แรมง กอปา
![]() | |||
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | แรมง กอปา[1] | ||
ชื่อเกิด | แรมง กอปาแชฟสกี[2] | ||
วันเกิด | 13 ตุลาคม ค.ศ. 1931[2] | ||
วันเสียชีวิต | 3 มีนาคม ค.ศ. 2017 | (85 ปี)||
สถานที่เสียชีวิต | อ็องเฌ | ||
ส่วนสูง | 1.68 m (5 ft 6 in)[2] |
แรมง กอปา (นามสกุลเดิม กอปาแชฟสกี;[3] 13 ตุลาคม ค.ศ. 1931 – 3 มีนาคม ค.ศ. 2017) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวฝรั่งเศสที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติฝรั่งเศสในช่วงทศวรรษ 1950 ในระดับสโมสร เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมเรอัลมาดริดในตำนานในช่วงทศวรรษ 1950 โดยคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพ 3 สมัย
เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล[4][5][6] กอปาเป็นกองหน้าและกองกลางตัวรุก ซึ่งมีทั้งความเร็ว คล่องแคล่ว เป็นที่รู้จักในเรื่องการเลี้ยงบอล การสร้างสรรค์เกม และทำประตูได้อย่างมากมาย[7] ใน ค.ศ. 1958 กอปาได้รับรางวัลบาลงดอร์ ใน ค.ศ. 1970 เขากลายเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ ใน ค.ศ. 2004 เปเล่ได้ยกย่องให้เขาเป็น 1 ใน 125 นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ในงานประกาศรางวัลฟีฟ่า
ชีวิตวัยเด็ก
[แก้]กอปาเกิดในครอบครัวผู้อพยพชาวโปแลนด์[8] ปู่และย่าของเขาเดิมมาจากกรากุฟและอพยพไปยังประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นที่ที่พ่อแม่ของเขาเกิด จากนั้นพวกเขาจึงอพยพไปยังฝรั่งเศสภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง[9]
นามสกุลของเขาถูกย่อเหลือเพียงกอปาจากเดิมกอปาแชฟสกี ในขณะที่เขาเรียนอยู่ที่โรงเรียน เขาได้รับสัญชาติฝรั่งเศสเมื่อบรรลุนิติภาวะใน ค.ศ. 1952[9] เมื่ออายุ 14 ปี เขาได้เดินตามรอยปู่ พ่อ และพี่ชายของเขาโดยการทำงานในเหมืองถ่านหินที่เนอ-เล-มีน ระหว่างนี้กอปาสูญเสียนิ้วจากอุบัติเหตุในเหมืองแร่[3]
ชีวิตส่วนตัว
[แก้]กอปาแต่งงานกับคริสตียาน น้องสาวของเพื่อนร่วมทีมของเขาที่อ็องเฌ หลังจากเลิกเล่นฟุตบอล เขาก็ตั้งตราสินค้าชุดกีฬาของตัวเอง และลงหลักปักฐานที่เกาะคอร์ซิกาในที่สุด[3] กอปาเสียชีวิตในเมืองอ็องเฌ จังหวัดแมเนลัวร์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2017 สิริอายุได้ 85 ปี[10]
กอปาได้รับคำแนะนำจากปอล ซีนีบาลดี อดีตเพื่อนร่วมทีมแร็งส์ ซีนีบาลดีเป็นพ่อทูนหัวของลูกชายของกอปา[11]
อาชีพ
[แก้]
หลังจากจบอันดับ 2 ในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติของฝรั่งเศสเมื่อ ค.ศ. 1949[3] กอปาเริ่มต้นอาชีพเมื่ออายุ 17 ปีกับอ็องเฌในลีกเดอและอีกสองปีต่อมาเขาย้ายไปอยู่กับแร็งส์ซึ่งเขาคว้าแชมป์ลีกเอิงใน ค.ศ. 1953 และ ค.ศ. 1955 เขาคว้าแชมป์ลาตินคัพใน ค.ศ. 1953 ร่วมกับแร็งส์ ซึ่งพวกเขาเอาชนะเอซี มิลาน 3–0 ในรอบชิงชนะเลิศและช่วยให้พวกเขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ค.ศ. 1956 ซึ่งทีมแพ้ให้กับเรอัลมาดริดของอัลเฟรโด ดิ เอสเตฟาโน 4–3[12]
กอปาได้รับความสนใจจากสเปนเป็นครั้งแรกเมื่อเขาได้ลงเล่นให้กับฝรั่งเศสพบกับสเปนในแมตช์ที่กรุงมาดริดในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1955 หลังจากนั้น มาร์กา หนังสือพิมพ์กีฬาของสเปนจึงขนานนามเขาว่า "นโปเลียนน้อย"[3] กอปาย้ายไปร่วมทีมเรอัลมาดริดในฤดูกาล 1956–57 ซึ่งในไม่ช้าเขาก็ได้ร่วมงานกับแฟแร็นตส์ ปุชกาช กัปตันทีมชาติฮังการี แม้จะเล่นในตำแหน่งตัวในด้านขวาให้กับเรอัลมาดริดแทนที่จะเป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นตำแหน่งปกติของเขา กอปาก็ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพได้ 3 สมัยติดต่อกันและแชมป์ลาลิกาใน ค.ศ. 1957 และ ค.ศ. 1958 นอกจากนี้ กอปายังเป็นผู้เล่นฝรั่งเศสคนแรกที่คว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพเมื่อมาดริดเอาชนะฟีออเรนตีนา 2–0 ในรอบชิงชนะเลิศ ค.ศ. 1957 เขายังคงเป็นแชมป์ยูโรเปียนคัพใน ค.ศ. 1958 และ ค.ศ. 1959 โดยครั้งหลังเขาพบกับแร็งส์ ทีมเก่าของเขา ซึ่งมีฌุสต์ ฟงแตน ผู้ทำประตูสูงสุดจากฟุตบอลโลก 1958 เป็นกองหน้า ในฤดูกาล 1959–60 หลังจากเล่นกับมาดริดมา 3 ปี กอปาก็กลับมาฝรั่งเศสเพื่อจบอาชีพของเขากับแร็งส์ ซึ่งเขาคว้าแชมป์ลีกเอิงได้อีก 2 สมัยใน ค.ศ. 1960 และ ค.ศ. 1962 รวมแล้วเขายิงได้ 75 ประตูจาก 346 นัดในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส และได้รับรางวัลบาลงดอร์จากนิตยสาร ฟร็องส์ฟุตโบล ใน ค.ศ. 1958[13]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Décret du 6 avril 2007 portant promotion et nomination" [Decree of 6 April 2007 on promotion and appointment]. Official Journal of the French Republic (ภาษาฝรั่งเศส). 2007 (84). 8 April 2007. PREX0710142D. สืบค้นเมื่อ 15 March 2025.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "Raymond Kopa". L'Équipe (ภาษาฝรั่งเศส). Paris. สืบค้นเมื่อ 5 June 2019.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 Gaillard, William (4 February 2011). "Goals, not coal, for Kopa". uefa.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 August 2022. สืบค้นเมื่อ 22 August 2022.
- ↑ "The 50 Greatest Footballers of All Time". Sports Illustrated. 21 May 2019. สืบค้นเมื่อ 24 December 2023.
- ↑ Carney, Jimmi (31 May 2011). "The 100 Best Footballers of All Time". Bleacher Report. สืบค้นเมื่อ 24 December 2023.
- ↑ Ritchie, Calum (23 November 2023). "25 Greatest Players Of All Time (Ranked)". GiveMeSport. สืบค้นเมื่อ 24 December 2023.
- ↑ The Greatest Offensive Midfielders of All-Time. xtratime.org
- ↑ Braun, Didier. "L'Équipe de France de football, c'est l'histoire en raccourci d'un siècle d'immigration" (PDF). L'Équipe. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 13 January 2012. สืบค้นเมื่อ 15 August 2009.
- ↑ 9.0 9.1 Boli, C; Grognet, F; Gastaut, Y (2010). Allez la France! football et immigration. Gallimard. ISBN 978-2070129638.
- ↑ Bouchez, Yann (3 March 2017). "Raymond Kopa, figure du football français, est mort". Le Monde (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 3 March 2017.
- ↑ Philippe Rey-Gorez and Alexandre Audabram (2 April 2018). "Paul Sinibaldi, ancienne star du Stade de Reims, est mort" (ภาษาฝรั่งเศส). France Bleu. สืบค้นเมื่อ 3 April 2018.
- ↑ "European Cup final results since 1956". Reuters. 23 May 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 August 2019. สืบค้นเมื่อ 2 August 2019.
- ↑ Hanot, Gabriel. "Palmarès Ballon d'Or – 1958 – Raymond Kopa". www.francefootball.fr. สืบค้นเมื่อ 20 February 2017.
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2474
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2560
- นักฟุตบอลชายชาวฝรั่งเศส
- กองกลางฟุตบอลชาย
- ผู้เล่นสตาดเดอแร็งส์
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด
- ผู้เล่นในลีกเอิง
- ผู้เล่นในลีกเดอ
- ผู้เล่นในลาลิกา
- ผู้เล่นในชุดชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ผู้ชนะเลิศบาลงดอร์
- ฟีฟ่า 100
- นักฟุตบอลชายทีมชาติฝรั่งเศส
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 1954
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 1958
- บุคคลที่ได้รับสัญชาติฝรั่งเศส
- นักกีฬาชายชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 20
- ชาวฝรั่งเศสเชื้อสายโปแลนด์
- ผู้ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์
- บุคคลในวงการฟุตบอลที่ได้รับยศอัศวิน