ข้ามไปเนื้อหา

เฮ่งเสียง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เฮ่งเสียง (หวาง เสียง)
王祥
เฮ่งเสียงนอนแนบกับสระน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งเพื่อใช้อุณหภูมิร่างกายละลายน้ำแข็งแล้วจึงจับปลา ปรากฏในภาพอูกิโยะโดยอูตางาวะ คูนิโยชิ
มหาองครักษ์ (太保 ไท่เป่า)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 266 (266)  ค.ศ. 268 (268)
กษัตริย์สุมาเอี๋ยน
ขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ซื่อจง)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 264 (264)  ค.ศ. 266 (266)
กษัตริย์โจฮวน
เสนาบดีกลาโหม (太尉 ไท่เว่ย์)
ดำรงตำแหน่ง
30 เมษายน ค.ศ. 264 (264)  ค.ศ. 266 (266)
กษัตริย์โจฮวน
ก่อนหน้าเตงงาย
เสนาบดีโยธาธิการ (司空 ซือคง)
ดำรงตำแหน่ง
2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 261 (261)  30 เมษายน ค.ศ. 264 (264)
กษัตริย์โจฮวน
ก่อนหน้าอองก๋วน
ถัดไปสฺวิน อี่
เสนาบดีพิธีการ (太常 ไท่ฉาง)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 255 (255)  2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 261 (261)
กษัตริย์โจมอ / โจฮวน
นายกองพันผู้กำกับการมณฑลนครหลวง
(司隸校尉 ซือลี่เซี่ยวเว่ย์)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 254 (254)  ค.ศ. 255 (255)
กษัตริย์โจมอ
เสนาบดีกรมวัง (光祿勳 กวางลู่ซฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 254 (254)  ค.ศ. 255 (255)
กษัตริย์โจมอ
เสนาบดีพระคลัง (大司農 ต้าซือหนาง)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?)  ค.ศ. ? (?)
นายอำเภอเวิน (溫令 เวินลิ่ง)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?)  ค.ศ. ? (?)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดค.ศ. 184
นครหลินอี๋ มณฑลชานตง
เสียชีวิต30 เมษายน ค.ศ. 268 (84 ปี)
บุตร
  • หวาง เจ้า
  • หวาง เซี่ย
  • หวาง ฟู่
  • หวาง เลี่ย
  • หวาง เฟิน
บุพการี
  • หวาง หรง (บิดา)
  • เซฺวชื่อ (มารดา)
ญาติ
  • จูสี (มารดาบุญธรรม)
  • หวาง รุ่ย (ลุง)
  • หวาง หล่าน (น้องชายต่างมารดา)
อาชีพขุนนาง
ชื่อรองซิวเจิง (休徵)
สมัญญานามยฺเหวียนกง (元公)
บรรดาศักดิ์ซุยหลิงกง (睢陵公)

เฮ่งเสียง[1] (ค.ศ. 184[a] – 30 เมษายน ค.ศ. 268[b]) มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า หวาง เสียง (จีน: 王祥; พินอิน: Wáng Xiáng) ชื่อรอง ซิวเจิง (จีน: 休徵; พินอิน: Xiūzhēng) เป็นขุนนางชาวจีนในช่วงปลายยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ค.ศ. 25–220), ยุคสามก๊ก (ค.ศ. 220–280) และต้นยุคราชวงศ์จิ้นตะวันตก (ค.ศ. 266–316) ของจีน เฮ่งเสียงรับราชการในตำแหน่งขุนนางระดับสูงสุดของราชสำนัก ได้แก่ตำแหน่งเสนาบดีโยธาธิการ (司空 ซือคง) และเสนาบดีกลาโหม (太尉 ไท่เว่ย์) ในรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊กของจีน และตำแหน่งมหาองครักษ์ (太保 ไท่เป่า) ในยุคราชวงศ์จิ้นตะวันตก เฮ่งเสียงยังเป็นหนึ่งในยี่จับสี่เห่าหรือยี่สิบสี่ยอดกตัญญู

ภูมิหลังครอบครัว

[แก้]

บรรพบุรษของเฮ่งเสียงคือหวาง จี๋ (王吉) ผู้รับราชการเป็นขุนนางเสนอและทัดทาน (諫議大夫 เจี้ยนอี้ต้าฟู) ในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตก[2] ปู่ของเฮ่งเสียงคือหวาง เหริน (王仁) รับราชการเป็นข้าหลวงมณฑล (刺史 ชื่อฉื่อ) ของมณฑลเฉงจิ๋วในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก[3] ลุงของเฮ่งเสียงคือหวาง รุ่ย (王叡; เสียชีวิต ค.ศ. 189) รับราชการเป็นข้าหลวงมณฑลของมณฑลเกงจิ๋วและถูกขุนศึกซุนเกี๋ยนสังหาร

หวาง หรง (王融) บิดาของเฮ่งเสียงปฏิเสธที่จะรับราชการในราชสำนักและใช้ชีวิตเป็นสามัญชนตลอดชีวิต[4] มารดาของเฮ่งเสียงคือเซฺวชื่อ (薛氏) เป็นชาวอำเภอเกาผิง (高平縣 เกาผิงเซี่ยน; อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอเวย์ชาน มณฑลชานตงในปัจจุบัน) สันนิษฐานว่าเซฺวชื่ออาจจะเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร เนื่องจากหวาง หรงมีภรรยาคนที่สองคือจูสี[5] (朱氏 จูชื่อ) ซึ่งให้กำเนิดบุตรชายอีกคนคือหวาง หล่าน (王覽)

ประวัติช่วงต้น

[แก้]

เฮ่งเสียงเกิดในยุคสมัยแห่งความโกลาหลในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เมื่อขุนศึกต่าง ๆ กำลังรบกันเพื่อแย่งชิงอำนาจทั่วทั้งจักรวรรดิฮั่น ในช่วงเวลานั้น สมาชิกในครอบครัวของเฮ่งเสียงที่หลงเหลืออยู่มีเพียงจูสีผู้เป็นมารดาบุญธรรมและหวาง หล่านผู้เป็นน้องชายต่างมารดา ทั้งสามอพยพจากบ้านเกิดในเมืองลองเอี๋ย (琅邪郡 หลางหยาจฺวิ้น; อยู่บริเวณนครหลินอี๋ มณฑลชานตงในปัจจุบัน) และมุ่งลงใต้ไปยังเมืองโลกั๋ง (廬江郡 หลูเจียงจฺวิ้น; อยู่บริเวณนครลู่อาน มณฑลอานฮุยในปัจจุบัน) ทั้งสามใช้ชีวิตในเมืองโลกั๋งอย่างสันโดษเป็นเวลามากกวา 20 ปี ในช่วงเวลานั้น เฮ่งเสียงได้รับคำเชิญให้รับราชการในที่ว่าการเมืองท้องถิ่นแต่เฮงเสียงปฏิเสธ

รับราชการในวุยก๊ก

[แก้]

ในยุคสามก๊ก ลิยอย[c] (呂虔 ลฺหวี่ เฉียน) ขุนนางของรัฐวุยก๊กผู้ดำรงตำแหน่งข้าหลวงมณฑลของมณฑลชีจิ๋ว[d] (徐州 สฺวีโจว) ต้องการรับเฮ่งเสียงมารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ช่วย[e] (別駕 เปี๋ยเจี้ย) ของตน ตอนแรกเฮ่งเสียงปฏิเสธ แต่ก็เปลี่ยนใจหลังหวาง หล่านน้องชายโน้มน้ามให้เฮ่งเสียงรับตำแหน่ง ลิยอยมอบหมายให้เฮ่งเสียงดูแลราชการพลเรือนและครัวเรือนในมณฑลชีจิ๋ว ในช่วงเวลาที่เฮ่งเสียงดำรงตำหน่ง เฮ่งเสียงได้ดำเนินนโยบายการศึกษาและส่งทหารไปจัดการกับกลุ่มโจรในภูมิภาค นโยบายที่ประสบความสำเร็จของเฮ่งเสียงทำให้เฮ่งเสียงได้รับการเคารพนับถือจากผู้คนในมณฑลชีจิ๋ว

จากความสำเร็จของเฮ่งเสียง เฮ่งเสียงจึงได้รับการเสนอชื่อเป็นเม่าไฉ (茂才; ผู้สมัครรับราชการพลเรือยนที่ความโดดเด่น) และได้รับการแต่งตั้งเป็นนายอำเภอ ( ลิ่ง) ของอำเภอเวิน (溫縣; ทางตะวันออกของนครเมิ่งโจว มณฑลเหอหนานในปัจจุบัน) ต่อมาเฮ่งเสียงได้เลื่อนขึ้นมามีตำแหน่งเป็นเสนาบดีพระคลัง (大司農 ต้าซือหนง) ในราชสำนัก

ในปี ค.ศ. 254 เฮ่งเสียงสนับสนุนผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สุมาสูในการปลดโจฮองจักรพรรดิลำดับที่ 3 ของวุยก๊ก และตั้งโจมอขึ้นเป็นจักรพรรดิแทน สุมาสูมอบบำเหน็จตอบแทนการสนับสนุนของเฮ่งเสียงโดยการตั้งให้เฮ่งเสียงมีบรรดาศักดิ์เป็นกวนไล่เหา (關內侯 กวานเน่ย์โหว) และตั้งให้มีตำแหน่งเป็นนายกองพันผู้กำกับการมณฑลนครหลวง (司隸校尉 ซือลี่เซี่ยวเว่ย์)

ในปี ค.ศ. 255 เมื่อขุนพลบู๊ขิวเขียมและบุนขิมเริ่มก่อกบฏในฉิวฉุน (壽春 โช่วชุน; ปัจจุบันคืออำเภอโช่ว มณฑลอานฮุย) เฮ่งเสียงติดตามสุมาสูที่นำทัพหลวงไปปราบกบฏ หลังกบฏถูกปราบปราม สุมาสูแต่งตั้งให้เฮ่งเสียงเป็นเสนาบดีพิธีการ (太常 ไท่ฉาง) และเลื่อนบรรดาศักดิ์จากกวนไล่เหาเป็นเฮา (侯 โหว) ระดับหมู่บ้านในชื่อบรรดาศักดิ์ว่า "ว่านซุ่ยถิงโหว" (萬歲亭侯) เฮ่งเสียงในฐานะเสนาบดีพิธีการทำหน้าที่เป็นพระอาจารย์ให้กับโจมอจักรพรรดิผู้เยาว์และถวายการสอนวิถีแห่งผู้ปกครองแก่พระองค์

ในปี ค.ศ. 260 โจมอทรงไม่ต้องการเป็นจักรพรรดิหุ่นเชิดอีกต่อไป จึงทรงพยายามก่อก่อรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจคืนจากผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สุมาเจียว[f] (น้องชายของสุมาสู) แต่โจมอกลับถูกปลงพระชนม์โดยเซงเจ (成濟 เฉิง จี้) นายทหารใต้บังคับบัญชาของกาอุ้นผู้ช่วยคนสนิทของสุมาเจียว ระหว่างพระราชพิธีพระศพของโจมอ เฮ่งเสียงในวัย 75 ปีร้องไห้ด้วยความขมขื่นและพูดว่า "ข้าผู้เป็นเสนาบดีชราช่างไร้ค่านัก!" คำพูดของเฮ่งเสียงทำให้ข้าราชการบางคนที่เข้าร่วมในพระราชพิธีพระศพของโจมอรู้สึกละอายใจ

ในปี ค.ศ. 261 ในรัชสมัยของโจฮวน[g]จักรพรรดิลำดับที่ 5 ของวุยก๊ก เฮ่งเสียงได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นเสนาบดีโยธาธิการ (司空 ซือคง)

ในปี ค.ศ. 264 เฮ่งเสียงได้รับการแต่งตั้งเป็นเสนาบดีกลาโหม[h] (太尉 ไท่เว่ย์) และได้รับตำแหน่งเพิ่มเติมเป็นขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง) ในปีเดียวกันนั้น สุมาเจียวฟื้นฟูระบบบรรดาศักดิ์ห้าขั้นซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกยกเลิกไป และตั้งให้เฮ่งเสียงเป็นซุยหลิงโหว (睢陵侯) มีศักดินา 1,600 ครัวเรือน

รับราชการกับราชวงศ์จิ้น

[แก้]

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 266 (หลังการเสียชีวิตของสุมาเจียวในเดือนกันยายน ค.ศ. 265) สุมาเอี๋ยน[i]บุตรชายของสุมาเจียวชิงราชบัลลังก์จากโจฮวน เป็นการสิ้นสุดของรัฐวุยก๊กและเป็นการก่อตั้งของราชวงศ์จิ้นโดยสุมาเอี๋ยนเป็นจักรพรรดิ หลังการขึ้นครองราชย์ จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนทรงแต่งตั้งให้เฮ่งเสียงเป็นมหาองครักษ์[j] (太保 ไท่เป่า) และเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นซุยหลิงกง (睢陵公)

ในช่วงเวลานั้น เฮ่งเสียง, โฮเจ้ง (何曾 เหอ เจิง), เจิ้ง ชง (鄭沖) และอดีตขุนนางของวุยก๊กบางคนก็ถึงวัยชราแล้ว จึงไม่สะดวกที่จะไปเข้าร่วมการประชุมในราชสำนักเป็นประจำได้อีก จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนจึงส่งเริ่น ข่าย (任愷) ซึ่งเวลานั้นเป็นขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง) ให้ไปเยี่ยมเยียนพวกเขาและขอคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนโยบาย

ในช่วงเวลานั้นเฮ่งเสียงมีอายุในช่วงแปดสิบปีแล้ว ได้ทูลขอพระราชานุญาตจากจักรพรรดิสุมาเอี๋ยนหลายครั้งเพื่อขอลาออกจากราชการ แต่จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนทรงปฏิเสธ โหว ฉื่อกวาง (侯史光) ผู้ช่วยขุนนางตรวจสอบ (御史中丞 ยฺหวี่ฉื่อจงเฉิง) เคยทูลเสนอให้ปลดเฮ่งเสียงจากราชการเพราะเฮ่งเสียงขาดการเข้าประชุมในราชสำนักเป็นเวลานานจากปัญหาสุขภาพ แต่จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนทรงเคารพและโปรดปรานเฮ่งเสียง จึงทรงมีรับสั่งถึงกรมตรวจสอบของราชสำนัก (御史台 ยฺวี่ฉื่อไถ; รับผิดชอบในการติดตามผลการปฏิบัติงานของข้าราชการในสำนัก) ให้ละเว้นการตรวจสอบเฮ่งเสียง พระองค์ยังทรงอนุญาตให้เฮ่งเสียงยังอยู่ในตำแหน่งและรับเบี้ยหวัดต่อไป แม้ว่าเฮ่งเสียงจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน

เฮ่งเสียงเสียชีวิตในเดือนเมษายน ค.ศ. 268 ขณะอายุ 85 ปี (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก) และได้รับสมัญญานามว่า "ยฺเหวียนกง" (元公) ด้วยเหตุนี้เฮ่งเสียงจึงมีสมัญญานามเต็มว่า "ซุยหลิง-ยฺเหวียนกง" (睢陵元公)

ครอบครัว

[แก้]

หวาง หล่าน (王覽) น้องชายต่างมารดาของเฮ่งเสียง รับราชการเป็นที่ปรึกษาผู้ใหญ่ราชสำนัก (光祿大夫 กวางลู่ต้าฟู) ของราชวงศ์จิ้น หวาง หล่านยังเป็นบรรพบุรุษรุ่นที่ 4 ของหวาง ซีจือ (王羲之) นักอักษรวิจิตรที่มีชื่อเสียง

ผู้สืบเชื้อสายของเฮ่งเสียงบางคนที่เป็นที่รู้จัก มีดังต่อไปนี้:

  • หวาง เจ้า (王肇) บุตรชายคนแรกของเฮ่งเสียงที่เกิดกับอนุภรรยา รับราชการเป็นนายกองร้อยทหารม้า (騎都尉 ฉีตูเว่ย์), ขุนนางกรมวัง (給事中 จี่ชื่อจง) และเจ้าเมืองฉื่อผิง (始平太守 ฉื่อผิงไท่โฉ่ว) ในยุคราชวงศ์จิ้น
    • หวาง จฺวิ้น (王俊) บุตรชายของหวาง เจ้า รับราชการเป็นผู้ช่วยรัชทายาท ภายหลังได้รับบรรดาศักดิ์เป็นหย่งชื่อโหว (永世侯)
      • หวาง เสีย (王遐) บุตรชายของหวาง จฺวิ้น รับราชการเป็นเจ้าเมืองยฺวี่หลิน (鬱林太守 ยฺวี่หลินไท่โฉ่ว)
  • หวาง เซี่ย (王夏) บุตรชายคนแรกของเฮ่งเสียงที่เกิดกับภรรยาหลวง เสียชีวิตก่อนวัยอันควร
  • หวาง ฟู่ (王馥) บุตรชายคนที่ 2 ของเฮ่งเสียงที่เกิดกับภรรยาหลวง สืบทอดบรรดาศักดิ์ซุยหลิงกงของบิดา รับราชการเป็นเจ้าเมืองซ่างลั่ว (上洛太守 ซ่างลั่วไท่โฉ่ว)
    • หวาง เกิน (王根) บุตรชายของหวาง ฟู่ สืบทอดบรรดาศักดิ์ซุยหลิงกงของบิดา
  • หวาง เลี่ย (王烈) บุตรชายของเฮ่งเสียงที่เกิดกับอนุภรรยา เสียชีวิตก่อนวัยอันควร
  • หวาง เฟิน (王芬) บุตรชายของเฮ่งเสียงที่เกิดกับอนุภรรยา เสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกับหวาง เลี่ย

ดูเพิ่ม

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. บทชีวประวัติของเฮ่งเสียงในจิ้นชูระบุว่าเฮ่งเสียงมีอายุ 85 ปี (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก) ในช่วงที่ป่วยหนักก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาไม่นาน เมื่อคำนวณแล้วปีเกิดของเฮ่งเสียงควรเป็น ค.ศ. 184
  2. วันอู้ซฺวี (戊戌) ของเดือน 4 ในศักราชไท่ฉื่อ (泰始) ปีที่ 4 ตามที่ระบุในบทพระราชประวัติสุมาเอี๋ยนในจิ้นชู บทชีวประวัติของเฮ่งเสียงในจิ้นชูระบุว่าเฮ่งเสียงเสียชีวิตในศักราชไท่ฉื่อปีที่ 5 แต่ก็ระบุด้วยว่าจักรพรรดินีพันปีหลวงหวาง ยฺเหวียนจีสิ้นพระชนม์ก่อนเฮ่งเสียงไม่นาน เนื่องจากหวาง ยฺเหวียนจีสิ้นพระชนม์ในเดือนเมษายน ค.ศ. 268 วันที่เฮ่งเสียงเสียชีวิตก็ควรเป็นปี ค.ศ. 268 เช่นกัน
  3. "ลื่อเคียน" ในยี่จับสี่เห่า[6]
  4. "ชื่อจิว" ในยี่จับสี่เห่า[6]
  5. "เบียดเก่" ในยี่จับสี่เห่า[6]
  6. "ซือม้าเจียว" ในยี่จับสี่เห่า[7]
  7. "โจ๊ฮวน" ในยี่จับสี่เห่า[7]
  8. "ไทอ่วย" ในยี่จับสี่เห่า[7]
  9. "ซือม้าเอียม" ในยี่จับสี่เห่า[8]
  10. "ไทเป่า" ในยี่จับสี่เห่า[9]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "ยี่จับสี่เห่า ๑๘. เฮ่งเสียง". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ October 18, 2024.
  2. (王祥,字休徵,琅邪臨沂人,漢諫議大夫吉之後也。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  3. (祖仁,青州刺史。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  4. (父融,公府辟不就。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  5. ("​ครั้งสามก๊กตอนปลาย ที่เมืองลิ่มขี มีชายคนหนึ่งชื่อเฮ่งเสียง กำพร้ามารดามาตั้งแต่เยาว์ มีมารดาเลี้ยงชื่อนางจูสี นางจูสีเป็นคนริศยาเฮ่งเสียงผู้เปนบุตรเลี้ยง หาเหตุให้บิดาเกลียดชังเฮ่งเสียงเนือง ๆ") "ยี่จับสี่เห่า ๑๘. เฮ่งเสียง". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ November 13, 2024.
  6. 1 2 3 ("สมัยนั้นลื่อเคียน เป็นเจ้าเมืองชื่อจิว ทราบว่าเฮ่งเสียงเป็นคนมีความกตัญญูกตเวทีมั่นคง และมีสติปัญญาสามารถพอจะช่วยราชการให้ดำเนินไปเป็นผลดีเรียบร้อยได้ จึงแต่งคนให้เชิญสิ่งของมาให้แก่เฮ่งเสียง และวิงวอนขอให้ไปช่วย​ทำนุบำรุงบ้านเมือง เฮ่งเสียงยอมรับตามคำขอ จึงลามารดาไปทำราชการอยู่ด้วยลื่อเคียน ๆ ตั้งเฮ่งเสียงเป็นเบียดเก่ ตำแหน่งที่ปรึกษาการเมือง") "ยี่จับสี่เห่า ๑๘. เฮ่งเสียง". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ November 13, 2024.
  7. 1 2 3 ("ครั้นงุ่ยเฮียงกงโจ๊ฮวนได้ครองราชสมบัติณเมืองงุ่ย ซือม้าเจียวให้เฮ่งเสียงไปรับราชการที่เมืองหลวงแล้วตั้งเฮ่งเสียงให้เป็นไทอ่วย ตำแหน่งขุนนางเใหญ่") "ยี่จับสี่เห่า ๑๘. เฮ่งเสียง". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ November 13, 2024.
  8. ("เมื่อซือม้าเอียมเป็นจินอ๋องแล้ว ซุ่นค้ายชักชวนเฮ่งเสียงไปเฝ้า") "ยี่จับสี่เห่า ๑๘. เฮ่งเสียง". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ November 13, 2024.
  9. ("ต่อมาไม่นานจินอ๋องได้ปราบดาภิเศกเป็นพระเจ้าจีนบูฮ่องเต้ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จิ้น ณ ปีระกา พุทธศักราช ๘๐๘ ทรงเลื่อนเฮ่งเสียงซึ่งเป็นตำแหน่งไทอ่วยให้เป็นตำแหน่งไทเป่า") "ยี่จับสี่เห่า ๑๘. เฮ่งเสียง". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ November 13, 2024.

บรรณานุกรม

[แก้]