ข้ามไปเนื้อหา

เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2023

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2023
แมตช์นี้จะจัดขึ้นที่ สนามกีฬาเวมบลีย์
รายการเอฟเอคัพ ฤดูกาล 2022–23
วันที่3 มิถุนายน ค.ศ. 2023 (2023-06-03)
สนามสนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน
ผู้เล่นยอดเยี่ยม
ประจำนัด
อิลไค กึนโดอัน (แมนเชสเตอร์ซิตี)
ผู้ตัดสินพอล เทียร์นีย์ (แลงคาเชอร์)[1]
ผู้ชม83,179 คน
สภาพอากาศมีเมฆเป็นบางส่วน
2022
2024

เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ปี 2023 เป็นรอบชิงชนะเลิศของเอฟเอคัพ ฤดูกาล 2022–23, ครั้งที่ 142 ของทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก, สมาคมฟุตบอล ชาลเลนจ์ คัพ. ซึ่งจะลงเล่นที่ สนามกีฬาเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน, ประเทศอังกฤษ, ในวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2023 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ซิตี และ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรกของ แมนเชสเตอร์ดาร์บี ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย

แมนเชสเตอร์ซิตีชนะนัดนี้ 2–1 ส่งผลให้เป็นแชมป์เอฟเอคัพของพวกเขาเป็นสมัยที่เจ็ดและเป็นดับเบิลแชมป์ในครั้งที่สอง. อิลไค กึนโดอัน ทำลายสถิติสำหรับประตูที่เร็วที่สุดในเอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ, ทำประตูได้ในเวลาเพียง 12 วินาที.

เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ

[แก้]
แมนเชสเตอร์ซิตี รอบ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
คู่แข่งขัน ผล คู่แข่งขัน ผล
เชลซี (H) 4–0 3 เอฟเวอร์ตัน (H) 3–1
อาร์เซนอล (H) 1–0 4 เรดิง (H) 3–1
บริสตอลซิตี (A) 3–0 5 เวสต์แฮมยูไนเต็ด (H) 3–1
เบิร์นลีย์ (H) 6–0 QF ฟูลัม (H) 3–1
เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด (N) 3–0 SF ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน (N) 0–0 (ต่อเวลาพิเศษ)
(ดวลลูกโทษ 7–6)
สัญลักษณ์: (H) = สนามทีมเหย้า; (A) = สนามทีมเยือน; (N) = สนามกลาง

ในฐานะสโมสรจากพรีเมียร์ลีก ทั้งแมนเชสเตอร์ซิตีและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเข้าสู่การแข่งขันในรอบที่สาม. ซิตีเริ่มต้นกับชัยชนะในบ้าน 4–0 เหนือ คู่ชิงชนะเลิศปี ค.ศ. 2022 เชลซี ที่ สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์,[2] ในขณะที่ยูไนเต็ดชนะ เอฟเวอร์ตัน 3–1 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด.[3] ในรอบที่สี่, ซิตีอีกครั้งได้เล่นที่บ้าน, โดยพวกเขาเอาชนะอาร์เซนอล ผู้ที่ชนะเลิศเอฟเอคัพ 14 สมัยไปได้ 1–0.[4] ยูไนเต็ดยังต้องเจอกับการลงเล่นในบ้านอีกครั้งในรอบที่สี่, คว้าชัยชนะไปได้อีก 3–1 เหนือ เรดิง.[5] พวกเขาเก็บชัยชนะในบ้านได้อีก 3–1 ในรอบที่ห้า, เวลานี้พบกับ เวสต์แฮมยูไนเต็ด,[6] ในขณะที่ซิตีชนะ บริสตอลซิตี 3–0 ที่ สนามกีฬาแอชตันเกต.[7]

ในแมตช์รอบก่อนรองชนะเลิศ, แมนเชสเตอร์ซิตีกลับคืนสู่สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์, ซึ่งพวกเขาบันทึกเก็บชัยชนะ 6–0 เหนือ เบิร์นลีย์,[8] ในขณะที่ยูไนเต็ดชนะ 3–1 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด เป็นเกมที่สี่ติดต่อกันแล้ว, ฟูลัม ครั้งนี้เป็นทีมที่ตกเป็นฝ่ายตั้งรับ.[9] รอบรองชนะเลิศ ทั้งสองทีมลงเล่นที่ สนามกีฬาเวมบลีย์, กับซิตีเผชิญหน้ากับ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด ในวันที่ 22 เมษายน และ ยูไนเต็ดจะพบกับ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ในวันถัดไป. ซิตีชนะของพวกเขาไปได้ 3–0,[10] ขณะที่ยูไนเต็ดและไบรท์ตันลงเล่นด้วยการเสมอกันไปแบบไร้สกอร์หลังจาก ช่วงต่อเวลาพิเศษ ที่ต้องมีการตัดสินกันด้วยการดวลลูกโทษ; ยูไนเต็ดชนะการยิงลูกโทษไป 7–6.[11]

แมตช์

[แก้]
แมนเชสเตอร์ซิตี2–1แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
รายงาน
แมนเชสเตอร์ซิตี
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
GK18ประเทศเยอรมนี ชเต็ฟฟัน ออร์เทกาโดนใบเหลือง ใน 81 นาที 81'
CB2ประเทศอังกฤษ ไคล์ วอล์กเกอร์Substituted off in the 90+5 นาที 90+5'
CB3ประเทศโปรตุเกส รูแบน ดียัช
CB25ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มานูเอ็ล อาคันจี
CM5ประเทศอังกฤษ จอห์น สโตนส์
CM16ประเทศสเปน โรดริโดนใบเหลือง ใน 90 นาที 90'
RW20ประเทศโปรตุเกส บือร์นาร์ดู ซิลวา
AM17ประเทศเบลเยียม เกฟิน เดอ เบรยเนอSubstituted off in the 76 นาที 76'
AM8ประเทศเยอรมนี อิลไค กึนโดอัน (กัปตัน)
LW10ประเทศอังกฤษ แจ็ก กรีลิชSubstituted off in the 89 นาที 89'
CF9ประเทศนอร์เวย์ อาลิง โฮลัน
ผู้เล่นสำรอง:
GK31ประเทศบราซิล แอแดร์ซง
DF6ประเทศเนเธอร์แลนด์ นาตัน อาเกSubstituted on in the 89 minute 89'
DF14ประเทศสเปน แอมริก ลาปอร์ตSubstituted on in the 90+5 minute 90+5'
DF82ประเทศอังกฤษ ริโค ลูวิส
MF4ประเทศอังกฤษ แคลวิน ฟิลลิปส์
MF47ประเทศอังกฤษ ฟิล โฟเดนSubstituted on in the 76 minute 76'
MF80ประเทศอังกฤษ โคล พาลเมอร์
FW19ประเทศอาร์เจนตินา ฆูเลียน อัลบาเรซ
FW26ประเทศแอลจีเรีย ริยาฎ มะห์รัซ
ผู้จัดการทีม:
ประเทศสเปน แป็ป กวาร์ดิออลา
GK1ประเทศสเปน ดาบิด เด เฆอา
RB29ประเทศอังกฤษ แอรอน แวน-บิสซากาโดนใบเหลือง ใน 45+4 นาที 45+4'
CB19ประเทศฝรั่งเศส ราฟาแอล วารานSubstituted off in the 83 นาที 83'
CB2ประเทศสวีเดน วิกตอร์ ลินเดอเลิฟ
LB23ประเทศอังกฤษ ลู้ก ชอว์
CM18ประเทศบราซิล กาเซมีรู
CM17ประเทศบราซิล แฟรจีโดนใบเหลือง ใน 79 นาที 79'
RW8ประเทศโปรตุเกส บรูนู ฟือร์นังดึช (กัปตัน)
AM14ประเทศเดนมาร์ก เครสแจน อีเรกเซินSubstituted off in the 62 นาที 62'
LW25ประเทศอังกฤษ เจดอน แซนโชSubstituted off in the 78 นาที 78'
CF10ประเทศอังกฤษ มาร์คัส แรชฟอร์ด
ผู้เล่นสำรอง:
GK31ประเทศอังกฤษ แจ็ก บัตแลนด์
DF5ประเทศอังกฤษ แฮร์รี แมไกวร์
DF12ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตีเรลล์ มาลาเซีย
DF20ประเทศโปรตุเกส ดีโยกู ดาโล
MF39ประเทศสกอตแลนด์ สกอตต์ แม็กโทมิเนย์Substituted on in the 83 minute 83'
FW27ประเทศเนเธอร์แลนด์ เวาต์ เวคอสต์Substituted on in the 78 minute 78'
FW28ประเทศอุรุกวัย ฟากุนโด เปลิสตริ
FW36ประเทศสวีเดน แอนโทนี เอลังกา
FW49ประเทศอาร์เจนตินา อาเลฆันโดร การ์นาโชSubstituted on in the 62 minute 62'
ผู้จัดการทีม:
ประเทศเนเธอร์แลนด์ เอริก เติน ฮัค

ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:
อิลไค กึนโดอัน (แมนเชสเตอร์ซิตี)

ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:[1]
นีล เดวีส์ (ลอนดอน)
สกอตต์ เลดเจอร์ (เซาท์ ยอร์คเชอร์)
ผู้ตัดสินที่สี่:[1]
ปีเตอร์ แบงก์ส (เมอร์ซีย์ไซด์)
ผู้ช่วยผู้ตัดสินสำรอง:[1]
อาเดรียน โฮล์มส์ (เวสต์ ยอร์คเชอร์)
ผู้ช่วยผู้ตัดสินใช้วีดิทัศน์:[1]
เดวิด คูต (นอตทิงแฮมเชอร์)
ผู้ช่วยของผู้ช่วยผู้ตัดสินใช้วีดิทัศน์:[1]
ไซมอน ลอง (คอร์นวอลล์)

กฏ-กติกา

  • 90 นาที
  • 30 นาทีของ การต่อเวลาพิเศษ ในกรณีที่จำเป็น
  • การดวลลูกโทษ ถ้าผลการแข่งขันยังคงเสมอกัน
  • มีรายชื่อตัวสำรองได้ถึงเก้าคน
  • การเปลี่ยนตัวสูงสุดได้ถึงห้าคน, กับคนที่หกอนุญาตได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ[note 1]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. แต่ละทีมจะได้รับโอกาสในการเปลี่ยนตัวเพียงแค่สามครั้งเท่านั้น, ด้วยโอกาสครั้งที่สี่ในช่วงต่อเวลาพิเศษ, นับรวมการเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่เกิดขึ้นช่วงพักครึ่งแรก, ก่อนเริ่มต้นของช่วงต่อเวลาพิเศษและช่วงพักครึ่งเวลาแรกในช่วงต่อเวลาพิเศษ.

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 3 4 5 6 7 "Paul Tierney to referee 2023 Emirates FA Cup Final". The Football Association. 17 May 2023. สืบค้นเมื่อ 17 May 2023. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "officials" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  2. McNulty, Phil (8 January 2023). "Manchester City 4-0 Chelsea". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.
  3. Stone, Simon (6 January 2023). "Manchester United 3-1 Everton". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.
  4. McNulty, Phil (27 January 2023). "Manchester City 1-0 Arsenal". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.
  5. Sutcliffe, Steve (28 January 2023). "Manchester United 3-1 Reading". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.
  6. Emons, Michael (1 March 2023). "Manchester United 3-1 West Ham". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.
  7. Begley, Emlyn (28 February 2023). "Bristol City 0-3 Manchester City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.
  8. Stone, Simon (18 March 2023). "Manchester City 6-0 Burnley". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.
  9. Stone, Simon (19 March 2023). "Manchester United 3-1 Fulham". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.
  10. McNulty, Phil (22 April 2023). "Manchester City 3-0 Sheffield United". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.
  11. McNulty, Phil (23 April 2023). "Brighton 0-0 Man Utd (6-7 on pens)". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 23 April 2023.