เอดัวร์ ดาลาดีเย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เอดัวร์ ดาลาดีเย
ดาลาดีเยในทศวรรษที่ 1930
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส
ดำรงตำแหน่ง
10 เมษายน 1938 – 21 มีนาคม 1940
ประธานาธิบดีอาลแบร์ เลอเบริง
ก่อนหน้าเลอง เบิล์ม
ถัดไปปอล แรโน
ดำรงตำแหน่ง
30 มกราคม 1934 – 9 กุมภาพันธ์ 1934
ประธานาธิบดีอาลแบร์ เลอเบริง
ก่อนหน้าCamille Chautemps
ถัดไปGaston Doumergue
ดำรงตำแหน่ง
31 มกราคม 1933 – 26 ตุลาคม 1933
ประธานาธิบดีอาลแบร์ เลอเบริง
ก่อนหน้าJoseph Paul-Boncour
ถัดไปAlbert Sarraut
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ดำรงตำแหน่ง
4 มิถุนายน 1936 – 18 พฤษภาคม 1940
นายกรัฐมนตรีเลอง เบิล์ม
Camille Chautemps
ตัวเอง
ก่อนหน้าLouis Maurin
ถัดไปปอล แรโน
ดำรงตำแหน่ง
18 ธันวาคม 1932 – 29 มกราคม 1934
นายกรัฐมนตรีJoseph Paul-Boncour
Himself
ก่อนหน้าJoseph Paul-Boncour
ถัดไปJean Fabry
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส
ดำรงตำแหน่ง
2 มิถุนายน 1946 – 8 ธันวาคม 1958
เขตเลือกตั้งโวกลูซ
ดำรงตำแหน่ง
16 พฤศจิกายน 1919 – 10 กรกฎาคม 1940
เขตเลือกตั้งโวกลูซ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด18 มิถุนายน ค.ศ. 1884(1884-06-18)
Carpentras โวกลูซ ฝรั่งเศส
เสียชีวิต10 ตุลาคม ค.ศ. 1970(1970-10-10) (86 ปี)
ปารีส ฝรั่งเศส
พรรคการเมืองพรรคสังคมนิยมหัวรุนแรง
คู่สมรส
  • Madeleine Laffont (สมรส 1917; 1932)
  • Jeanne Boucoiran
    (สมรส 1951)
บุตรฌ็อง
ปีแยร์
มารี
การศึกษาCollège-lycée Ampère
วิชาชีพนักประวัติศาสตร์ ครู
ลายมือชื่อ
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ฝรั่งเศส
สังกัดสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3 กองทัพฝรั่งเศส
ประจำการ1914–1919
1945
ยศกัปตัน
ผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

สงครามโลกครั้งที่สอง

เอดัวร์ ดาลาดีเย (ภาษาฝรั่งเศส: [edwaʁ daladje]; 18 มิถุนายน ค.ศ. 1884 – 10 ตุลาคม ค.ศ. 1970) เป็นนักการเมืองฝ่ายสังคมนิยมหัวรุนแรง (กลาง-ซ้าย) ชาวฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เขาเป็นผู้ลงนามในความตกลงมิวนิก อันเป็นจุดเริ่มต้นของการปะทุขึ้นของสงครามโลกครั้งที่สอง

ดาลาดีเยเกิดที่เมืองคาร์เปนทราสและเขาได้เริ่มอาชีพทางการเมืองในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เขาได้ร่วมต่อสู้ในแนวรบด้านตะวันตก และได้รับเหรียญกล้าหาญในการรับใช้ชาติของเขา เมื่อสงครามโลกยุติลง เขากลายเป็นผู้นำแห่งพรรคหัวรุนแรงและนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ ค.ศ. 1933 จนถึง ค.ศ. 1934 ดาลาดีเยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตั้งแต่ ค.ศ. 1936 จนถึ ค.ศ. 1940 และกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งใน ค.ศ. 1938 ในขณะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล เขาได้ขยายรัฐสวัสดิการของฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1939

ดาลาดีเยได้ลงนามในความตกลงมิวนิกใน ค.ศ. 1938 พร้อมกับ เนวิล เชมเบอร์ลิน เบนิโต มุสโสลินี และอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นข้อตกลงเพื่อให้นาซีเยอรมนีควบคุมพื้นที่ซูเดเทินลันท์ หลังจากฮิตเลอร์สั่งบุกโปแลนด์ใน ค.ศ. 1939 สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสจึงได้ประกาศสงครามกับเยอรมนี ในช่วงสงครามลวง ฝรั่งเศสล้มเหลวในการช่วยเหลือฟินแลนด์เพื่อต่อต้านการรุกรานจากสหภาพโซเวียตระหว่างสงครามฤดูหนาว นำไปสู่การลาออกจากตำแหน่งของดาลาเดียร์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1940 และ ปอล แรโน ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนเขา ดาลาดีเยยังคงเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจนกระทั่งวันที่ 19 พฤษภาคม เมื่อฝรั่งเศสพ่ายแพ้แก่เยอรมนีที่เซอด็อง

หลังจากความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศส ดาลาดีเยถูกกล่าวหาว่าพยายามขายชาติโดยรัฐบาลวีชี ระหว่างการพิจารณาคดี ดาลาดีเยถูกเปลี่ยนที่กุมขังอยู่หลายครั้ง รวมทั้งค่ายกักกันบูเคินวัลท์ด้วย จนในที่สุด หลังจากยุทธการยึดปราสาทอิทเทอร์ ดาลาดีเยกลับมาทำอาชีพทางการเมืองอีกครั้งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งฝรั่งเศสตั้งแต่ ค.ศ. 1946 จนถึง ค.ศ. 1958 เขาถึงแก่อสัญกรรมที่ปารีสใน ค.ศ. 1970