แผ่นดินไหวในจังหวัดฮกไกโด พ.ศ. 2561

พิกัด: 42°40′16″N 141°55′59″E / 42.671°N 141.933°E / 42.671; 141.933
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แผ่นดินไหวในจังหวัดฮกไกโด พ.ศ. 2561
เวลาสากลเชิงพิกัด2018-09-05 18:07:58
รหัสเหตุการณ์ ISC612697604
USGS-ANSSComCat
วันที่ท้องถิ่น6 กันยายน ค.ศ. 2018 (2018-09-06)
เวลาท้องถิ่น03:08 น. เวลามาตรฐานญี่ปุ่น
ขนาด6.6 Mw
ความลึก35.0 km (22 mi)*
ศูนย์กลาง42°40′16″N 141°55′59″E / 42.671°N 141.933°E / 42.671; 141.933
ประเภทรอยเลื่อนย้อน
แผ่นดินไหวในแผ่นเปลือกโลก[1]
ระดับความรุนแรงที่รู้สึกได้X (อนุภาพรุนแรง) [2]

ชินโดะ 7
ค่าความเร่งสูงสุดของพื้นดิน1.83 g
1796 Gal
สึนามิไม่มี
แผ่นดินถล่มมี
แผ่นดินไหวตาม130
ใหญ่ที่สุด: ขนาด 5.7 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2019 (21:22 น. JST)[3]
ผู้ประสบภัยเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บ 691 ราย[4]

แผ่นดินไหวในจังหวัดฮกไกโด พ.ศ. 2561 หรือ แผ่นดินไหวเฮเซที่ 30 แห่งฮกไกโดอิบูริตะวันออก (ญี่ปุ่น: 平成30年北海道胆振東部地震โรมาจิHeisei san-jū-nen Hokkaidō Iburi tōbu jishin) มีขนาด 6.6 (มาตราขนาดโมเมนต์) เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 03:08 น. (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น) มีจุดศูนย์กลางในกิ่งจังหวัดอิบูริใกล้กับเมืองโทมาโกไม จังหวัดฮกไกโด มีความลึก 35.0 กิโลเมตร (21.7 ไมล์) มีความรุนแรงแผ่นดินไหวสูงสุด 7 ตามมาตราชินโดะ แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ในจังหวัดฮกไกโด จังหวัดอาโอโมริ และยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนไปถึงภูมิภาคคันโต[5] แผ่นดินไหวทําให้ไฟฟ้าดับทั่วฮกไกโด ผู้คน 5.3 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ [6] มีผู้เสียชีวิต 41 คน และบาดเจ็บ 601 คน แผ่นดินไหวครั้งนี้มีชื่อทางการคือ "แผ่นดินไหวเฮเซที่ 30 แห่งฮกไกโดอิบูริตะวันออก"

ธรณีวิทยา[แก้]

พื้นที่ตอนกลางของจังหวัดฮกไกโดมีแนวโน้มที่จะเกิดแผ่นดินไหวแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งอยู่บนขอบแผ่นเปลือกโลกใด ๆ ก็ตาม จากการสํารวจของกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีรอยเลื่อนแผ่นดินไหวหลายแห่งในตอนกลางของฮกไกโดรวมถึงรอยเลื่อนฟุราโนะและอิชิคาริ ในภูมิภาคนี้เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้วหลายครั้งในปี 1910, 1974, 1981, 1982 และ 2000 ซึ่งมีแผ่นดินไหวอุราคาวะ พ.ศ. 2525เป็นแผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดมีขนาด 7.1 แผ่นดินไหวทำให้มีผู้บาดเจ็บและเกิดความเสียหายในโทมาโกไมและซัปโปโระ มีภูเขาไฟหลายลูกตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของแผ่นดินไหว[7] ภูเขาไฟมีส่วนทำให้เกิดดินถล่มหลังจากฝนตกหนัก หินพัมมิชและดินถูกแรงเฉื่อนของแผ่นดินไหวทําให้เกิดดินถล่มที่นําไปสู่ความเสียหายรุนแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นผลมาจากดินถล่ม [8]

แผ่นดินไหวตาม[แก้]

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2019 ได้มีแผ่นดินไหวตามขนาด 5.7 ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวไปทางเหนือ 10 กิโลเมตร เป็นแผ่นดินไหวตามที่รุนแรงที่สุด[9] แผ่นดินไหวตามไม่มีรายงานความเสียหายที่สําคัญ แต่มีการหยุดชะงักของระบบรางรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟใต้ดินเทศบาลซัปโปโระ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเกิดหิมะถล่มในเมืองอัตสึมะ[10][11]

ความเสียหาย[แก้]

แผ่นดินไหวสร้างความเสียหายในฮกไกโด 367.5 พันล้านเยน (3.32 พันล้านดอลลาร์ 102.8 พันล้านบาท) แผ่นดินไหวทําให้อุตสาหกรรมและสิ่งอํานวยความสะดวกสาธารณะในภูมิภาคหยุดทำงาน[12]

ไฟดับ[แก้]

แผ่นดินไหวทำให้ไฟดับ 2.95 ล้านครัวเรือนในฮกไกโดไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากโรงงานไฟฟ้าพลังงานถ่านหินของบริษัทพลังงานไฟฟ้าฮอกไกโดในเมืองอัตสึมะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว ความเสียหายที่เกิดกับโรงงานทำให้เกิดความไม่สมดุลของไฟฟ้าทั่วฮกไกโดส่งผลให้ไฟดับ [13]เมื่อเวลา 18:30 น. ในวันที่เกิดแผ่นดินไหว ไฟฟ้าได้รับการซ่อมแซม 340,000 ครัวเรือนในฮกไกโด โรงพยาบาลหลายแห่งใช้ไฟฟ้าสำรองฉุกเฉินเนื่องจากไฟฟ้าดับ [14]

จำนวนครัวเรือนที่ไฟฟ้าได้รับการซ่อมแซม (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น)[15]
วันที่ เวลา ครัวเรือน % อ้างอิง
6 กันยายน 3:08 0 / 2,950,000 0%
16:00 329,000 12% [16]
7 กันยายน 3:00 964,000 33% [17]
9:00 1,455,000 49% [18]
12:00 1,513,000 51% [19]
8 กันยายน 4:00 2,928,000 99% [20]

การคมนาคม[แก้]

ทางด่วนฮิดากะถูกปิด
แผ่นดินไหวตามหลังแผ่นดินไหวหลักที่ฮกไกโด

เที่ยวบินทั้งหมดไปยังท่าอากาศยานชินชิโตเซะถูกยกเลิกในวันที่เกิดแผ่นดินไหว เอ็นเอชเคเวิลด์ประกาศว่าสนามบินกลับมาดําเนินงานอีกครั้งเมื่อเวลา 11:00 น. ในวันที่ 7 กันยายน หลังจากแผ่นดินไหว ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดรวมถึงบริการรถไฟรถไฟใต้ดินและรถบัสถูกปิดในฮกไกโดเนื่องจากไฟฟ้าดับและเกิดความเสียหาย [21][22]

แผ่นดินไหวทำให้ถนนหลายสายในฮกไกโดไม่สามารถใช้งานได้ ถนนหลายสายในฮอกไกโดถูกขวางกั้นจากเศษซากดินถล่มถนนบางสายเสียหายจากแผ่นดินเหลวในคิโยตะซึ่งอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว[23]

บริษัททางด่วนญี่ปุ่นตะวันออกรายงานว่าถนนดังนี้ได้ปิดให้บริการหลังจากแผ่นดินไหว ได้แก่[24]

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ[แก้]

ไฟดับส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการเกษตรและการประมงในฮกไกโด จังหวัดฮกไกโดผลิตนมดิบถึงครึ่งหนึ่งในญี่ปุ่น ไฟดับทำให้เครื่องทำความเย็นหรืออุปกรณ์รีดนมวัวไม่สามารถใช้งานได้ ผลผลิตอื่น ๆ เช่นหัวหอมและมันฝรั่งไม่สามารถเก็บความเย็นหรือส่งออกไปได้เนื่องจากรถไฟหยุดให้บริการ ทำให้เกิดความเสียหายมูลค่าประมาณ 13.6 พันล้านเยน[25]

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในฮกไกโดได้รับผลกระทบอย่างหนักที่เกิดจากความล่าช้าของระบบขนส่ง นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวตามอยู่เป็นระยะทําให้การท่องเที่ยวในพื้นที่ลดลง ผลกระทบทั้งหมดของแผ่นดินไหวคาดว่าจะทําให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเสียหายประมาณ 35.6 พันล้านเยน (ณ เดือนตุลาคม 2018)

ความรุนแรงของแผ่นดินไหว[แก้]

แผนที่ความเข้มของแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวเป็นครั้งแรกในฮกไกโดที่มีความรุนแรงระดับ 7 (มาตราความรุนแรงคลื่นไหวสะเทือนของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น) และเป็นครั้งที่ 6 ในญี่ปุ่นนับตั้งแต่การใช้งานระบบในปี 1949 [26][27]

พื้นที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงของคลื่นไหวแต่ 5 ขึ้นไป[28]
ความรุนแรง ชื่อเมืองและเทศบาล
7 อัตสึมะ
6+ อะบิระ, มูกาวะ
6- ท่าอากาศยานชินชิโตเซะ, ฮิดะกะ, บิราโทริ
5+ ซัปโปโร, โทมาโกไม, เอเบ็ตสึ, มิคาสะ, ชิโตเซะ, เอนิวะ , นากานุมะ, ชินฮิดากะ
5- ฮาโกดาเตะ, มูโรรัง, อิวามิซาวะ, โนโบริเบ็ตสึ, เดโต, คิตะฮิโรชิมะ, อิชิการิ, ชินชิโนสึ, นัมโปโร, ยูนิ, คุริยามะ, ชิราโออิ

ผลกระทบต่อมนุษย์[แก้]

มีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยัน 43 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 691 ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เสียชีวิตในอัตสึมะ 36 ราย ภูมิภาคนี้ถูกพายุพายุไต้ฝุ่นเชบี 1 วันก่อนเกิดแผ่นดินไหว ทําให้เกิดแผ่นดินถล่มเนื่องจากดินเปียกจากพายุ [29]

ความเสียหายจากแผ่นดินไหว
ผู้ได้รับผลกระทบ ความเสียหายต่ออาคาร
เสียชีวิต 43 ราย เสียหายรุนแรง 469 หลัง
บาดเจ็บ 782 คน บาดเจ็บสาหัส 48 คน เสียหายปานกลาง 1,660 หลัง
บาดเจ็บเล็กน้อย 734 คน เสียหายเล็กน้อย 13,849 หลัง

การตอบสนอง[แก้]

อดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะจัดการประชุมเพื่อตอบสนองต่อแผ่นดินไหว

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะได้ส่งกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นจำนวน 25,000 นาย ฮกไกโดเพื่อช่วยเหลือในการบรรเทาภัยพิบัติ เขายังประกาศว่าจะระงับการหาเสียงชั่วคราว อาเบะยังไปเยือนซัปโปโรและอัตสึมะหลังจากแผ่นดินไหวได้สามวัน [30]เขาได้พบกับผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นและผู้อยู่อาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังจากการเยือนของเขานายกรัฐมนตรีประกาศว่ารัฐบาลจะจัดสรรเงิน 540 ล้านเยนจากเงินสํารองเพื่อช่วยในการฟื้นตัวของฮกไกโด[31]นอกจากนี้ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นยกเลิกการแข่งขันนัดกระชับมิตรนัดที่ 7 กับฟุตบอลทีมชาติชิลีที่จะจัดขึ้นที่ซัปโปโรโดม[32] และสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะกับสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะได้เสด็จเยือนอัตสึมะเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนเพื่อติดต่อกับผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวและดินถล่มและยังสํารวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากดินถล่ม [33]

ดินถล่ม (สีน้ำตาล) สามารถเห็นได้ตลอดจากทางตอนเหนือของอัตสึมะ ที่ถ่ายหลังจากแผ่นดินไหว

อ้างอิง[แก้]

  1. "平成 30 年北海道胆振東部地震の評価" (PDF) (ภาษาญี่ปุ่น). Earthquake Research Promotion Headquarters Earthquake Investigation Committee. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  2. Yoshihiko Ito; Shusaku Yamazaki; Toshiyuki Kurahashi (2020). "Geological features of landslides caused by the 2018 Hokkaido Eastern Iburi Earthquake in Japan". Geological Society, London, Special Publications. 501: 171–183. doi:10.1144/SP501-2019-122.
  3. "Earthquake Information (Earthquake and Seismic Intensity Information) Issued at 21:26 JST 21 Feb 2019". Japan Meteorological Agency. 21 February 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 February 2019. สืบค้นเมื่อ 22 February 2019.
  4. 平成30年北海道胆振東部地震による被害及び消防機関等の対応状況(第31報) (PDF) (ภาษาญี่ปุ่น). Fire and Disaster Management Agency. 5 October 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 October 2018. สืบค้นเมื่อ 3 December 2018.
  5. ""M 6.6 – 27km E of Tomakomai, Japan"". United States Geological Survey. สืบค้นเมื่อ 15 February 2022.
  6. "แผ่นดินไหวและสึนามิ: การสังเกตการณ์และการบรรเทาภัยพิบัติ" (PDF). สํานักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น http://www.jma.go.jp/jma/kishou/books/jishintsunami/en/jishintsunami_en.pdf. สืบค้นเมื่อ 15 February 2022. {{cite web}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  7. "The Earthquake off Urakawa (M 7.1), March 21, 1982" (PDF). Hokkaido University. สืบค้นเมื่อ 15 February 2022.
  8. ""Slippery volcanic soils blamed for deadly landslides during Hokkaido earthquake"". Normile, Dennis (11 September 2018). สืบค้นเมื่อ 15 February 2022.
  9. ""Earthquake Information (Earthquake and Seismic Intensity Information) Issued at 21:26 JST 21 Feb 2019"". Japan Meteorological Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-22. สืบค้นเมื่อ 15 February 2022.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  10. ""ไม่มีรายงานความเสียหายที่สําคัญหลังจากแผ่นดินไหวขนาด 5.8 กระทบภูมิภาคอิบุรีของฮอกไกโด"". . The Japan Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-22. สืบค้นเมื่อ 15 February 2022.
  11. ""Earthquake Information (Earthquake and Seismic Intensity Information) Issued at 21:26 JST 21 Feb 2019"". Japan Meteorological Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-22. สืบค้นเมื่อ 15 February 2022.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  12. ""ความเสียหายจากแผ่นดินไหวฮอกไกโดที่ร้ายแรงประมาณ 367.5 พันล้านเยน"". ไมนิจิ ชิมบุน. สืบค้นเมื่อ 16 February 2022.
  13. ""Quake paralyzes public transport in Hokkaido"". NHK World-Japan. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-07. สืบค้นเมื่อ 16 February 2022.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  14. ""Quake paralyzes public transport in Hokkaido"". . NHK World-Japan. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-06. สืบค้นเมื่อ 2022-02-16.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  15. "設備および停電等の状況について". Hokkaido Electric Power Company.
  16. "記者会見発言要旨(9月6日16時現在" (PDF). Hokkaido Electric Power Company. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 8 September 2018. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  17. "設備および停電等の状況について(9月7日3時現在)" (PDF). Hokkaido Electric Power Company. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 8 September 2018. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  18. "設備および停電等の状況について(9月7日9時現在)" (PDF). Hokkaido Electric Power Company. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 7 September 2018. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  19. "設備および停電等の状況について(9月7日12時現在)" (PDF). Hokkaido Electric Power Company. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 8 September 2018. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  20. "設備および停電等の状況について". Hokkaido Electric Power Company. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 September 2018.
  21. ""ライフラインの状況(9月6日18:30時点)"". Prime Minister's Official Residence (Japan).
  22. ""Breaking News at 11:00"". NHK World-Japan. สืบค้นเมื่อ 16 February 2022.
  23. "住宅倒壊などの情報 北海道 厚真町". NHK. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 September 2018. สืบค้นเมื่อ 6 September 2018.
  24. "北海道管内で地震による通行止めを実施しています" [We are carrying out a road closure due to an earthquake within Hokkaido]. East Nippon Expressway Company. 6 September 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 September 2018. สืบค้นเมื่อ 3 December 2018.
  25. "Farmers, fishers struggling after Hokkaido quake". NHK World-Japan (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 September 2018. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  26. "最大震度7を記録した地震の一覧". www.weblio.jp. สืบค้นเมื่อ 20 February 2022.
  27. "厚真町は震度7 北海道内で史上初の観測 気象庁". Asahi Shimbun (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-06. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  28. 北海道胆振地方中東部を震源とする地震について (ภาษาญี่ปุ่น). 日本首相官邸. 6 September 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 September 2018. สืบค้นเมื่อ 6 September 2018.
  29. Staff, Our Foreign (6 September 2018). "Hokkaido earthquake: Eight dead as landslides and power outages hit northern Japan". The Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ 6 September 2018.
  30. "คาโอริ คาเนโกะ, ชางรัน คิม "แผ่นดินไหวอันทรงพลังทําให้ฮอกไกโดเป็นอัมพาตในภัยพิบัติล่าสุดที่จะถล่ม". สืบค้นเมื่อ 16 February 2022.
  31. Kaori Kaneko, Chang-Ran Kim. "Powerful quake paralyses Hokkaido in latest disaster to hit Japan". Reuters. สืบค้นเมื่อ 6 September 2018.
  32. "Japan vs. Chile cancelled after earthquake hits Sapporo". ESPN. 6 September 2018. สืบค้นเมื่อ 6 September 2018.
  33. "天皇皇后両陛下 北海道地震の被災者をお見舞い 厚真町" [The Emperor and Empress visit the victims of the Hokkaido Earthquake in Atsuma]. NHK. 15 November 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 November 2018. สืบค้นเมื่อ 9 December 2018.