เหมืองถ่านหินอมบีลิน
มรดกการทำเหมืองถ่านหินอมบีลิน แห่งซาวะฮ์ลุนโต Ombilin Coal Mining Heritage of Sawahlunto * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
ทางเข้าเหมืองถ่านหินอมบีลินใน ค.ศ. 1971 | |
พิกัด | 0°41′S 100°46′E / 0.683°S 100.767°E |
ประเทศ | อินโดนีเซีย |
ภูมิภาค ** | เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
เกณฑ์พิจารณา | (ii), (iv) |
อ้างอิง | 1610 |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 2562 (คณะกรรมการสมัยที่ 43) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
เหมืองถ่านหินอมบีลิน (อังกฤษ: Ombilin Coal Mine) คือเหมืองใกล้เมืองซาวะฮ์ลุนโต (Sawahlunto) ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาแคบๆ ของภูเขาบูกิต บาริซาน (Bukit Barisan) ใกล้กับเมืองปาดัง ทางตะวันออกเฉียงเหนือ 70 กิโลเมตร ถ่านหินถูกค้นพบในกลางศตวรรษที่ 19 โดยวิลเลม เฮนริก เดอ เกรฟ (Willem Hendrik de Greve) และการทำเหมืองได้รับการบุกเบิกในบริเวณนี้ใน ค.ศ. 1876 เหมืองเป็นที่รู้จักในฐานะที่ตั้งการทำเหมืองถ่านหินที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[1]
ประวัติ
[แก้]ถ่านหินถูกค้นพบในบริเวณนี้ใน ค.ศ. 1868 โดยวิลเลม เฮนริก เดอ เกรฟ นักธรณีวิทยาชาวดัตช์ การทำเหมืองเปิดเริ่มใน ค.ศ. 1892 หลังจากการก่อสร้างทางรถไฟ ในช่วงก่อนประกาศอิสรภาพ การผลิตถ่านหินถึงจุดสูงสุดใน ค.ศ. 1930 ที่มากกว่า 620,000 ตันต่อปี นักโทษจากชวาและสุมาตราถูกส่งมาที่เหมืองด้วยขา มือ และคอที่ล่ามโซ่ไว้ พวกเขาหลายเป็นแรงงานหลักของเหมืองนี้ การผลิตถ่านหินของเหมืองนี้สามารถเติมเต็มความต้องการทางพลังงาน 90 เปอร์เซ็นต์ของหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ (Dutch East Indies)
ใน ค.ศ. 1942-1945 เหมืองถูกควบคุมโดยญี่ปุ่น และความรุ่งเรืองของเหมืองได้เสื่อมลง ใน ค.ศ. 1945-1958 เหมืองถูกบริหารโดยคณะกรรมการการทำเหมือง และใน ค.ศ. 1958-1968 สำนักงานกิจการการทำเหมืองของรัฐ ใน ค.ศ. 1968 เหมืองกลายเป็นกองการผลิตอมบีลิน ของกิจการการทำเหมืองของรัฐ การผลิตพุ่งสุ่จุดสูงสุดใน ค.ศ. 1976 ที่ 1,201,846 ตันต่อปี[2]
จนกระทั่งใน ค.ศ. 2002 เหมืองถูกดำเนินการในฐานะเหมืองเปิด หลังจากนั้นเหมืองใต้ดินเท่านั้นที่ยังคงดำเนินการอยู่ ในเร็วๆนี้ บริษัท CNTIC ได้ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์กับเหมืองนี้ เจ้าของเหมืองแห่งนี้คือ PT Tambang Batubara Bukit Asam (PTBA) และดำเนินการโดย China National Technology Import-Export Corporation (CNTIC) ของจีน ปัจจุบันเหมืองแห่งนี้ผลิตถ่านหินได้ประมาณ 5 แสนตันต่อปี
มรดกโลก
[แก้]การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 43 ค.ศ. 2019 มรดกการทำเหมืองถ่านหินอมบีลินแห่งซาวะฮ์ลุนโตได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา[3] ดังนี้
- (ii) - เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
- (iv) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Ombilin coal mine makes it into UNESCO World Heritage list en.antaranews.com
- ↑ From COAL MINE to tourist spot thejakartapost.com
- ↑ Ombilin Coal Mining Heritage of Sawahlunto unesco.org