ที่ตั้งของบริษัทผู้ผบิตสินค้ากีฬาสองเจ้าใหญ่ของโลก อาดิดาส และ พูมา[3][4] กับเครือเชฟเฟลอร์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

ภูมิศาสตร์

[แก้]

แฮร์ทโซเกินเอารัคตั้งอยู่ในบริเวณฟรังโคเนียกลางของไบเอิร์น ห่างไป 23 km (14 mi) ทางเหนือของนครนวร์นแบร์ค เมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งของแม่น้ำเอารัค ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำเรกนิทซ์

ประวัติศาสตร์

[แก้]

ปรากฏการกล่าวถึงชื่อเมืองแฮร์ทโซเกินเอารัคครั้งแรกในปี 1002 ในชื่อ อูราฮา (Uraha) โดยจักรพรรดิเฮนรีที่สองแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ได้มอบเมืองนี้แก่พรินซ์บีโชพริกแห่งบัมแบร์ค

ในปี 1948 เมื่ออาดอล์ฟ ดัสเลอร์ และรูดอล์ฟ ดัสเลอร์ ออกมาก่อตั้งบริษัทรองเท้าของตนเอง เมืองนี้มีสมญาว่า "เมืองคนคอหัก" (the town of bent necks) ซึ่งหมายถึงผู้คนมักก้มมองดูรองเท้าของคนแปลกหน้าที่เดินพบพาน

เศรษฐกิจ

[แก้]

แฮร์ทโซเกินเอารัคมีชื่อเสียงในระดับโลกในฐานะบ้านเกิดของบริษัทสินค้ากีฬาใหญ่สองเจ้าของโลก คือ อาดิดาส และ พูมา ก่อตั้งโดยพี่น้อง อาดอล์ฟ ดัสเลอร์ และ รูดอล์ฟ ดัสเลอร์ ตามลำดับ ในปี 1948 สำนักงานใหญ่ของทั้งสองบริษัทเปิดทำการในเมืองนี้มาตั้งแต่ทศวรรษ 1960s,[5] จนถึงปัจจุบัน ความบาดหมางระหว่างสองพี่น้องและสองบริษัทปรากฏให้เห็นทั้งจากที่ตั้งของสองสำนักงานใหญ่บนคนละฝั่งแม่น้ำเอารัค ไปจนถึงที่ฝังศพของอาดอล์ฟและรูดี ซึ่งอยู่กันคนละฟากของสุสานในเมือง[6] คนงานของสองบริษัทในอดีตยังไม่สุสงสิงกันเป็นอันขาด อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ความบาดหมางดังกล่าวไม่ได้เข้มข้นเท่าในอดีตแล้ว

บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครือเชฟเฟลอร์ ตั้งอยู่ในเมืองนี้เช่นกัน

กีฬา

[แก้]

เมืองแฮร์ทโซเกินเอารัคมีสองสโมสรฟุตบอล ซึ่งสนับสนุนโดยสองบริษัทสินค้ากีฬาเช่นกัน ได้แก่ อาเอสเฟ แฮร์ทโซเกินเอารัค สนับสนุนโดยอาดิดาส และ เอฟเซ แฮร์ทโซเกินเอารัค สนับสนุนโดยพูมา[7] ทั้งสองสมโสรเล่นในระดับเริ่มต้น

ในปี 2006 ทีมฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินามีฐานอยู่ที่นี่สำหรับเตรียมการฟีฟาเวิลด์คัปในปีนั้น

ทีมฟึตบอลทีมชาติเยอรมนีประจำการอยู่ที่อาดิดาสโฮมกราวด์ (Adidas Home Ground) เมื่อเตรียมการสำหรับแข่งชิงถ้วยยุโรปปี 2021 และ ปี 2024[8]

ฐานบินเฮร์โซ

[แก้]
ฐานบินแฮร์ทโซเกินเอารัค

มีฐานบินการทหารตั้งอยู่ในแฮร์ทโซเกินเอารัคตั้งแต่ทศวรรษ 1930s ผลงานออกแบบแรกิริ่มโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ก่อสร้างโดยด็อยเชอลุฟท์วัฟเฟอ (Deutsche Luftwaffe; กองทัพอากาศ) ในชื่อ ด็อยเชอฟลีเกอร์ชูเลอ (Deutsche Fliegerschule; โรงเรียนนักบินเยอรมัน)

ฐานบินถูกยึดครองอย่างเป็นทางการในปี 1936 โดยลุฟท์วัฟเฟอ ใช้งานหลัก ๆ สำหรับเป็นจุดเติมเชื้อเพลิงให้กับอากาศยานในการรุกรานออสเตรียและเช็กโกสโลวะเกีย ทุก ๆ เดือนกันยายน ในสมัยนาซี จะมีเครื่องบินบินจากฐานบินนี้เพื่อเข้าร่วมการเดินขบวนประจำปีของนาซี ไรคส์พาร์ไททาก (Reichsparteitag) ที่จัดที่ทุ่งเซ็พเพอลิน (Zeppelinwiese) ในนวร์นแบร์ค

ในเดือนเมษายน 1945 กองกำลังสัมพันธมิตรบุกเยอรมนี กองทัพที่สาม สหรัฐอเมริกา เข้ายึดครองฐานบินและแปรสภาพเป็น ALG R-29 ในเดือนพฤษภาคม 1946 กองพลวิทยุที่สอง (2nd Radio Corps) เข้าครองฐานบินและเปลี่ยนชื่อเป็นฐานเฮอร์โซ ("Herzo Base") ในฐานบินส่งมอบคืนแก่รัฐบาลเยอรมนีอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 สิงหาคม 1992[9][10][11][12] นับจากนั้นมา ได้ใช้งานเป็นลานบินสำหรับพลเรือนในเชิงนันทนาการ[13] มีรหัส ICAO EDQH

เมืองแฝด

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Liste der ersten Bürgermeister/Oberbürgermeister in kreisangehörigen Gemeinden เก็บถาวร 2021-06-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Bayerisches Landesamt für Statistik, 15 July 2021.
  2. "Tabellenblatt "Daten 2", Statistischer Bericht A1200C 202041 Einwohnerzahlen der Gemeinden, Kreise und Regierungsbezirke". Bayerisches Landesamt für Statistik (ภาษาเยอรมัน). June 2021.
  3. "The Town that Sibling Rivalry Built, and Divided | Business | DW.DE | 03.07.2006". Dw.de. สืบค้นเมื่อ 2015-05-29.
  4. Hagler, Tom (2006-06-07). "Europe | German feud inspires boots town". BBC News Online. สืบค้นเมื่อ 2015-05-29.
  5. O'Riordan, Ian (January 3, 2020). "Lost letter from Adi Dassler casts light on the original arms race in running shoes". The Irish Times. สืบค้นเมื่อ May 13, 2021.
  6. Hall, Allan (2009-09-22). "Adidas and Puma bury the hatchet after 60 years of brothers' feud after football match". Telegraph. สืบค้นเมื่อ 2016-08-18.
  7. James, Kyle (3 July 2006). "The Town that Sibling Rivalry Built, and Divided". Deutsche Welle.
  8. UEFA.com (2024-06-07). "UEFA EURO 2024: Where will the teams be based?". UEFA (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-06-15.
  9. "354 Operations Group Fact Sheet, USAFHRA". Afhra.af.mil. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-04. สืบค้นเมื่อ 2012-11-04.
  10. Larry Belmont. "USAAF Airfields in the ETO". Skylighters.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-04. สืบค้นเมื่อ 2012-11-04.
  11. AAF Airfields in France, Belgium, Netherlands, Luxembourg เก็บถาวร มกราคม 6, 2009 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  12. "Nuremberg Military Community history page". Nbg-mil-com.de. สืบค้นเมื่อ 2012-11-04.
  13. "EDQH: Home". Flugplatz-herzogenaurach.de. สืบค้นเมื่อ 2012-11-04.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]