แนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรป
แนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรป (อังกฤษ: Euroscepticism) คือจุดยืนทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการวิพากษ์วิจารณ์สหภาพยุโรปและการรวมตัวของยุโรป แบ่งระดับได้เป็นกลุ่มที่คัดค้านสถาบันและนโยบายบางอย่างของสหภาพยุโรป และต้องการให้เกิดการปฏิรูป ซึ่งเรียกว่าแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปแบบอ่อน (soft Euroscepticism) กับอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่คัดค้านการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป และมองว่าสหภาพยุโรปไม่สามารถปฏิรูปได้ ซึ่งเรียกว่าแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปแบบแข็ง (hard Euroscepticism)[1][2][3] ส่วนจุดยืนที่ตรงกันข้ามกับแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปคือ แนวคิดสนับสนุนสหภาพยุโรป (pro-Europeanism)
ปัจจัยขับเคลื่อนหลักของแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปมาจากความเชื่อที่ว่าการรวมตัวของยุโรปเป็นการบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยและรัฐชาติ[4][5] และความเชื่อที่ว่าสหภาพยุโรปเป็นองค์กรที่มีแนวคิดอติชนนิยมและขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตยและความโปร่งใส[4][5] มีลักษณะเป็นอำมาตยาธิปไตยมากเกินไปและสิ้นเปลือง[4][6][7] ส่งเสริมให้เกิดการย้ายถิ่นในระดับสูง[4] หรือเกิดจากการรับรู้ว่าสหภาพยุโรปเป็นองค์กรแบบเสรีนิยมใหม่ที่รับใช้กลุ่มชนชั้นนำทางธุรกิจขนาดใหญ่ โดยแลกกับการเบียดเบียนชนชั้นแรงงาน[8] และเป็นผู้รับผิดชอบต่อมาตรการรัดเข็มขัด[4]และผลักดันให้เกิดการโอนกิจการของรัฐเป็นของเอกชน[9]
แนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปพบได้ในกลุ่มการเมืองทั่วทั้งสเปกตรัมการเมืองทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา และมักจะพบในพรรคการเมืองแบบประชานิยม[10][4] แม้ว่ากลุ่มเหล่านี้จะวิพากษ์วิจารณ์สหภาพยุโรปด้วยเหตุผลที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีจุดเน้นที่แตกต่างกันไปคือ ประชานิยมฝ่ายซ้ายที่มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางเศรษฐกิจมากกว่า เช่น วิกฤติหนี้สาธารณะยุโรป และข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าและการลงทุนข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก[9][11][12][13] ส่วนประชานิยมฝ่ายขวาที่เป็นมีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปจะมุ่งเน้นไปที่ชาตินิยมและการย้ายถิ่นมากกว่า เช่น วิกฤตการณ์ผู้ย้ายถิ่นยุโรป ค.ศ. 2015[14] การเติบโตขึ้นของพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ขวาจัดสุดโต่งตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 2000 มีความเชื่อมโยงอย่างมากกับการเพิ่มขึ้นของแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรป[15]
ผลการสำรวจยูโรบารอมิเตอร์ซึ่งสำรวจพลเมืองสหภาพยุโรปแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นในสหภาพยุโรปและสถาบันของสหภาพยุโรปลดลงอย่างรุนแรงตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 ถึง 2015[16] และอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50% อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาดังกล่าว[17] การสำรวจในปี ค.ศ. 2009 แสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่ำที่สุดในสหราชอาณาจักร ลัตเวีย และฮังการี[18] พอถึงปี ค.ศ. 2016 ประเทศที่มองสหภาพยุโรปในแง่ลบมากที่สุดคือ สหราชอาณาจักร กรีซ ฝรั่งเศส และสเปน[19] ส่งผลให้การลงประชามติว่าด้วยสมาชิกภาพสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ค.ศ. 2016 มีผู้ลงคะแนน 51.9% สนับสนุนการออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิต) ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2020
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 เป็นต้นมา ความเชื่อมั่นในสหภาพยุโรปได้เพิ่มขึ้นในประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการว่างงานที่ลดลง และการสิ้นสุดของวิกฤตผู้ย้ายถิ่น[20] การสำรวจยูโรบารอมิเตอร์หลังการเลือกตั้ง ค.ศ. 2019 แสดงให้เห็นว่า 68% ของพลเมืองสนับสนุนสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ค.ศ. 1983 อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่ว่าสิ่งต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปไม่ได้ดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้องก็เพิ่มขึ้นเป็น 50%[21] ความเชื่อมั่นในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเริ่มต้นของการระบาดทั่วของโควิด-19 โดยมีระดับที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศสมาชิก[22][23]
ในช่วงเดือนมีนาคม ค.ศ. 2025 การสนับสนุนสหภาพยุโรปพุ่งสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในหมู่พลเมืองของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป[24] ผลสำรวจยูโรบารอมิเตอร์ที่ดำเนินการในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์พบว่า 74% ของพลเมืองสหภาพยุโรปเชื่อว่าการเป็นสมาชิกกลุ่มของประเทศตนเองเป็นประโยชน์ ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการเริ่มสำรวจคำถามนี้ในปี ค.ศ. 1983[25] การลดลงของแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปมีสาเหตุมาจากความกังวลด้านความมั่นคงที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งรวมถึงการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียที่ยังคงดำเนินต่อไป รวมทั้งความตึงเครียดข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกที่เกิดขึ้นใหม่ ภายใต้การนำของดอนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเนโทและสหภาพยุโรป[24][26]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Marine Le Pen's Real Victory". The Atlantic, 7 May 2017.
- ↑ Erkanor Saka (2009). Mediating the EU: Deciphering the Transformation of Turkish Elites (PhD Thesis). p. 202. ISBN 978-1109216639. สืบค้นเมื่อ 9 March 2016.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Matthew (26 October 2011). "Why anti-EUism is not left-wing". Workers' Liberty. Alliance for Workers' Liberty. สืบค้นเมื่อ 31 January 2016.
- 1 2 3 4 5 6 Bertoncini & Koenig (2014), pp. 4–6.
- 1 2 Alibert (2015).
- ↑ Kopel, David, Silencing opposition in the EU, Davekopel.org, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 December 2016, สืบค้นเมื่อ 18 February 2015
- ↑ Hannan, Daniel (14 November 2007). "Why aren't we shocked by a corrupt EU?". The Daily Telegraph. London. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 January 2022. สืบค้นเมื่อ 2 May 2010.(Op-Ed
- ↑ FitzGibbon, Leruth & Startin (2016), p. 133.
- 1 2 Jones, Owen (14 July 2015). "The left must put Britain's EU withdrawal on the agenda". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. (Op-Ed)
- ↑ Fortunato, Piergiuseppe; Pecoraro, Marco (2022). "Social media, education, and the rise of populist Euroscepticism". Humanities and Social Sciences Communications. 9 (1): 301. doi:10.1057/s41599-022-01317-y. PMC 9428866. PMID 36065426.
- ↑ Carden, Edward (2 November 2015). "Party like it's 1975: how the Left got Eurosceptic all over again". New Statesman.
- ↑ FitzGibbon, Leruth & Startin (2016), p. 105.
- ↑ Pirro, Andrea LP; Taggart, Paul; Kessel, Stijn van (4 July 2018). "The populist politics of Euroscepticism in times of crisis: Comparative conclusions" (PDF). Politics (ภาษาอังกฤษ). 38 (3): 378–390. doi:10.1177/0263395718784704. S2CID 149472625.
- ↑ Hobolt, Sara. "The Crisis of Legitimacy of European Institutions", in Europe's Crises. John Wiley & Sons, 2018. p.256
- ↑ Han Werts, Marcel Lubbers, and Peer Scheepers (2013) Euro-scepticism and radical right-wing voting in Europe, 2002–2008: Social cleavages, socio-political attitudes and contextual characteristics determining voting for the radical right เก็บถาวร 5 กุมภาพันธ์ 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, European Union Politics, vol. 14 no. 2: 183–205.
- ↑ European Commission. Directorate General for Communication; TNS Opinion & Social (2016). Standard Eurobarometer 84 Autumn 2015 Report: Public opinion in the European Union, Language version EN. European Union. pp. 104–113. doi:10.2775/89997. ISBN 978-9279577819. Catalogue No. NA-04-16-323-EN-N. สืบค้นเมื่อ 26 October 2016.
- ↑ Spring 2015 Standard Eurobarometer: Citizens see immigration as top challenge for EU to tackle. European Commission. 31 July 2015.
- ↑ "Standard Eurobarometer 71 (fieldwork June–July 2009)" (PDF). European Commission. September 2009. pp. 91–3. สืบค้นเมื่อ 26 November 2009.
- ↑ Wright, Oliver (7 June 2016), "Euroscepticism on the rise across Europe as analysis finds increasing opposition to the EU in France, Germany and Spain", The Independent, สืบค้นเมื่อ 1 August 2016
- ↑ "European spring – Trust in the EU and democracy is recovering". Bruegel.org. 4 May 2023.
- ↑ "Closer to the Citizens, Closer to the Ballot". Closer to the Citizens, Closer to the Ballot. สืบค้นเมื่อ 15 August 2019.
- ↑ "Living, working and COVID-19 data". Eurofound (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 February 2022. สืบค้นเมื่อ 27 February 2022.
- ↑ "Trust has increased in EU but dropped in national governments: Survey". Politico (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 28 September 2020. สืบค้นเมื่อ 27 February 2022.
- 1 2 "EU basks in all-time high citizen approval rate amid tense geopolitics". euronews (ภาษาอังกฤษ). 2025-03-26. สืบค้นเมื่อ 2025-04-05.
- ↑ "Eurobarometer". europa.eu. สืบค้นเมื่อ 2025-04-05.
- ↑ Strupczewski, Jan (March 25, 2025). "EU approval among its citizens hits record high as security fears grow, poll shows". Reuters.