ข้ามไปเนื้อหา

แฟรงค์ สเตเปิลตัน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แฟรงค์ สเตเปิลตัน
สเตเปิลตัน ในปี ค.ศ. 1987
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ฟรานซิส แอนโทนี สเตเปิลตัน
วันเกิด (1956-07-10) 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1956 (69 ปี)
สถานที่เกิด ดับลิน, ไอร์แลนด์
ส่วนสูง 1.80 เมตร (5 ฟุต 11 นิ้ว)[1]
ตำแหน่ง กองหน้า
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
1974–1981 อาร์เซนอล 225 (75)
1981–1987 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 223 (60)
1987 อายักซ์ 4 (0)
1987–1988Anderlecht (ยืม) 0 (0)
1988ดาร์บีเคาน์ตี (ยืม) 10 (1)
1988–1989 Le Havre 18 (5)
1989–1991 แบล็กเบิร์นโรเวอส์ 81 (13)
1991 Aldershot 1 (0)
1991 ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 5 (0)
1991–1994 แบรดฟอร์ดซิตี 68 (2)
รวม 618+ (151+)
ทีมชาติ
1976–1990 สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 71 (20)
จัดการทีม
1991–1994 แบรดฟอร์ดซิตี
1996 นิวอิงแลนด์เรฟโวลูชั่น
2014–2015 จอร์แดน (ผู้ช่วย)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น

ฟรานซิส แอนโทนี สเตเปิลตัน (อังกฤษ: Francis Anthony Stapleton Stapleton, เกิด 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1956) เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพและผู้จัดการทีมชาวไอริช เขาเป็นที่จดจำมากที่สุดในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับอาร์เซนอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และในฐานะผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ นอกจากนี้เขายังเคยเป็นผู้จัดการทีมแบรดฟอร์ดซิตี และสโมสรนิวอิงแลนด์เรโวลูชั่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์อีกด้วย

การเล่นฟุตบอลอาชีพ

[แก้]

สเตเปิลตันเป็นกองหน้าตัวเป้าที่มีความโดดเด่น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกในตำแหน่งของเขา และยังมีความสามารถในการโหม่งบอลเป็นพิเศษอีกด้วย เขาเริ่มต้นอาชีพกับอาร์เซนอลโดยเข้าร่วมทีมในปี ค.ศ. 1972 ในฐานะนักเตะฝึกหัดหลังจากถูกแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดปฏิเสธ[2] เขาประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1975 ที่เปิดบ้านพบกับสโตกซิตีและต่อมาก็ได้เป็นคู่หูในแนวรุกอันทรงพลังร่วมกับมัลคอล์ม แมคโดนัลด์โดยทั้งสองทำประตูรวมกันได้ 46 ประตูในฤดูกาล 1976–77 เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของอาร์เซนอลในสามฤดูกาลถัดมา และช่วยให้เดอะกันเนอร์สเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพได้ 3 ครั้ง สเตเปิลตันทำประตูหนึ่งลูกในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี 1979 ที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3–2 และยิงไป 108 ประตูจากการลงสนามรวม 300 นัดให้กับเดอะกันเนอร์ส

สเตเปิลตันย้ายไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงซัมเมอร์ปี ค.ศ. 1981 ด้วยค่าตัว 900,000 ปอนด์ (ค่าตัวที่ศาลตัดสินหลังจากทั้งสองสโมสรไม่สามารถตกลงกันได้) ขณะที่รอน แอตกินสัน ผู้จัดการทีมคนใหม่เริ่มสร้างทีมที่สามารถลุ้นแชมป์ได้หลังจากจบฤดูกาล 1980–81ที่น่าผิดหวังภายใต้การคุมทีมของเดฟ เซ็กซ์ตัน[2] เขาช่วยให้แมนฯยูไนเต็ดคว้าแชมป์เอฟเอคัพในปี 1983 และ 1985 ในนัดชิงชนะเลิศนัดแรกเขาทำประตูใส่ไบรท์ตัน ซึ่งสเตเปิลตันสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำประตูให้กับสองสโมสรที่แตกต่างกันในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ[3] ยูไนเต็ดจบฤดูกาลในสี่อันดับแรกของลีกในห้าฤดูกาลแรกของสเตเปิลตันที่โอลด์แทรฟฟอร์ดและเกือบจะคว้าแชมป์ลีกได้ในฤดูกาล 1985–86 หลังจากยูไนเต็ดชนะเกมลีกสิบนัดแรกของฤดูกาล ก่อนที่ฟอร์มของพวกเขาจะตกลงและจบฤดูกาลในอันดับที่สี่ แอตกินสันถูกปลดออกและถูกแทนที่โดยอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1986 และสเตเปิลตันก็ยังคงเป็นนักเตะตัวจริงในทีมชุดใหญ่ภายใต้ผู้จัดการทีมคนใหม่ แต่หลังจากที่ไบรอัน แมคแคลร์มาถึงสโมสร สเตเปิลตันก็ย้ายไปอายักซ์ตามคำแนะนำของอาร์โนลด์ มูห์เรนในช่วงซัมเมอร์ของปี ค.ศ. 1987 แต่การย้ายทีมครั้งนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง โดยเขาได้ลงเล่นแค่ 6 นัดและยิงได้ 1 ประตูกับดันดอล์กในศึกยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพก่อนที่จะถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับอันเดอร์เลชท์ในเบลเยียมช่วงสั้น ๆ เมื่อปลายปี ค.ศ. 1987 โดยไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นัดเดียว จากนั้นสเตเปิลตันก็ถูกยืมตัวไปเล่นให้ดาร์บีเคาน์ตีเป็นเวลาสามเดือน ก่อนจะไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1988 ในฐานะกัปตันทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ โดยเอาชนะอังกฤษ เสมอกับสหภาพโซเวียต 1–1 ซึ่งจบทัวร์นาเมนต์ด้วยตำแหน่งรองแชมป์ โดยพ่ายให้กับเนเธอร์แลนด์จากประตูชัยในช่วงท้ายเกม จากนั้นเขาเล่นให้กับสโมสรเลออาฟวร์ของฝรั่งเศสเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล ก่อนจะกลับมาอังกฤษอีกครั้งกับแบล็กเบิร์นโรเวอส์ในปี ค.ศ. 1989 จากนั้นจึงย้ายไปอยู่กับอัลเดอร์ช็อต ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ (ในตำแหน่งผู้เล่น-โค้ช) และแบรดฟอร์ดซิตี[4][5]

หลังจากรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมและนักเตะให้กับแบรดฟอร์ดมาเป็นเวลาสามฤดูกาล เขาก็ถูกปลดออกหลังจากที่ทีมไม่สามารถผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟดิวิชัน 2 ได้สำเร็จในช่วงปลายฤดูกาล 1993–94 จากนั้นเขาก็ได้ไปอยู่กับไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียนช่วงสั้น ๆ ในฤดูกาล 1994–95 โดยลงเล่นไป 2 เกม ก่อนที่จะประกาศอำลาอาชีพนักเตะในที่สุด

ระดับทีมชาติ

[แก้]

นอกจากนี้ สเตเปิลตันยังลงเล่นให้ทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ 71 นัดและยิงได้ 20 ประตู ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในขณะนั้น สเตเปิลตันประเดิมสนามในนามทีมชาติครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของจอห์นนี่ ไจลส์ ซึ่งเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมในเกมกระชับมิตรกับตุรกีที่อังการาเมื่อปี ค.ศ. 1976 ขณะอายุ 20 ปี เขาทำประตูได้หลังจากผ่านไปเพียงสามนาทีของนัดประเดิมสนามของเขา เมื่อเขาโหม่งบอลเข้าประตูจากลูกฟรีคิกของไจลส์ที่เสาใกล้ นัดกระชับมิตรนัดนี้จบลงด้วยสกอร์ 3–3 และถือเป็นจุดเริ่มต้นการเล่นทีมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจของสเตเปิลตันผู้เงียบขรึมและเจียมตัว

สเตเปิลตันมีความมุ่งมั่นต่อการเล่นฟุตบอลทีมชาติ โดยยืนกรานว่าจะต้องมี "international release clause" ลงในสัญญาของเขาทุกฉบับ เพื่อที่เขาจะได้รับการปล่อยตัวไปลงเล่นในเกมทีมชาติให้กับทีมชาติไอร์แลนด์ได้

สเตเปิลตันมีบทบาทสำคัญในความพยายามของไอร์แลนด์ในการผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 1982 ที่สเปน ประตูที่สเตเปิลตันทำได้ในนัดที่เจอกับไซปรัส เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศสในรอบคัดเลือกนั้นไม่เพียงพอทำให้ไอร์แลนด์พลาดโอกาสไปแข่งฟุตบอลโลก เพราะผลต่างประตูได้เสียของฝรั่งเศสดีกว่า สเตเปิลตันได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมชาติในการแข่งขันคัดเลือกฟุตบอลโลก 1986 แม้ว่าไอร์แลนด์จะไม่สามารถทำผลงานอันยอดเยี่ยมของพวกเขาได้เหมือนในการแข่งขันรอบคัดเลือกเมื่อปี 1982 ก็ตาม

แจ็ก ชาร์ลตันอดีตปราการหลังของลีดส์ยูไนเต็ดและทีมชาติอังกฤษซึ่งเป็นพี่ชายของบ็อบบี ชาร์ลตันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1986 และยังคงให้สเตเปิลตันทำหน้าที่เป็นกัปตันทีม แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนจะไม่ค่อยราบรื่นก็ตาม สเตเปิลตันทำประตูจากการโหม่งอันยอดเยี่ยมในเกมเปิดสนามคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1988 ที่พบกับเบลเยียมในเกมเสมอ 2–2 ที่สนามกีฬาเฮย์เซล กรุงบรัสเซลส์ในเดือนกันยายนปีนั้น นอกจากนี้ เขายังทำประตูได้ในเกมที่ทีมพ่ายต่อ บัลแกเรีย 2–1 ที่โซเฟีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1987 โดยทำอีกหนึ่งประตูนัดที่เจอกับลักเซมเบิร์ก ในเกมที่ชนะ 2–1 ที่สนามแลนส์ดาวน์โรด ในเดือนกันยายน

สเตเปิลตันเป็นกัปตันทีมชาติไอร์แลนด์ที่เข้าร่วมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบสุดท้ายในปี ค.ศ. 1988 และลงเล่นในทุกนัดของการแข่งขัน รวมถึงเกมที่ไอร์แลนด์เอาชนะอังกฤษด้วย

หลังจากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 1988 สเตเปิลตันยังคงอยู่ในทีมชาติเพื่อคัดเลือกไปฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลีโดยลงเล่นแค่ 2 นัดสุดท้าย เมื่อถึงเวลานั้น ประตู 20 ประตูที่เขายิงให้กับทีมชาติทำให้เขากลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติ ซึ่งสถิตินี้จะถูกทำลายลงอีก 10 ปีต่อมาโดยไนออล ควินน์ เมื่อสเตเปิลตันประกาศอำลาทีมชาติ[6]

อย่างไรก็ตาม เขายิงประตูในนาทีที่ 87 ในเกมกระชับมิตรที่ชนะมอลตา 3–0 ที่วัลเลตตาก่อนการแข่งขันรอบสุดท้ายที่อิตาลี

อ้างอิง

[แก้]
  1. Dunk, Peter, บ.ก. (1987). Rothmans Football Yearbook 1987–88. London: Queen Anne Press. p. 234. ISBN 978-0-356-14354-5.
  2. 1 2 "Stapleton's Arsenal years". ManUtd.com. Manchester United. 15 September 2006. สืบค้นเมื่อ 3 December 2006.
  3. "Frank Stapleton Profile". United Facts Book. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-05-28. สืบค้นเมื่อ 30 November 2021.
  4. "The iconic Irish international and the unmitigated disaster of signing for Johan Cruyff's Ajax". The 42. 23 May 2017. สืบค้นเมื่อ 24 May 2017.
  5. "afc-ajax/Frank-Stapleton". 2023-09-23.
  6. "Frank Stapleton : Manchester United : Irish Footballer". 20 December 2022.