เอนโซ เฟร์นันเดซ (นักฟุตบอลเกิด พ.ศ. 2544)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เอนโซ เฟร์นันเดซ
เฟร์นันเดซในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม เอนโซ เฆเรมิอัส เฟร์นันเดซ[1]
วันเกิด (2001-01-17) 17 มกราคม ค.ศ. 2001 (23 ปี)
สถานที่เกิด ซานมาร์ติน, อาร์เจนตินา
ส่วนสูง 1.78 เมตร (5 ฟุต 10 นิ้ว)[2]
ตำแหน่ง กองกลางตัวกลาง[3]
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
เชลซี
หมายเลข 8
สโมสรเยาวชน
2005–2006 กลุบลาเรโกบา
2006–2019 ริเบร์เปลต
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2019–2022 ริเบร์เปลต 40 (10)
2020–2021เดเฟนซาอิฆุสติเซีย (ยืมตัว) 14 (0)
2022–2023 ไบฟีกา 17 (1)
2023– เชลซี 32 (7)
ทีมชาติ
2019 อาร์เจนตินา อายุไม่เกิน 18 ปี 2 (0)
2022– อาร์เจนตินา 12 (2)
เกียรติประวัติ
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 21:24, 11 มีนาคม 2023
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 22:00, 18 ธันวาคม 2022

เอนโซ เฆเรมิอัส เฟร์นันเดซ (สเปน: Enzo Jeremías Fernández) (เกิด 17 มกราคม 2001) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอาร์เจนตินา ซึ่งเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวกลางให้กับสโมสรเชลซีในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติอาร์เจนตินา

เป็นนักฟุตบอลเยาวชนของสโมสรริเบร์เปลต เฟร์นันเดซเปิดตัวกับทีมใหญ่ในปี 2019 ก่อนที่จะใช้เวลาสองฤดูกาลกับเดเฟนซาอิฆุสติเซียด้วยการยืมตัว ที่นั่น เขาสนุกกับแคมเปญขอบทีมซึ่งทำให้เขาได้แชมป์โกปาซูดาเมริกานา และเรโกปาซูดาเมริกานา ก่อนที่เขาจะกลับมาริเบร์เปลตในปี 2021 หลังจากกลับมา เฟร์นันเดซได้กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของริเบร์เปลตในปีต่อ ๆ มา และเขาได้แชมป์ปริเมราดิบิซิออนเดอาร์เฆนตินา ในเดือนกรกฎาคม 2022 เขาเข้าร่วมสโมสรไบฟีกาในปรีไมราลีกาในโปรตุเกส

เฟร์นันเดซเป็นอดีตเยาวชนทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นตัวแทนของประเทศของเขาในทีมชาติอาร์เจนตินา อายุไม่เกิน 18 ปี ก่อนที่จะลงเดบิวต์ทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2022

สโมสร[แก้]

ริเบร์เปลต[แก้]

ช่วงแรก[แก้]

เกิดในซานมาร์ติน, อาร์เจนตินา เฟร์นันเดซเป็นหนึ่งในพี่น้องห้าคนที่เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ให้กับสโมสรกลุบลาเรโกบา ในช่วงที่เขายังเพิ่งเริ่มเล่น ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมสโมสรริเบร์เปลตในปี 2006.[4][5] หลังจากใช้เวลาสิบสามปีพัฒนาผ่านนะดับต่าง ๆ ขึ้นมา เฟร์นันเดซได้ถูกโปรโมตขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่โดยผู้จัดการทีมมาร์เซโล กายาร์โด ในวันที่ 27 มกราคม 2019 ในเกมที่แพ้ให้กับปาโตรนาโตในบ้าน 3-1 ในปริเมราดิบิซิออน ถึงแม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองก็ตาม[2] เขาได้ลงเดบิวต์ให้ทีมใหญ่ในวันที่ 4 มีนาคม 2020 โดยลงมาเล่นแทนซานเตียโก โซซาในนาทีที่ 75 ในแมตช์ที่แพ้ให้กับเอเลเดอูกิโต 3-0 ในในโกปาลิเบร์ตาโดเรส[2] หลายสัปดาห์ก่อน เขาทำประตูได้ครั้งหนึ่ง ในเกมที่เอาชนะลิเบร์ตัดไป 6-1, ใน 4 นัดในโกปาลิเบร์ตาโดเรสรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี 2020ที่ประเทศปารากวัย[2]

2020–21: ยืมตัวไปเล่นให้ดิเฟนซาอิฆุสติเซีย[แก้]

แม้จะถูกใช้งานบ้างประปราย แต่โค้ชของเฟร์นันเดซก็แนะนำให้เขาออกจากสโมสรแบบยืมตัวเพื่อพัฒนาฝีเท้าต่อไป[6] ในเดือนสิงหาคม เฟร์นันเดซถูกปล่อยยืมตัวไปยังสโมสรระดับท็อปเดเฟนซาอิฆุสติเซีย[2][7] เขาได้ลงเล่นเดบิวต์ให้กับ "อัลกอน" ในวันที่ 18 กันยายน โดยผู้จัดการทีมเอร์นัน เกรสโปในเกมที่เอาชนะ เดลฟินไป 3-0 ในโกปาลิเบร์ตาโดเรส[2][8] ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้เล่นตัวจริง ผลงานของเขาก็สร้างความประทับใจให้กับผู้จัดการทีมได้ จนเขาได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงของทีม และช่วยให้สโมสรได้แชมป์โกปาซูดาเมริกานา 2020 ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมที่เอาชนะทีมจากอาร์เจนตินาด้วยกันอย่างลานุสไป 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศ เป็นการได้แชมป์ครั้งแรกในอาชีพ[6]

2021–22: ขึ้นสู่ชุดใหญ่[แก้]

หลังผลงานที่ยอดเยี่ยมจากการออกไปเล่นกับทีมอื่นแบบยืมตัว เฟร์นันเดซกลับมายังริเบร์เปลตในระหว่างฤดูกาลโดยคำขอของมาร์เซโล กายาร์โด โดยกลับมาในวันที่ 15 กรกฎาคม 2021 ในโกปาลิเบร์ตาโดเรส รอบ 16 ทีม เลกแรก ในเกมเปิดบ้านเสมอกับทีมจากอาร์เจนตินา 1–1 อาร์เฆนติโนสยูนิออร์ส[6] เขากลายเป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมทันที และในวันที่ 14 สิงหาคม เขาทำประตูแรกให้กับสโมสรได้และทำอีก 1 แอสซิสต์ในเกมที่เอาชนะเบเลซซาร์ฟิลไป 2-0 ในปริเมราดิบิซิออน[6] ในวันที่ 20 ธันวาคม เขาตกลงต่อสัญญากับสโมสรไปจนถึงปี 2025[9] หลังจากการออกสตาร์ทที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2022 ซึ่งเขาทำประตูได้ 8 ประตูและอีก 6 แอสซิสต์ใน 19 นัด เฟร์นันเดซได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในอาร์เจนตินา ถูกแมวมองของทีมจากยุโรปจับตาดู[6][10][11][12]

ไบฟีกา[แก้]

ในวันที่ 23 มิถุนายน 2022 ริเบร์เปลตได้บรรลุข้ตกลงกับสโมสรจากปรีไมราลีกา ไบฟีกา สำหรับการย้ายทีมของเฟร์นันเดซ ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโรสำหรับการมีสิทธิ 75% ในตัวนักเตะ และแอดส์-ออนส์อีก 8 ล้านยูโร แต่ตัวผู้เล่นยังจะคงเล่นให้ริเบร์เปลตจนจบรายการโกปาลิเบร์ตาโดเรส[13][14] หลังจากริเบร์เปลตตกรอบ 16 ทีมในโกปาลิเบร์ตาโดเรส ในวันที่ 14 กรกฎาคม ไบฟีกายืนยันข้อตกลงซื้อขาย[15] โดยเขาได้รับเสื้อหมายเลข 13 ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกใช้โดยตำนานของสโมสรเอวแซบียู[16]

เขาลงเดบิวต์ให้กับสโมสรในวันที่ 2 สิงหาคม ทำประตูแรกของเขาให้กับสโมสรได้ โดยยิงลูก half-volley จากนอกกรอบเขตโทษ ในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะมีขื่อแลนไป 4-1 ในเลกแรกของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2022-23 รอบคัดเลือกรอบที่สาม ก่อนที่เขาจะทำประตูได้อีกในเกมต่อมาของไบฟีกาในปรีไมราลีกา กับอาโรวกา (4–0) และในเลกที่สองของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือกรอบที่สามกับมีจือแลน (3–1)[17] ผลงานอันน่าประทับใจของเขายังคงดำเนินต่อไปตลอดทั้งเดือน และหลังจากเก็บชัยชนะได้ 5 นัดติดต่อกันและไม่เสียประตู 3 นัด เขาได้รับเลือกให้เป็นกองกลางยอดเยี่ยมประจำเดือนของปรีไม่ราลีกา[18]

ทีมชาติ[แก้]

ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2019 เฟร์นันเดซได้ถูกเรียกติดทีมชาติอาร์เจนตินา U18 ของผู้จัดการทีมเอสเตบัน โซลาริ เป็นตัวแทนของประเทศไปแข่งขันรายการโกติฟทัวร์นาเมนต์ 2019ที่ประเทศสเปน[4][19] ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2021 เขาถูกเรียกติดทีมชาติอาร์เจนตินาของผู้จัดการทีม ลิโอเนล สกาโลนิ สำหรับเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบควอลิฟายสองเกมกับ บราซิล และอุรุกวัย[6] เขาลงเดบิวต์ให้ทีมชาติชุดใหญ่ในวันที่ 24 กันยายน 2022 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทนเลอันโดร ปาเรเดส ในนาทีที่ 64 ในเกมที่เอาชนะฮอนดูรัสไป 3-0[20]

ในวันที่ 11 พฤศจิกายน เขามีชื่อในรายชื่อผู้เล่น 26 คนของอาร์เจนตินาที่จะไปทำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022[21] หลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทนกิโด โรดริเกซในนาทีที่ 57 ในวันที่ 26 พฤศจิกายน เฟร์นันเดซทำประตูแรกของเขาให้กับทีมชาติได้ ให้อาร์เจนตินาขึ้น 2-0 เป็นประตูการันตีชัยชนะของอาร์เจนตินาเหนือเม็กซิโก จากที่เขาทำได้แบบนี้ เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดคนที่สองตลอดกาล (รองจาก ลิโอเนล เมสซิ) ที่ทำประตูในฟุตบอลโลกให้อาร์เจนตินาได้เมื่ออายุ 21 ปี 10 เดือน 13 วัน[22]

สไตล์การเล่น[แก้]

ชีวิตส่วนตัว[แก้]

เฟร์นันเดซถูกตั้งชื่อตามแชมป์โกปาอาเมริกา 3 สมัย เอนโซ ฟรันเซสโกลิ เพราะความชื่นชอบของราอูล พ่อของเขาที่มีต่อนักฟุตบอลชาวอุรุกวัย[5]

สถิติ[แก้]

สโมสร[แก้]

ณ วันที่ ลงเล่นครั้งสุดท้าย 13 พฤษภาคม 2023[2][23]
จำนวนนัดที่ลงเล่นและประตูโดย สโมสร, ฤดูกาล และรายการการแข่งขัน
สโมสร ฤดูกาล ลีก ถ้วยแห่งชาติ ลีกคัพ ทวีป อื่น ๆ รวม
ระดับ ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
ริเบร์เปลต 2019–20 ปริเมราดิบิซิออนเดอาร์เฆนตินา 0 0 0 0 0 0 1[a] 0 1 0
2021 20 2 0 0 3[a] 0 1[b] 0 24 2
2022 20 8 0 0 6[a] 2 0 0 26 10
รวม 40 10 0 0 0 0 10 2 1 0 51 12
เดเฟนซาอิฆุสติเซีย (ยืมตัว) 2020–21[nb 1] ปริเมราดิบิซิออนเดอาร์เฆนตินา 4 0 2 0 1 0 10[c] 1 17 1
2021 10 0 0 0 4[a] 0 2[d] 0 16 0
รวม 14 0 2 0 1 0 14 1 2 0 33 1
ไบฟีกา 2022–23 ปรีไมราลีกา 17 1 3 1 0 0 9[e] 2 24 3
เชลซี 2022–23[2] พรีเมียร์ลีก 15 0 4 0 19 0
รวมทั้งหมด 86 11 5 1 1 0 37 5 3 0 132 17
  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 จำนวนนัดที่ลงเล่นในโกปาลิเบอร์ตาโดเรส
  2. จำนวนนัดที่ลงเล่นในโตรเฟโอเดกัมเปโอเนส
  3. ลงเล่น 4 นัดในโลกปาลิเบร์ตาโดเรส, 6 นัดและ 1 ประตูในโกปาซูดาเมริกานา
  4. จำนวนนัดที่ลงเล่นในเรโกปาซูดาเมริกานา
  5. จำนวนนัดที่ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

ทีมชาติ[แก้]

ณ วันที่ ลงเล่นครั้งสุดท้าย 26 พฤศจิกายน 2022[2]
จำนวนนับที่ลงเล่นและประตูโดย ทีมชาติ และปี
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
อาร์เจนตินา 2022 5 1
รวม 5 1
ณ วันที่ ลงเล่นครั้งสุดท้าย 26 พฤศจิกายน 2022. รายการสกอร์และผลการแข่งขันของอาร์เจนตินาจะขึ้นก่อน ช่องคอลัมน์ของสกอร์จะแสดงผลหลังจากเฟร์นันเดซทำประตูได้แล้ว
ประตูในทีมชาติที่ทำได้โดยเอนโซ เฟร์นันเดซ
ลำดับ วัน สนาม ลงเล่นเป็นเกมที่ ทีมตรงข้าม สกอร์ ผลการแข่งขัน รายการการแข่งขัน
1 26 พฤศจิกายน 2022 สนามกีฬานานาชาติลูซัยล์, ลูซัยล์, กาตาร์ 5 ธงชาติเม็กซิโก เม็กซิโก 2–0 2–0 ฟุตบอลโลก 2022

เกียรติประวัติ[แก้]

สโมสร[แก้]

เดเฟนซาอิฆุสติเซีย

ริเบร์เปลต

รางวัลส่วนตัว

ทีมชาติ[แก้]

อาร์เจนตินา

หมายเหตุ[แก้]

  1. Soccerway นับเกมที่ลงเล่นในโกปาเดลาลิกาโปรเฟซโอนัลเป็นเกมลีก

อ้างอิง[แก้]

  1. "FIFA World Cup Qatar 2022 – Squad list: Argentina (ARG)" (PDF). FIFA. 15 พฤศจิกายน 2022. p. 1. สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2022.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 2.7 2.8 "Argentina – E. Fernández". Soccerway. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2020.
  3. "Enzo Fernández". World Football. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2020.
  4. 4.0 4.1 "Enzo Fernández: "En River tenés que tener una actitud mental ganadora"". River Plate. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2020.
  5. 5.0 5.1 "Enzo Fernández, el juvenil de River que brilla en la Copa Libertadores para Defensa y Justicia". Clarín. 26 กันยายน 2020. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2020.
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5 "Enzo Fernández: o "herdeiro" de Francescoli que convence rapidamente". Mais Futebol. 23 มิถุนายน 2022. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2022.
  7. "Fernández: "Esta oportunidad que me da Defensa es muy importante"". Vavel. 4 กันยายน 2020. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2020.
  8. "Copa Libertadores. Enzo Fernández: la joya del semillero de River que se lució en Defensa y Justicia". La Nación. 24 กันยายน 2020. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2020.
  9. "Enzo Fernández renewed until 2025 with a million-dollar clause". www.ole.com.ar (ภาษาอังกฤษ). 20 ธันวาคม 2021.
  10. "Enzo Fernández, con el ADN de River, despierta interés en Europa". 11 เมษายน 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 พฤษภาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2022.
  11. "Reportagem: Tales Torraga - Na mira do Real e da Argentina para a Copa: Quem é o novo craque do River".
  12. "Enzo Fernández, el que hace jugar y gritar a River". 24 เมษายน 2022.
  13. "OFICIAL: Benfica tem princípio de acordo por Enzo Fernández". MaisFutebol. 23 มิถุนายน 2022. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2022.
  14. "Agora é oficial e com moldes diferentes do esperado: Benfica com "princípio de acordo" para contratar Enzo Fernández". Observador. 23 มิถุนายน 2022. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2022.
  15. "Enzo Fernández is a Benfica player!". SL Benfica. 14 กรกฎาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2022.
  16. "EUSÉBIO 'AJUDOU' ENZO FERNÁNDEZ A ESCOLHER O NÚMERO". A Bola. 14 กรกฎาคม 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 กรกฎาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2022.
  17. "Enzo Fernández e o hygge à Benfica". Tribuna Expresso. 9 สิงหาคม 2022.
  18. "Melhores de agosto: Enzo Fernández é o Médio do Mês da Liga Portugal bwin". Liga Portugal (ภาษาโปรตุเกส). 8 กันยายน 2022. สืบค้นเมื่อ 9 กันยายน 2022.
  19. "Con Enzo Fernández entre los posibles citados, la Sub 18 defenderá el Torneo de L'Alcúdia". La Página Millonaria. 19 กรกฎาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2020.
  20. "Messi bisa na estreia de Enzo Fernández". 24 กันยายน 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 ธันวาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2022.
  21. "Lista de la Selección Argentina para el Mundial de Qatar 2022" (ภาษาสเปน). TyC Sports. 11 พฤศจิกายน 2022. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2022.
  22. Garcia, Adriana (26 พฤศจิกายน 2022). "Enzo Fernández: la figura que cambió todo desde el banco". ESPN. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2022.
  23. "Ficha Estadistica de ENZO FERNANDEZ". BDFA. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]