แอร์เอเชียฟิลิปปินส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟิลิปปินส์แอร์เอเชีย
IATA ICAO รหัสเรียก
Z2 APG COOL RED
ก่อตั้ง16 ธันวาคม 2010; 12 ปีก่อน (2010-12-16)
เริ่มดำเนินงาน28 มีนาคม 2012; 11 ปีก่อน (2012-03-28)
AOC #2009003[1]
ฐานการบิน
สะสมไมล์BIG Loyalty Programme[2]
ขนาดฝูงบิน15
จุดหมาย30
บริษัทแม่แอร์เอเชีย
สำนักงานใหญ่ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อาคิโน
ปาไซ, เมโทรมะนิลา, ฟิลิปปินส์
บุคลากรหลัก
  • Marianne Victoria B. Hontiveros (หัวหน้า)
  • Ricardo P. Isla (ประธาน & CEO)[3]
  • Atty. Josephine Joy D. Cañeba (Vice President)
  • Dexter P. Comendador (COO)
  • Nancy Jane G. Mejia, CPA (CFO)
เว็บไซต์www.airasia.com

แอร์เอเชียฟิลิปปินส์ เป็นสายการบินราคาประหยัด ในประเทศฟิลิปปินส์ หรือที่เรียกว่า low-cost carrier[4] แอร์เอเชียฟิลิปปินส์ เกิดจากการร่วมลงทุนของนักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์ ได้แก่ นางแมเรียน บี. ฮอนติเวรอส, นายอันโตนิโอ โคฮวนโก จูเนียร์และนายไมเคิล โรเมโร ในสัดส่วนเท่าๆกันรวม 60% และอีก 40% เป็นของแอร์เอเชีย เบอร์ฮัด แอร์เอเชียมาเลเซีย โดยจัดตั้งบริษัท AirAsia Incorporated (AirAsia Inc.) หรือ แอร์เอเชียฟิลิปปินส์ บริษัทร่วมทุนได้รับการอนุมัติเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553 โดยคณะกรรมการการลงทุน, ซึ่งเป็นหน่วยงานในประเทศฟิลิปปินส์.[5]
โดยมีสนามบินหลักอยู่ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติคลาร์ก หรือ สนามบินนานาชาติ Diosdado Macapagal [6] ในเมืองแอนเจลิส โดยใช้เวลาประมาณ 90 นาทีในการเดินทางไปกรุงมะนิลา การเลือกใช้ ท่าอากาศยานนานาชาติคลาร์ก เป็นหนึ่งในพันธกิจของสายการบินที่จะพัฒนาศูนย์กลางการคมนาคมและการท่องเที่ยวภายนอกกรุงมะนิลา และเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาประเทศในภาพรวม โดยแอร์เอเชีย ฟิลิปปินส์ วางแผนจะสร้าง ท่าอากาศยานนานาชาติคลาร์กให้เป็นศูนย์กลางการบินไปสู่จุดหมายที่ได้รับความนิยม อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน จีน ไทย เกาหลี และญี่ปุ่น เพื่อให้การเดินทางจะเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย

ประวัติ[แก้]

เนื่องจากรัฐธรรมนูญของประเทศฟิลิปปินส์ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของธุรกิจที่จดทะเบียนในประเทศฟิลิปปินส์ 100% จึงได้มีการร่วมลงทุนของนักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์ และ แอร์เอเชีย เบอร์ฮัด แอร์เอเชียมาเลเซีย ในสัดส่วน 60% และ 40%. บริษัทร่วมทุนได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553 โดยคณะกรรมการการลงทุน, ซึ่งเป็นหน่วยงานในประเทศฟิลิปปินส์
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554, แอร์เอเชียฟิลิปปินส์ได้รับมอบ เครื่องบินแอร์บัส A320 ลำใหม่เป็นลำแรก ที่ท่าอากาศยานนานาชาติคลาร์กในเมืองแอนเจลิส ต่อมาในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ได้รับมอบเครื่องบินแอร์บัส A320 เป็นลำที่ 2 เพิ่มเข้าฝูงบินด้วย, รวมเครื่องบินแอร์บัส A320 ในฝูงบิน เป็นจำนวน 2 ลำ และ จะเพิ่มจำนวนเครื่องบินแอร์บัส A320s เข้ามาในฝูงบินขึ้นอีก 4 ลำ ภายในเดือนมิถุนายนของปีพ.ศ. 2555.
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555, สายการบินแอร์เอเชียฟิลิปปินส์ ได้รับหนังสือรับรองผู้ประกอบการการบิน[7] จากหน่วยงานการบินพลเรือนของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้สายการบินได้รับอนุญาตให้บินในน่านฟ้าของประเทศฟิลิปปินส์ด้วย
ในปัจจุบัน แอร์เอเชียฟิลิปปินส์ ได้เข้าซื้อกิจการของ สายการบิน เซสต์แอร์ และได้ย้ายฐานการบินจาก ท่าอากาศยานนานาชาติคลาร์กในเมืองแอนเจลิส มาให้บริการที่ ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อควิโน ที่กรุงมะนิลา เป็นท่าอากาศยานหลัก และได้เปลี่ยนชื่อ สายการบิน เซสต์แอร์ เป็น แอร์เอเชียเซสต์ (Z2) โดยให้บริการร่วมกันใน 3 เมืองหลักคือ เมืองเซบู , เมืองคาลิโบ้ และ เมืองดาเวา

จุดหมายปลายทาง[แก้]

แอร์เอเชียฟิลิปปินส์ จะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ลำใหม่ โดยเริ่มดำเนินการภายในประเทศฟิลิปปินส์เป็นอันดับแรก โดยจุดหมายปลายทางดังต่อไปนี้

ฝูงบิน[แก้]

แอร์บัส เอ320-200

ข้อมูลเมื่อ พฤศจิกายน 2022 จำนวนฝูงบินของสายการบินแอร์เอเชียฟิลิปปินส์:

ฝูงบินของสายการบินแอร์เอเชียฟิลิปปินส์
เครื่องบิน ประจำการ สั่งซื้อ จำนวนผู้โดยสาร หมายเหตุ
แอร์บัส เอ320-200 15 180
186
รวม 15

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "ACTIVE/CURRENT AOC HOLDERS" (PDF). Civil Aviation Authority of the Philippines. May 30, 2019. สืบค้นเมื่อ January 8, 2023.
  2. "Join BIG! AirAsia BIG Loyalty Programme". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 May 2008.
  3. Valdez, Denise A. (31 July 2019). "AirAsia PHL names new CEO". BusinessWorld.
  4. http://www.mb.com.ph/articles/293287/airasia-launches-philippine-joint-venture
  5. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-24. สืบค้นเมื่อ 2012-03-25.
  6. http://www.dmia.ph
  7. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-27. สืบค้นเมื่อ 2012-03-25.